พื้นเพผมเป็นคนหาดใหญ่แต่กำเนิด ผมเกิดมาในฐานะครอบครัวที่ปานกลางเกือบจะยากจน พ่อแม่ของผมแยกทางกันตอนผมอยู่ประถม4 ผมกู้เรียนตั้งแต่มัธยมจนจบมหาวิทยาลัย ผมเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่งเกือบจะโดนรีไทล์จากมหาลัย2-3รอบ กว่าจะจบก็ประมาณ5ปี ผมจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่เฉียดฉิวมากด้วยเกรด 2.17 ติดE 7วิชา , W(ดรอป)10กว่าวิชาในใบเกรด พูดตรงๆว่าชีวิตผมในช่วงนั้นไม่มีต้นทุนชีวิต ไม่มีแต้มต่อใดๆ เขาเรียกว่าจนแล้วแถมโง่อีกครับ555

หลังจากเรียนจบ ผมก็ทำงานประจำในตำแหน่งฝ่ายขาย ที่กทม. ผมเริ่มต้นเงินเดือนที่ 11,500บาท (หมื่นแรกในชีวิต) ที่เขารับผมอาจเป็นเพราะบริษัทนี้ไม่ได้เน้นดูเกรดสักเท่าไหร่ เน้นอึดและขยันซะมากกว่า ผมสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าและผ่านโปรคนแรกก่อนเพื่อนๆที่สมัครมาพร้อมกันทั้งหมด เงินเดือนผมขึ้นหลายพันบาทในปีแรก ปีที่2เป็นต้นมาผมได้ค่าคอมมิชชั่น5หลักปลายๆถึง6หลักมาโดยตลอด ผมทำงานประจำอยู่ประมาณเกือบ4ปีก็ตัดสินใจลาออก เพราะผมเป็นคนที่อยู่นิ่งๆกับที่ไม่ได้ ผมไม่ชอบชีวิตที่จำกัดเวลาและมีกฏเกณฑ์สักเท่าไหร่ ยิ่งสำคัญคือ ฝันของผมใหญ่มากและผมคิดๆดูแล้วว่างานประจำที่ผมทำ มันไม่สามารถให้ผมได้แน่ๆ อย่างที่เขาบอก “หากคุณไม่มีฝัน เขาก็จะเอาเศษเงินมาจ้างคุณเพื่อสร้างฝันของเขาเท่านั้นเอง”

หลังจากลาออกมาผมก็ทำทุกงานที่คนอย่างผมจะทำได้ ไม่เคยเกี่ยง ไม่เคยอาย คิดอย่างเดียวคือไม่รู้เรียนได้ ไม่เป็นก็ฝึกได้ กุ้ง หอย ปู ปลา ไม่มีมือไม่มีเท้ายังหากินได้ แล้วเราเป็นคนล่ะ?

ตลอดระยะเวลาที่ผมออกมาบินเดี่ยวหาวิธีสร้างฝันให้เป็นจริง ลองผิดลองถูก เงินทุนไม่ได้มีเยอะมีแต่วัดใจล้วนๆ ผมทำมาเป็นสิบอาชีพครับไม่ว่าจะเป็น ขายเสื้อ ขายกระเป๋า ขายโรลออนสารส้ม ขายสินค้าพรีเมี่ยม ขายสินค้าแฮนด์เมด ขายเข็มขัด เป็นนายหน้าคอนโดที่เมืองทองธานี เป็นพ่อค้าขายลูกชิ้นปิ้ง,ขายปลาหมึกย่าง,ขายขนมหวาน ทั้งๆที่ผมทอดไข่เจียวไม่เป็นมาก่อนด้วยซ้ำ ผมรับจ้างสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์เด็กประถม(ไม่กล้าสอนเยอะกว่านี้ เพราะบวกเลขลบเลขผมไม่น่าจะพลาดครับ55)

ผมใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพประมาณ 7ปี ก็คิดถึงบ้านจึงกลับมาค้าขายที่หาดใหญ่ เป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัดเรื่อยๆ จนวันนึงมีคนมาชวนทำธุรกิจเครือข่าย มีเหตุผลเดียวที่ผมตัดสินใจทำคือ ผมเห็นว่าเขาได้จริงๆผมเห็นกับตาผมจึงทำ ช่วงแรกที่ทำรายชื่อผมมีน้อยมาก และโปรไฟล์ผมแทบจะไม่มีใครเชื่อถือเลย คิดปลอบใจตัวเองว่าคนมีอีกเป็นล้านคนต้องเห็นด้วยบ้างละนะ

ผมใช้เวลา15วันแรกมีรายได้หลักหมื่นจากธุรกิจนี้ ผมจึงเริ่มมั่นใจว่ามันได้จริงๆและถ้าหากอยากได้เพิ่มแต่ยังทำเท่าเดิม มันไม่มีทางอยู่ละครับ เดือนที่2ผมจึงตัดสินใจเซ้งร้านขายของทุกที่เพื่อมาทำเครือข่าย ผมไม่ฟังเสียงใครจริงๆ ณ เวลานั้น ฟังแค่เสียงหัวใจตัวเองว่าผมต้องทำให้ได้

ผมใช้เวลา6เดือนแตะรายได้หลักแสน ใช้เวลา2ปีกว่าได้รายได้รวมมา5ล้านกว่าบาท ได้ท่องเที่ยวฟรีกับบริษัทหลายประเทศ ผมไม่รู้ว่าคนส่วนใหญ่คิดยังไงนะครับ แต่ผมบอกตรงๆว่ามันไม่ยากนะครับถ้าคุณรู้เคล็ดลับนี้ ผมก็แค่ตัดสินใจที่จะประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น และผมใช้ปากนี่ละครับถามคนที่ได้จริงๆว่าเขาทำยังไง ผมจะไม่เสียเวลาคลำทางเองเด็ดขาดถ้ามันมีทางที่คนสำเร็จผ่านมาได้แล้ว ผมศึกษาว่าเขาจัดเวลาแต่ละวันแบบไหน อยากได้เท่านี้ต้องลงเหงื่อเท่าไหร่ แล้วเราก็ลงมือทำตามนั้นก็จบครับ คนส่วนใหญ่ที่ทำไม่ได้คือ ไม่ถาม ถามแล้วก็ไม่ทำ ทำแล้วก็ไม่อึด ทิ้งความฝันตั้งแต่ยังไปไม่ถึงครึ่งทาง ก็เลยไม่ได้ตามที่คิดไว้ซักที ผมทำเครือข่ายจนเข้าปีที่3ที่กำลังไปได้ดี แต่ก็เหมือนฟ้าผ่าแปล๊บลงมา เพราะเขาก็ย้ายค่ายกันไปหมดแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งคนชวน อัพไลน์สูง ทีมงานผมบางส่วนที่ดูแลไม่ถึงก็โดนชวนไปผมก็เลยอำลาจากธุรกิจนี้ทั้งๆที่รายได้เดือนสุดท้ายอยู่ที่ 6หลัก แต่ผมรู้สึกแย่จึงถอยออกมาและกลับมาทำธุรกิจส่วนตัวเหมือนเดิม แต่ผมอยากบอกว่าเครือข่ายไม่ได้เลวร้ายนะครับ มันให้ได้จริงครับ งานทุกงานที่สุจริตดีหมด ส่วนที่จะทำให้ดีหรือไม่ดีอยู่ที่คนครับ ใครทำอยู่แล้วก็สู้ๆครับคุณสำเร็จได้แน่นอน

ผมทำธุรกิจส่วนตัวจนเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ต้นปี2557 ผมก็ได้ทำน้ำคลอโรฟิลล์พร้อมดื่มออกมาจำหน่าย แบรนด์NN เริ่มต้นจากคนที่เห็นด้วยกับผมแค่ไม่กี่คน ผมใช้เวลาประมาณ6เดือนทำแบบลูกทุ่งจริงๆ ขายตามตลาดนัด และขยายตัวแทนแบบปากต่อปาก ทำงานแบบออฟไลน์100% มียอดขายร่วมๆ15ล้านบาท เทคนิคที่ไปต่อได้ไวคือ เราอยู่ได้เขาต้องอยู่ได้ ยอดขายดีคนขายต้องรวย คนที่มาขายให้ผม มีรายได้หลักแสนก็หลายคนหลักหมื่นไม่ต้องพูดถึง ผมมั่นใจว่าถ้าเขาไม่แตะเบรคก็เรียกว่าพลิกชีวิตกันข้ามเดือนเลยทีเดียว

จนเมื่อวันที่ 1ตุลาคม57 ผมก็ตัดสินใจเปิดตัวสินค้าตัวที่2 คือ สบู่คลอโรฟิลล์ แบรนด์ Good-Brights ซึ่งผลตอบรับก็ดีพอสมควรครับ แม้ว่าเดือนตุลาคม ผมไปพักผ่อนกับครอบครัวเต็มๆร่วมๆ12วันก็มีคนสั่งซื้อสินค้ามาเรื่อยๆ แต่ผมคิดว่าถ้าจะให้มันไปต่อได้นานๆ ขยายได้เร็วๆ หากผมไม่เพิ่มกลยุทธ์ ไม่เรียนรู้เพิ่ม ผมก็คงไปได้ไกลกว่าเดิมยาก ผมจึงหาหนังสือที่เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์มาอ่านหลายๆเล่ม หนึ่งในนั้นก็มีหนังสือของพี่เกียรติด้วย คือ “เปลี่ยนร้อยให้เป็นล้าน” ซึ่งเนื้อหาดีมากๆเล่มนึงครับ

ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะตัดสินใจทำสินค้าตัวที่2 ผมไปเข้าคอร์สเรียนรู้ต่างๆเพื่อให้เรารู้จริงๆว่ามืออาชีพเขาทำกันอย่างไร ทำแบบเอามันส์ ตามกระแสแบบไม่มีความรู้ ก็มีแต่เจ๊งครับ บางครั้งเราต้องยอมจ่ายในสิ่งที่ไม่รู้ ดีกว่าไปล้มละลายไปกับสิ่งที่ไม่รู้ คนเราพัฒนาได้ถ้าเปิดใจที่จะเรียนรู้ครับผม และผมยังเชื่อเสมอว่า ทุกความสำเร็จล้วนเกิดมาจากความตั้งใจจริงๆ

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณพี่เกียรติที่ให้เกียรติเป็นอย่างสูงให้ผมได้มาแบ่งปันประสบการณ์ในครั้งนี้ ขอขอบคุณหนังสือดีๆทุกเล่ม ขอขอบคุณผู้ให้กำเนิดที่ทำให้ผมเกิดมาอยู่ได้จนทุกวันนี้ ขอขอบคุณครูอาจารย์ทุกท่านที่ให้ความรู้ และขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกคนที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันเสมอมานะครับ

ท่านใดอยากเป็นเพื่อนกันก็แอดทักทายมาได้นะครับ ถ้าผมพอจะให้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์กับท่านได้ก็ยินดีครับ

ID Line : Millionare456
FB : Suppakrit Pipatperapong(นิธิวัชร์)

ขอบคุณ คุณ นิธิวัชร์ ที่นำประสบการณ์เถ้าแก่ใหญ่ มาแบ่งปันให้พวกเราได้ฟังครับ

ธุรกิจบ่อยครั้งที่เกิดภาวะที่เรียกว่า อุบัติเหตุ คุณนิธิวัชร์ ก็เจอมา
แต่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความแข็งแกร่งและมุมมองใหม่ ๆ

สร้างธุรกิจใหม่จากรอยแผลเดิม มันปลอดภัยกว่า
เราทำธุรกิจโดยไม่เคยมีรอยแผลใด ๆ เลย อย่างนี้สำหรับผม
มองว่า “แมร่งโครตเสี่ยง”