Superrich หลากสีสัน ตัวกลางแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลหนึ่งไปสู่เงินอีกสกุลหนึ่ง มีตั้งเรียงรายให้เห็นอยู่ทั่วเมือง ทั้ง SPR Superrich (1965) สีส้ม Superrich (Thailand) สีเขียว ล่าสุด คือ Grand Superrich สีฟ้า สร้างคำถามให้กับผู้พบเห็นเสมอว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ที่ไหนดีกว่ากัน แล้วใครเป็นต้นตำรับ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ยี่ห้อ Superrich ก็คือ ผู้มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในวงการ MC (Money Exchanger) จากจำนวนผู้เล่นกว่า 2,000 ราย คำตอบกลาง ๆ สำหรับคำถามข้างต้น คือ แม้หลากสีแต่ถือว่ามีสายสัมพันธ์ในครอบครัวเดียวกัน แต่ด้วยความแตกต่างทางนโยบายในการบริหารธุรกิจ ทำให้ทั้ง 3 แห่งนั้น ถือว่าแยกจากกันโดยเด็ดขาด ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
ผลพวงจากเทรนด์การเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่ภาครัฐให้การส่งเสริม รวมถึงความน่ารักของผู้คน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม บวกกับค่าครองชีพที่ไม่แพงมากนัก ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากขึ้น ธุรกิจนี้จึงเติบโตเป็นเงาตามตัวของการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากแดนมังกร สู่ จิตรพาณิชย์ กว่าจะมาเป็น Superrich ในทุกวันนี้ ความสำเร็จไม่ใช่ได้มาโดยง่าย
ก่อนจะถึงวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากรุ่นคุณปู่ นายตั้งเกาเตี้ย ได้ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินสกุลหยวน แถวบ้านหม้อ ที่เป็นแหล่งค้าเพชรพลอยมาก่อน แต่ภายหลังก็ได้ยุติกิจการลง
จนมาถึงรุ่นคุณพ่อ (คุณวิบูลย์ ตันติเวชยานนท์) ได้หวนกลับมาจับธุรกิจนี้อีกครั้ง เมื่อเห็นช่องทางการแลกเปลี่ยนเงิน จากการทำงานกับบริษัททัวร์ ดังนั้นในช่วงปี1964 (พ.ศ. 2507) จึงได้ตัดสินใจเช่าอาคารพาณิชย์ที่มีใบประกอบอนุญาตทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เปิดร้านในนาม “จิตรพาณิชย์” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจครอบครัว ในรูปแบบกงสี แต่ความที่ยังไม่ค่อยแตกฉานเรื่องสกุลเงิน จึงต้องทำการศึกษาอย่างหนัก ถือเป็นช่วงที่ลำบากมาก ซ้ำธุรกิจยังถูกโจรปล้น เกิดความเสียหาย จึงคิดหาชื่อใหม่ ทำเลใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต นั่นคือที่มาของชื่อ “Superrich” ส่วน สีส้ม มีที่มาจากความเชื่อที่วันปีใหม่จีน (ตรุษจีน) นิยมมอบส้มให้แก่กัน เพราะเป็นการให้โชคลาภ เป็นสิ่งมงคล จึงนำมาใช้กับบริษัท กิจการเริ่มต้นจาก 2 สามีภรรยาโดยแท้ จนทุกวันนี้เติบใหญ่ มีทายาท 6 คนเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว
จุดเปลี่ยนก็วนมาถึงอีกครา เมื่อคุณพ่อไม่สบาย คุณปิยะ ตันติเวชยานนท์ (รุ่นลูก) จึงถือโอกาสขอเข้าบริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์เชนจ์ (1965) ซึ่งต่อมารีแบรนด์เป็น SPR Superrich (1965) แต่ยังใช้สีส้มเหมือนเดิม จากนั้นทำการปฏิรูปบริษัท นำระบบคอมพิวเตอร์และ software โลตัส123 มาใช้เป็นครั้งแรก ผลคือมีแรงต้านจากพนักงาน เกิดการลาออกยกชุด ท้อได้แต่อย่าถอย SPR Superrich (1965) หาทางความร่วมมือกับร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราอื่นๆ จากคู่แข่งกลายเป็นคู่ค้า ทั้งยังเริ่มเปิดเว็บไซต์เพื่อสื่อสารกับลูกค้าอีกด้วย
ด้วยนโยบายการบริหารที่อาจมีความแตกต่าง ในปี 2542 Superrich จึงมีการแยกตัวออกมาเป็นแบรนด์ใหม่ ชื่อ Superrich Thailand (สีเขียว) อยู่ภายใต้การนำของ คุณอภิชัย สุสมาวัตนะกุล และล่าสุดไม่กี่ปีที่ผ่านมา Grand Superrich (สีฟ้า) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
หากเปรียบ Superrich สีส้ม เป็นดังแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหญ่ ก็ย่อมมีวันที่แม่น้ำสายใหญ่นั้นจะแตกแยกย่อยออกไปเป็นแม่น้ำสายเล็กสายน้อย ที่นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในทุกเส้นทางที่สายน้ำได้ไหลผ่าน สร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้กับธุรกิจแต่ละสายหลากสี แต่มาจากวารีหลักแม่น้ำเดียวเดียวกัน
หลากกลยุทธ์ถูกนำมาใช้ สู่การเป็น Brand Leader ในธุรกิจแลกเงิน
รายได้ของธุรกิจมาจากส่วนต่างระหว่างการรับซื้อ ขายออกของเงินต่างประเทศ ยิ่งหมุนเวียนเงินเข้าออกได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งถูกหมุนเวียนให้ทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น เมื่อตระหนักว่า ความหลากสีสร้างความสับสนให้กับลูกค้า หลายกลยุทธ์จึงถูกคิดขึ้น เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำและจะเป็นที่แรกที่ลูกค้านึกถึง
Superich แต่ละบริษัท | SPR Superrich (1965) | Superrich Thailand | Grand Superrich |
จำนวนสาขา / ความสะดวก | 34 สาขา **เน้นเส้นทางการเดินทาง | 12 สาขา ** เน้นห้าง ศูนย์การค้า | 1 สาขา ( สาขา ซอยราชดำริ 1 ) |
BTS | สยาม ชิดลม นานา อโศก อ่อนนุช หมอชิต | ช่องนนทรี | ชิดลม (เดินถึงสาขาได้) |
MRT | พระราม 9 สุขุมวิท | X | X |
Airport Rail Link | Y | X | X |
สนามบินสุวรรณภูมิ | X | Y | X |
อัตราแลกเปลี่ยน | แต่ละสาขามีอัตราแลกเปลี่ยนต่างกันเล็กน้อย | อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากันทุกสาขา ในทุกสกุลเงิน | ตรวจสอบได้ที่หน้า website
|
จุดแข็ง / กลยุทธ์ | · ซื่อสัตย์ ชื่อตรงเป็นที่รู้จักมานาน · เน้นตลาดค้าปลีก · ใช้ Competitive Price ราคาที่แข่งกันได้ · Plan นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ | · อัตราแลกเปลี่ยนที่เท่ากันทุกสาขา · เน้นราคาต่ำสุดในตลาด · เน้นภาพลักษณ์ และการบริการ · เน้นเทคโนโลยี สามารถจองแลกเงินผ่าน website และ application ได้
| · เป็นสาขาที่ใหญ่ · เดินทางสะดวก · มีบริการที่จอดรถ |
update ก.ย 2561
บทเรียนจากกรณีศึกษา Superrich
1.รักษาตำแหน่งผู้นำ ยากกว่าการขึ้นเป็นผู้นำ
ไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดได้ตลอดไป ธุรกิจต้องปรับตัวอยู่เสมอ กลยุทธ์ในวันนี้ อาจจะใช้ไม่ได้ในวันพรุ่งนี้ พฤติกรรมลูกค้า คือ เส้นทางก้าวเดินของธุรกิจ
2.บางครั้งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวธุรกิจ หากแต่อยู่ที่ความคิดคนในองค์กร
ถ้าปลดกรอบความคิดออกได้ ย่อมทลายทุกปัญหา ปัญหาที่ว่าใหญ่ ก็กลายเป็นเล็ก เปิดใจรับสิ่งใหม่ที่เข้ามา เพื่อปรับปรุงธุรกิจ “ลองดู” คำนี้ ไม่เสียหาย
3.เทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่ยังไงก็จำเป็น
ตอบโจทย์ให้ทันคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไวมาก ธุรกิจต้องตามให้ทัน ยกระดับการสื่อสาร เพื่อตอบสนองให้ตรงใจ ตรงความต้องการลูกค้าและใช้เป็นประตูนำลูกค้าใหม่ๆ มาสู่ธุรกิจของเรา
4.สร้างคุณค่าให้ได้ แล้วมูลค่าจะตามมา
อย่ามัวแต่สร้างมูลค่า เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เติมคุณค่าลงไปในธุรกิจมากพอ ทุกอย่างจะสะท้อนมาที่มูลค่าเอง พัฒนาจากภายในสู่ภายนอก และที่สำคัญ “คุณค่า” จะต้องใช้เวลาเป็นตัวสร้าง
5.ซื่อสัตย์สุจริต ท่องไว้ในใจ
ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน เพราะสินค้าคือเงิน สิ่งนี้ต้องอยู่ในความคิด อยู่ใน DNA ของผู้ที่อยู่ในองค์กรเกมนี้เสมอ
“การทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินต้องเถรตรง ที่นี่ต้องเห็นเงินเป็นกระดาษ
ถ้าเห็นเงินเป็นเงินธุรกิจจะไปไม่นาน”
คำพูดฝากไว้จากผู้บริหารรุ่นแรก ที่ฟังแล้วเป็นจริงทุกประการ
บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”
คุณ ดาริกา กลัดณรงค์ (ปุย) ปริญญาตรีเภสัชศาสตร์บัณฑิต จากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน เภสัชกร part time ของโรงพยาบาลเอกชน |
บทความเกี่ยวกับกรณีศึกษาธุรกิจ
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME