ทำเลดีเขาว่า มีชัยไปเกินกว่า 80% เชื่อหรือไม่ !!!

อย่างร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงที่เราใช้บริการกันทุกวันนี้ สิ่งแรกในการพิจารณาว่าจะตั้งเปิดร้านเปิดสาขาตรงไหน ไม่ใช่แค่ว่าเรามีเงินเพียงอย่างเดียวจะเปิดได้นะ แต่ต้องมี “สถานที่” หรือ “ทำเล” ที่เหมาะสมด้วย เรียกว่า “ทำเลเรียกทรัพย์” เปิดแล้วต้องเด่น เปิดแล้วต้องโดน เปิดแล้วต้องขายได้ตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน 

ทำแลทอง !!! มันก็ไม่ได้หาง่ายเสียด้วยสิ หรือถ้าพอมีมันก็ราคาอาจจะแพงหูฉี่ พี่อาจจะสู้ไม่ไว้

แต่เดี๋ยวก่อน หาก “ทำเลทอง” หาไม่ได้ “ทำเลรอง” ที่ดีๆ โดน ๆ ก็ยังพอมีอยู่นะครับ ถ้าเรามีหลักการเลือกทำเลให้มันเข้ากับธุรกิจของเรา

จะเลือกทำเลอย่างไรดี ผมแนะนำให้ลองนำแนวทางนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ ต้องขอบคุณเนื้อหาบรรยายจาก อ.สิทธิชัย ทรงอธิกมาศ โครงการ สัมมนาเชิงปฏิบัติการการสร้างธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ ซึ่งผมได้นำมาย่อยและสรุปแบ่งปันให้เพื่อนๆ เถ้าแก่ใหม่ได้นำมาเรียนรู้พัฒนาธุรกิจของแต่ละท่านกันต่อครับ

1.Target Customer ประเภท จำนวน กำลังซื้อ ความต้องการ

สินค้า บริการธุรกิจ แต่ละประเภท มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นทำเลเองก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะนะครับ

เราต้องรู้ก่อนนะว่า ลูกค้าเราเป็นใคร หญิง ชาย อายุ อาชีพ รายได้ ความต้องการเขาคืออะไร

หากกลุ่มเป้าหมาย หรือสินค้าองเราเหมาะกับสาวโรงงาน (ยกตัวอย่างนะครับ) เราจะไปเปิดร้านทำเลในห้างกลางสยายามสแควร์ก็คงจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิตหละพอได้อยู่ครับ ทำเลที่ควรจะเป็นของสินค้าเราในกลุ่มสาวโรงงานอาจจะตลาดนัดใกล้ ๆ โรงงานนะครับ จึงจะเป็นทำเลทอง

เราต้อง Targeting หรือเลือกกลุ่มลูกค้าของเราให้ชัดก่อนนะครับ เมื่อชัดแล้วก็ค่อยมาหาต่อว่าลูกค้าเราเขาอยู่แถวไหน ทำอะไร

                เลือกลูกค้าไม่ตรง ต่อให้มีทำเลดีก็ไม่ได้ทำให้ธุรกิจขายดีมีกำไร

2.Traffic ความสะดวก ความถี่ ทิศทาง การเข้าถึง

เมื่อรู้แล้วว่าลูกค้าเป็นใคร ใช้ชีวิตแบบไหน รายได้ รายจ่าย กำลังซื้อ ความต้องการ ปัญหา ฯ เรียบร้อยแล้วคราวนี้ก็มาดูกันจริงๆ เสียทีครับว่า ทำเลที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจเราควรเป็นที่ไหน

ความพลุกพล่าน !! คือสิ่งสำคัญครับ แต่ไม่ใช่ความ “แออัด” นะครับ

ทำเลเรามีจำนวนผู้คนกลุ่มเป้าหมายเรามากน้อยขนาดไหน ไปมาสะดวกหรือเปล่า การเดินทางไปมาหาสู่เข้าไปที่ร้านเรามันต้องขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นเขา ลงห้วย มากน้อยขนาดไหน 555 นี่มันพาเข้าป่าหรือไปหาร้านค้ากันแน่

มีที่จอดรถสะดวก และเพียงพอหรือเปล่า

การมาเข้าร้านเรา มีความถี่มากน้อยขนาดไหน เดือนละครั้ง สัปดาห์ละครั้ง วันละครั้ง หรือปีละครั้ง ? มันก็จะวกกลับมาที่สินค้าหรือบริการของเราเป็นอะไร และลูกค้ากลุ่มไหนนะครับ

ทิศทางเหนือใต้ ออก ตก เป็นอย่างไร ไปขวางทิศทางลม หรือกั้นทางน้ำหรือเปล่า 55 อยู่ต้นซอย กลางซอย หรือท้ายซอย ทิศทางการมองเห็นร้านเราเป็นอย่างไร มองเห็นได้ 360 องศา หรือว่าต้องใช้แว่นขยายเพื่อที่จะเห็นร้านของเรา ส่วนนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องดูให้ดีนะครับ

ทำเลดีย่านเดียวกัน แต่วางอยู่ในจุดที่ “อับ” ธุรกิจเราก็ “ดับ” ในพริบตาเลยทีเดียว

3.Time to shop วันหยุด วันทำงาน มื้อเช้า กลางวัน เย็น ค่ำ

เอ้าแล้ว ๆ !!! ทำเลดีนะอยู่ย่านพนักงานออฟฟิต ต้องขายดีแน่เลย กลุ่มเป้าหมายก็ตรง อย่างนี้ธุรกิจต้องปัง ๆ อย่างแน่นอนเลยทีเดียว

แต่เดี๋ยวก่อนนะ !! คิดไว้หรือยังครับว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าทำงานออฟฟิตเราสามารถขายได้เวลาไหนบ้าง ?

ไม่คิดหรือวางแผนส่วนนี้ไว้แย่เลยนะครับ เพราะเราไม่ได้ขายได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น จริงอยู่นะร้านเราอาจจะเปิดได้ตั้งแต่เช้าไปปิดค่ำก็ไม่มีใครว่า แต่ลูกค้าเขาจะมาหา มาใช้บริการร้านเราตอนไหนบ้างหละ

ตอนเช้าก็ได้แค่เวลา 7 โมงเช้าถึงแค่ประมาณ 8 โมงนะครับ ส่วนเที่ยงก็มีเวลาแค่ เที่ยงถึงบ่ายโมง ส่วนตอนเย็นอาจจะพอได้บ้าง 6 โมงถึงหนึ่งทุ่ม สรุปหากทำเลอยู่ย่านออฟฟิตเราอาจจะขายได้แค่ 3 ขั่วโมงนะครับ แถมวันหยุดท่านก็อาจจะไม่มีลูกค้าด้วยซ้ำไป

เหมือนๆ กับธุรกิจที่ไปเปิดใกล้ ๆ โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยหละครับ ปิดเทอมธุรกิจเราก็ปิดตาม รายได้ก็หายนะครับ แต่ค่าเช่า ค่าคนยังต้องจ่ายต้องพิจารณาส่วนนี้อยู่ในเงื่อนไขการเลือกทำเลด้วยนะครับ

ตลาดนัดมันยังมีตลาดค่ำ ตลาดเช้า ตลาดเที่ยง ตลาดเย็น เราเลือกกลุ่มไหน ตลาดไหน ทำเลไหน มองให้ขาดนะครับ

เลือกทำเลไม่ดูเวลาของลูกค้า ไม่นานช้าเราจะแพ้ภัยทำเลเอง

4.Competition ปริมาณ ความรุนแรง

อีกเรื่องที่ต้องพิจารณคือ “ตาม้า ตาเรือ” เหมือนเกมหมากรุก เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็โดนกินเรียบสามต่อสี่ต่อ กันเลยทีเดียว

ต่อแรกตาม้าโดนกินเพราะคู่แข่งมีมากเสียเหลือเกิน เราหน้าใหม่เข้าไปในตลาด ย่อมถูกตั้งป้อมกันท่าจากคู่แข่งแน่นอนครับ

ต่อสองตาเรือโดนกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถ ราคาค่าเช่าที่ เรามาทีหลัง มีเรือจอดขวางคลองคอยจ้องไม่ให้เราเข้าทำตลาดหรือทำธุรกิจแบบราบรื่น เดินไปก็โดนเรือชนจมลงในหนองน้ำทะเลเดือดนะครับ

ต่อสามตาโคน เราไม่มีความแตกต่างที่ดีกว่าเจ้าเก่า หรือคู่แข่งในตลาด เปิดร้านไปก็งั้น ๆ ก็อาจจะโดนกินแบบถอนรากถอนโคน สต๊อคสินค้ากองเต็มร้านก็เป็นไปได้นะครับ

ต่อสี่ตาเบี้ย โดนรุกฆาต ด้วยเบี้ย มันน่าอายจริงๆ ลูกค้าไม่เข้า กำไรไม่มี โดนตัดราคา รายได้หาย กำไรหด รายจ่ายคงเดิม หนี้สินเริ่มรุงรัง ขุนโดนเบี้ยต้อนจนต้องจนมุมพ่ายแพ้เกมการแข่งขัน

เรื่องคู่แข่งในตลาดมีให้เราต้องเจอต้องประสบอย่างแน่นอนครับ เราเองก็ต้องพยายามคิดหาทางออกทางแก้เกมไว้ตั้งตอนเลือกทำเลจะลงร้านนะครับ

                พยายามเปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้า สร้างมิตรภาพในการทำธุรกิจคือทางออกที่จะทำให้ทุกคนอยู่รอดกันทั้งหมด

                 ได้แนวทางที่จะเลือกทำเลไปทำมาค้าขายกันแล้วนะครับ แม้วันนี้เราไม่ได้มีทำเลทองไว้รองรับธุรกิจเรา แค่มีทำเลรอง แต่ทำการตลาดให้ดี ๆ โดน ๆ ก็พอที่จะช่วยเสริมทำเลรองให้กลายเป็นทำเลทองขึ้นมาได้นะครับ โดยเฉพาะช่องทางการทำการตลาดออนไลน์

มีสินค้า หรือบริการมากมายนะครับที่ทำเลที่ตั้งร้านอยู่ในห้องแถวเล็กๆ แต่ยอดขายหลักแสนหลักล้านต่อเดือน แม้ทำเลออฟไลน์เข้าจะแย่ แต่เขาทำให้ทำเลออนไลน์ของเขาเด่น ลองนำไปปรับใช้และสำรวจธุรกิจเราดูนะครับ

อย่าจำกัดทำเลไว้แค่สิ่งที่เราจับต้องได้ แต่ดูทำเลในทางเทคโนโลยีด้วย