หากพูดถึง “เทพผดุงพรมะพร้าว” หลายคนอาจจะออกอาการฉงน ว่าคือบริษัทอะไร แต่หากเอ่ยถึง “กะทิชาวเกาะ” แล้วละก็น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักแบรนด์นี้ครับ
จากการลงทุนทำธุรกิจที่ขาดทุนเพราะสินค้าที่ผลิตออกมาไม่สามารถขายได้ มีแต่หนี้สิน ก้าวขึ้นมาสู่ธุรกิจที่มีรายได้เกือบหมื่นล้าน มียอดขายกะทิเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทั้งยังมีสินค้าภายใต้การผลิตทั้งหมดกว่า 200 ชนิด นี่คือผลงานของอดีตพ่อค้าแม่ค้าขายมะพร้าวลูกที่จบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 พวกเขาทำได้อย่างไร
เปิดกะลา “เทพผดุงพรมะพร้าว” จุดเริ่มต้นจากคนขายมะพร้าวลูก
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา สองสามีภรรยาคู่หนึ่งนามว่า อำพล และจรีพร เทพผดุงพร ยึดอาชีพขายมะพร้าวลูกทั้งปลีกและส่ง โดยมีหน้าร้านเป็นห้องแถวสองคูหาที่สี่แยกมหานาค ริมคลองผดุงกรุงเกษม ต่อมาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดและการขนส่งที่รวดเร็วซึ่งสมัยนั้นใช้เรือเป็นพาหนะในการขนส่งทั้งสองจึงได้ตัดสินใจย้ายจากร้านค้าเดิมมายังย่านท่าเตียน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยใช้ชื่อว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมมะพร้าว” กิจการเติบโตขึ้นมากมียอดขายมะพร้าววันละหลายแสนลูกจนไม่มีเวลานับเงินกันเลยทีเดียว จนสามารถส่งลูกๆ ไปเรียนต่างประเทศได้อย่างสบาย
จากมะพร้าวเป็นลูกๆ สู่ “กะทิชาวเกาะ” สู่ยอดขายกะทิอันดับ 1 ของโลก
เมื่อกลไกตลาดเปลี่ยนธุรกิจซื้อขายมะพร้าวก็ต้องปรับตัว การเป็นตัวกลางซื้อมาขายไปมะพร้าว ทำให้ธุรกิจขายมะพร้าวลูกของ “ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมมะพร้าว” มีรายได้ที่ลดลงมาก เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร บุตรชายคนที่ 4 ของครอบครัว มีความคิดที่จะตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อทดแทนธุรกิจเก่า ด้วยความผูกพันธุ์กับมะพร้าวมาตั้งแต่เด็กประกอบกับการได้เห็นวิถีชีวิตของคนไทยเวลามีการจัดงานทีก็ต้องเตรียมขูดมะพร้าวคั้นกะทิกันให้วุ่นวาย เขาจึงจุดประกายความคิดว่าจะทำกะทิสำเร็จรูปออกมาขาย ทางฝั่งคุณจรีพรและคุณอำพลเองก็ยินยอมสนับสนุนให้ลูกทำเพราะความเชื่อมั่นในตัวลูกทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะขายได้หรือป่าว จึงได้ก่อเกิด “บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด” ขึ้นในปี 2519 บนพื้นที่ 28 ไร่ ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 อ. สามพราน จ. นครปฐม ภายใต้การสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งชาติ (BOI) และได้รับการสนับสนุนในด้านงานวิจัยผลิตภัณฑ์ และสร้างเครื่องจักรที่ทันสมัย จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ไม่ง่ายเลยกับการที่จะไปปรับเปลี่ยนวิถีอาหารการกินและความเชื่อของคนไทย
การนำกะทิสำเร็จรูปออกสู่ตลาดผู้บริโภคของไทยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคนไทยจะคุ้นชินกับการทานกะทิที่คั้นสดใหม่ พอมาเจอกะทิสำเร็จรูปเขาไม่เชื่อว่าจะใช้ทำอาหารได้อร่อยเหมือนกะทิคั้นเอง ครอบครัวเทพผดุงพรต้องทำการตลาดอย่างหนักสารพัดวิธี ที่จะทำให้ขายได้งัดมาใช้หมด เช่น เอากะทิใส่ถังไปอ้อนวอนให้แม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ รับไว้ขายโดยที่ไม่ต้องลงทุนซื้อ แต่ก็ไม่มีแม่ค้ารายใดอยากจะรับไว้เพราะพวกเขาเชื่อว่าขายไม่ได้ ไปออกบูทตามสถานที่ต่างๆ เพื่อทำอาหารจากกะทิสำเร็จรูปให้ลูกค้าชิมบ้าง ใช้กลยุทธ์การตลาดให้ทดลองฟรีบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถขายได้สินค้าที่ผลิตออกมาต้องทิ้งไปเป็นจำนวนมากทำให้ขาดทุนและเกิดหนี้สินจำนวนมาก แต่พวกเขาไม่ยอมถอยยังคงอดทนเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป
เทพผดุงพรมะพร้าวใช้กลยุททดลองฟรีทำการตลาดอยู่ประมาณ 3 ปี ก็ประสบความสำเร็จ ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ปัจจุบันมีสินค้าภายใต้การผลิตทั้งหมดกว่า 200 ชนิด มีตลาดส่งออกถึง 36 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา โอเชียเนีย และหมู่เกาะต่างๆ ตลาดจีน ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งตลาดส่งออกถือเป็นตลาดใหญ่สำคัญเพราะรายได้กว่า 80% มาจากส่งออก
อะไรทำให้ “เทพผดุงพรมะพร้าว” ฝ่าวิกฤติมาได้และยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางคู่แข่งที่ผุดขึ้นมามากมาย
สิ่งที่ทำให้เทพผดุงพรมะพร้าวประสบความสำเร็จจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ มีด้วยกัน 3 ด้าน คือ.
- คุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน ก่อนที่จะเริ่มทำการผลิต สินค้าแต่ละชนิดออกสู่ตลาด “เทพผดุงพรมะพร้าว” จะต้องมีงานวิจัยเข้ามาเป็นส่วนสำคัญเสมอ นั่นหมายถึงสินค้าทุกตัวจะต้องได้รับการยอมรับในกระบวนการวิทยาศาสตร์ และมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้
- ราคาขายสินค้ายุติธรรม ธุรกิจของเทพผดุงพรมะพร้าว เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่มีความผกผันของราคาสินค้าตามฤดูกาลและการส่งออกก็จะมีความผกผันของค่าเงิน ช่วงใดที่มีต้นทุนต่ำทางเทพผดุงพรมะพร้าวจะลดราคาสินค้าให้กับลูกค้าโดยที่ลูกค้าไม่ต้องต่อรอง
- การสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า อย่างยาวนานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเทพผดุงพรมะพร้าวจะออกเยี่ยมลูกค้าทั้งในและต่างประเทศไม่ขาด อะไรที่ลูกค้าขอมาไม่ว่าจะเป็นการลดราคาหรือของแถมถ้าสามารถทำได้จะให้ทันที จึงทำให้ลูกค้าช่วยเป็นกระบอกเสียงบอกต่อกันไป
ถึงแม้ธุรกิจของ “เทผดุงพรมะพร้าว” ในปัจจุบันจะก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจระดับโลก ซึ่งมียอดขายสินค้าประเภทกะทิเป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้ว แต่อย่างไรก็ดีการทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเกษตรก็มักจะเจอปัญหาอยู่เสมอ คือราคาสินค้าผกผันตามฤดูกาล ซึ่งเทพผดุงพรมะพร้าวก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากนี้รายได้ธุรกิจของบริษัทฯ ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกถึง 80% บริษัทฯ ก็สามารถบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์และการวางแผนบริหารจัดการมาเป็นอย่างดี
บทเรียนจากเทพผดุงพรสู่ SME
- พุ่งตรงไปที่จุดหมายอย่าสนใจอุปสรรคข้างทาง พึงระลึกเสมอว่าทุกการเดินทางย่อมมีอุปสรรค เมื่อก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ความสำเร็จที่งดงามและยิ่งใหญ่รอเราอยู่ที่ปลายทางเสมอ
- จงวิ่งเข้าหาความรู้ ธุรกิจบางอย่างที่ลงมือทำเราอาจยังไม่มีความรู้มากพอ แต่ก็ยังมีหลายๆ แห่งที่เราจะสามารถเก็บเกี่ยวความรู้จากสถานที่หรือบุคคลเหล่านั้นได้ จงอย่าเสียดายเวลา อย่าเสียดายเงินเล็กน้อยเพื่อความรู้ เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมามันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่เราเสียไป อย่างเช่นเทพผดุงพร ที่เน้นงานวิจัยเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
- ไม่ลอกเลียนแบบ หรือถ้าจำเป็นต้องทำจะต้องทำด้วยความแตกต่าง เหมือนกับกะทิชาวเกาะที่เริ่มทำกะทิสำเร็จรูปเป็นเจ้าแรกๆ ซึ่งคนรอบข้างบางคนเห็นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมาทดแทนกะทิสดได้ เมื่อเวลาผ่านไป กระแสจากผู้บริโภคบอกว่ากะทิชาวเกาะเหมาะกับการทำอาหาร แต่กะทิของอีกแบรนด์ เหมาะกับการทำขนม ชาวเกาะจึงได้พัฒนากะทิสำหรับทำขนมขึ้นมาแต่สร้างความแตกต่างโดยการทำกะทิอบควันเทียน ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.posttoday.com/politic/report/389632
http://www.tcc-chaokoh.com/news_event/news/view/47
http://www.tcc-chaokoh.com/abouts/company_profile
https://www.tnews.co.th/contents/384188
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/666733
บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนสร้างรายได้ออนไลน์ รุ่น 3”
คุณ กัญญาภัค พุฒพวง แม่บ้าน |
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME