เถ้าแก่ใหม่ : เล่าประวัติตัวเองให้ฟังหน่อยชื่อ การศึกษา พื้นเพ ลักษณะนิสัย ความล้มเหลว ความสำเร็จ

เถ้าแก่บอย :
ชื่อ ฐานทัพ อินทอง พื้นเพ เกิดที่จังหวัดชลบุรี
ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) : มหาวิทยาลัยปทุมธานี
ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอก สื่อสารมวลชน โท รัฐศาสตร์ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง มัธยมศึกษาตอนต้น / ปลาย

ความล้มเหลว และ ความสำเร็จ

เรื่องของความล้มเหลวและความสำเร็จ นั้นจริงๆ แล้ว อย่างเรื่องของความล้มเหลว ผมไม่เรียกว่าว่าเป็นความล้มเหลว ผมถือว่าสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์เป็นบทเรียน เป็นครูที่สอนให้เราได้รู้จักกับสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังให้มันเกิด เพราะการจะทำอะไรลงไปสักอย่าง คนส่วนใหญ่มักจะมองแต่ด้านของความสำเร็จ เพราะฉะนั้น ในความคิดของผมจึงไม่ค่อยมีเรื่องของความล้มเหลวเข้ามาบั่นทอนหรือให้หมดกำลังใจ ที่ผ่านมาผมว่ามันเป็นการเรียนรู้ในเรื่องของความผิดพลาด อันนี้ในแง่ของจิตวิทยา พูดง่ายๆ ว่าคิดบวกเข้าไว้ เพราะคนเราไม่ได้เก่งไปทุกเรื่องหรือรู้ไปทุกอย่าง ถ้าไม่รู้จักความล้มเหลวแล้วเราจะรู้จักถึงความสำเร็จได้อย่างไร

ส่วนเรื่องของความสำเร็จ ผมก็ยังคงมองว่า ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เราต้องทำมันอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่มีเป้าหมายต่อไปเราก็จะหยุด หยุดที่จะทำ แต่เรื่องของเป้าหมายความสำเร็จ ผมจะวางเป็นขั้นๆ ไป ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์หรือปัจจัยอะไรมาตั้งก็ตามเช่นว่า เราจะต้องมีบ้านตอนอายุเท่านี้ หรือ ต้องมีรถยนต์ให้ได้ภายในกี่ปี เป็นต้น วางเป้าหมายไปทีละขั้นทีละสเต็ป เพราะฉะนั้นความสำเร็จของเราก็จะใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนอยู่ตลอด

(ขอเล่านิดนึงครับ)เรียกชื่อว่า “แม่สอนการตลาด” “แม่สอนมาร์เก็ตติ้ง”หรือ “แม่สอนลูกรวย” ก็ว่าได้ครับ ขอยกตัวอย่าง 2-3 ข้อนะครับ 555…

อย่างเรื่องของการทำธุรกิจ ตัวผมเองดีอย่างหนึ่งที่มีโอกาสทำมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากการที่เป็นลูกแม่ค้า ซึ่งทางบ้านผมเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ไม่ใหญ่โต

** ผมมีแม่เป็น Idol

ซึ่งแม่ผมเป็นคนที่สอนเรื่องของทักษะการขายและการทำตลาดให้กับลูกๆ โดยที่ในขณะที่เรายังเด็กเล็ก อาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไม แม่ถึงต้องจัดให้เราเอาขนมใส่ถาดไปเดินขาย หรือ ทำของหรือสินค้าขึ้นมาขาย หรือแม้แต่กระทั้งการ Mix and Match สินค้า เพื่อให้เกิด Product ใหม่ๆ ขึ้นมา จนแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ที่แม่ไม่ได้ทำร้านขายของชำแล้ว แต่แม่ก็มีสินค้าขายในกลุ่มเพื่อนๆ หรือคนรู้จักอยู่ตลอดเวลา

ปัจจัยทั้งหมดเป็นเรื่องของระบบการตลาด ที่คุณจะเข้าใจในเรื่องของ “ความล้มเหลวและความสำเร็จ” ย้อนกลับไปที่ว่า สิ่งที่เราได้เห็นและเรียนรู้จากแม่ ก็คือเรื่องของหลักการทำการตลาดและการขายพื้นฐาน ทั้งๆ ที่คนที่ได้ชื่อว่าแม่ของเรา ไม่เคยเรียนหรือจบมาทางด้านการตลาดเลยสักนิด

ตัวอย่างที่เราได้เห็นและเรียนรู้จากกระบวนการซึมซับ ที่เรียกว่า Best Practicesคือ

1.บ้านและร้านของเราเปิดอยู่ใกล้ กับสะพานปลา ท่าเรือใหญ่ในการขึ้นลงปลาและอาหารทะเล มีผู้คนและแรงงานเพลุกพล่าน ตรงนี้สอนเราในเรื่องของ“ทำเล”

2. เวลาเรือประมงจะออกทะเล เขาจะต้องมีการซื้อสินค้า ขนม นม เนย ต่างๆ ลงเรือไป ก็จะมี ไต๋ก๋งเรือ มาเจรจาในการขอเชื่อสินค้าไปก่อน กลับมาจากจับปลาแล้วขายปลาได้ก็จะนำเงินมาชำระ พร้อมดอกเบี้ย ตรงนี้ สอนให้เรารู้เรื่องของหลักการเจรจาต่อรอง การให้เครดิต หรือการให้ต่างตอบแทน รวมถึงการสร้างมิตรภาพ และการผูกใจลูกค้า หรือCustomer Relationและสิ่งที่แฝงอยู่ในเรื่องของหลักการตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบอกต่อ (Word of Mouth หรือ Mouth to Mouth)การเจรจาต่อรอง (Negotiation)หลักการของต้นทุนและผลกำไร (Cost – benefit) รวมถึงเรื่องของหลักจิตวิทยา(Psychology)เป็นต้น สรุปพอเรือเข้า เขาก็นำเงินมาชำระ พร้อมดอกเบี้ย รวมถึงมีปลา ปลาหมึก ปู กุ้ง หอย สดๆ มาฝากให้กิน! ได้มิตรภาพ ได้ตังค์ ได้ใจ แถมได้อิ่มฟรีอีกต่างหาก

3. บ้านเรามีตู้แช่ แต่ทำไมแม่ไม่เอาน้ำขวดน้ำอัดลมมาวางแช่เท่าไหร่? แต่เอาแตงโม มาหั่นเป็นเสี้ยวๆ เป็นชิ้นๆ มาแช่แทน กับ ต้มน้ำเก๊กฮวย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำลำไย มาแช่เป็นแก้วๆ แทน และทำไมที่สำคัญเจ้าแตงโมที่หั่นเป็นเสี้ยวๆ แล้ว แม่ยังต้องมานั่งแคะเม็ดออกให้เหลือแต่เนื้อชิ้นสวยๆ เวลาเรียงให้ตู้แช่? แต่ก่อนไม่เข้าใจ จึงมารู้ว่า แม่สอนให้ดูในเรื่องของอุปนิสัย ลักษณะนิสัยของคน หรือลูกค้าแต่ละกลุ่ม เวลาเรือเข้า พวกคนงานหรือลูกเรือ หลังจากออกทะเลไปใช้แรงงานกลับมาก็อยากจะกินอะไร เย็นๆ หวานๆ ชื่นใจ! มาเจอ แตงโมเนื้อแดงฉ่ำ หวานๆ เย็นๆ แถมกินง่ายไม่มีเม็ด ลูกค้ากินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ต้องคายเม็ดให้ยุ่งยาก สรุปลูกค้าถูกใจชอบมาก
ส่วนน้ำเก๊กฮวย กระเจี๊ยบ ลำไย ก็อร่อยชื่นใจ ดับกระหาย ยิ่งพวกแรงงานที่ใช้แรงงานอยู่แต่กลางทะเล สัมผัสแต่กับความเค็มกับน้ำจืดด้วยแล้ว ถือว่าเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยเวลาได้กิน และที่สำคัญ ถ้าใครเคยขายของร้านโชห่วยจะรู้ว่า ถ้าเราขายขนมถุงที่มีแบรนด์ หรือ น้ำอัดลมมียี่ห้อ กำไรมันน้อยนิด เป็นแค่หลักสตางค์ ขาย 1 ลัง หรือ 1 แพ็ค จะได้กำไรสักห่อ

การขายแบบนี้จะทำให้เราได้กำไรที่เพิ่มขึ้นมาก! หากเราใช้หัวคิด พูดง่ายๆ คือ ใช้สมองคิด เวลาการแช่เท่ากัน ปริมาณการวางสินค้าเท่ากัน แต่กำไรที่ได้ต่างกัน ตรงนี้ได้ในเรื่องของ พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) และเรื่องของการสังเกตอุปนิสัย(Habits) ของผู้บริโภคอีกด้วยรวมถึงการทำตลาดแบบบูรณาการ (Integrated Marketing) อีกหลายๆ อย่างครับ
ได้จาก “แม่” มาเยอะ นี่ยังไม่รวมจาก “พ่อ” อีกนะครับ… (อันนี้เล่าให้เห็นถึง InspirationและPasstionรวมถึงกระบวนการกลั่นกรองและตกผลึกเป็น Mindsetของผม ที่ผมคิดว่ากระบวนการ “IPMmk” ที่เป็นแบบเฉพาะของผมนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับ “ความล้มเหลวและความสำเร็จ” ในอนาคต)

ฐานทัพ อินทอง
086-3660157
เพจ :ข้าวเกรียบปลาปัตตานี

ผมคัดมาจากข้อมูลที่คุณบอยแบ่งปันให้พวกเรา ได้ฟังในหนังสือเล่มใหม่ผมเร็ว ๆ นี้ครับ

“คนช่างสังเกตุ จดจำ จะเป็นคนที่สำเร็จเร็ว” เพราะคุณบอย เป็นช่างสังเกตุ จึง มี “แม่เป็น Idol” และความกตัญญูก็ส่งให้เขาทำอะไรก็เจริญครับ

ส่งเรื่องราวชีวิตเถ้าแก่ใหม่มาแบ่งปันเป็นแรงบันดาลใจ กำลังใจ ให้เพื่อน ๆ ด้านล่างเลยครับ