สำหรับการขายขนมคุ๊กกี้ออนไลน์ ลูกค้ามีโอกาสได้เห็นคุกกี้ของเราผ่านทางรูปภาพเท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายรูปออกมาให้ดูน่าทานและใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ยิ่งรูปน่าทานมากเท่าไหร่ ขนมก็มีโอกาสขายได้มากขึ้นเท่านั้น

ความมหัศจรรย์ของขนมอบชิ้นเล็กๆที่ทำจากแป้งสาลีอย่างคุกกี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและสามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รูปแบบโฮมเมดจนก้าวไปสู่ระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนจึงสนใจทำคุกกี้ขายเป็นอาชีพเสริม แม้ไม่มีพื้นฐานด้านการทำเบเกอรี่มาก่อน แต่หากเทียบกับขนมอบชนิดอื่นนั้นคุกกี้สามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายกว่า เพราะมีขั้นตอนที่ไม่สลับซับซ้อน รวมถึงช่องทางการขายออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขายกับลูกค้ามีโอกาสเข้าถึงกันมากขึ้น นับว่าเป็นอีกตลาดที่น่าจับตามอง มาดูกันว่าอยากขายคุกกี้ออนไลน์ ควรเริ่มต้นอย่างไร

ความน่าสนใจของตลาดคุกกี้

ข้อมูลจาก marketingoops.com เผยให้เห็นถึงภาพรวมของตลาดบิสกิตในไทยปี พ.ศ. 2561 พบว่ามีมูลค่าตลาด13,000 ล้านบาท โดยที่คุกกี้ครองส่วนแบ่งการตลาด 27% โตขึ้นจากปีที่แล้ว 1.7%  ถือว่าเติบโตได้เรื่อยๆ แม้จะมีผู้เล่นทั้งรายใหญ่และรายเล็ก บวกกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจนเกิดเป็นความท้าทายขึ้น แต่ขณะเดียวกันยังมีโอกาสสำหรับหน้าใหม่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการประเภทโฮมเมดในการที่จะขอแจ้งเกิดในตลาดนี้บ้าง

ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของคุกกี้ ที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน แม้ไม่ได้ใส่สารกันเสีย  เป็นขนมทานเล่นได้ทุกโอกาส สะดวกแก่การขนส่ง และเป็นของขวัญของฝากที่ดูดีมีราคา เหมาะสำหรับผู้รับทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบขนมชนิดนี้ ที่น่าสนใจอีกประการคือ คุกกี้เป็นขนมอบที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีไม่มาก ทำกำไรดี มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก การทำคุกกี้ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องเริ่มจากสูตรที่ดี ในช่วงแรกอาจจะทำคุกกี้สูตรทั่วไปที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคอยู่แล้วเพื่อเป็นการฝึกฝีมือ เช่น คุกกี้เนยสด คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ คุกกี้ข้าวโอ๊ต ฯ แต่ต้องยอมรับว่าช่วงแรกอาจจะเหนื่อยกับการแข่งขันสักหน่อย จากนั้นค่อยพัฒนาสูตรให้ดียิ่งขึ้น ควรจะมีความคิดสร้างสรรค์เติมลงไปในคุกกี้เพื่อสร้างความแปลกใหม่ทั้งในเรื่องของรสชาติและรูปลักษณ์

จะทำคุกกี้ขายเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง ?

1.ถามตัวเองก่อนว่ารักที่จะทำจริงๆหรือไม่

หากคาดหวังเรื่องรายได้ตั้งแต่แรก อาจหมดกำลังใจได้ เพราะคุกกี้เป็นขนมที่ใครๆก็สามารถหัดทำได้ แต่จะทำได้นานจนถึงขั้นสร้างรายได้เป็นที่น่าพอใจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และยังมีขั้นตอนต่างๆระหว่างกระบวนการทำไปจนส่งถึงมือลูกค้า ตั้งแต่การซื้อวัตถุดิบ การแพ็คสินค้า การเก็บล้างอุปกรณ์ และการจัดส่งสินค้าให้ปลอดภัยโดยไม่เกิดความเสียหาย

2.ไม่รู้ก็ต้องเรียน ไม่เป็นก็ต้องลอง ทำจนให้มันอร่อย แจกฟรี แล้วค่อยขาย

เรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรค ทุกอย่างอยู่ที่การค้นคว้าหาความรู้ ตั้งแต่พื้นฐานการใช้อุปกรณ์ชั่งตวงต่างๆไปจนถึงสูตรคุกกี้พื้นฐาน ที่หาได้จากหนังสือ อินเตอร์เน็ต และคอร์สเรียนต่างๆ ซึ่งช่วยประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลองผิดลองถูกได้เยอะพอสมควร

3.งบประมาณในการลงทุน เริ่มทีละน้อย ทำเท่าที่ไหว แล้วค่อยขยับขยาย

ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นต้นๆ อุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำคุกกี้หาซื้อได้ไม่ยาก แต่การลงทุนซื้อเครื่องผสมอาหาร หรือเตาอบขนาดใหญ่ราคาหลายหมื่นในช่วงแรกอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะหากเปลี่ยนใจขึ้นมาไม่อยากที่จะทำอีกต่อไปแล้ว อาจกลายเป็นว่าต้องมานั่งเสียดายเงินลงทุน รอให้กิจการถึงเวลาที่ต้องขยับขยาย แล้วค่อยๆเพิ่มอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการผลิตได้จะดีกว่า

แนะนำเริ่มต้นทำคุกกี้สูตร คุกกี้เนยสด จาก คุณแก้ว Bake Lover

1 แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม

2 ผงฟู ¾ ช้อนชา

3 เนยสดจืด แช่เย็น 50 กรัม

4 เกลือป่น 1/8 ช้อนชา

5 น้ำตาลไอซิ่ง 125 กรัม

6 ไข่ไก่ 1 ฟอง

7 กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ร่อนแป้งกับผงฟูพักไว้
  • ตีเนยสดให้อ่อนตัว แล้วใส่น้ำตาลไปซิ่งลงไปตีจนขึ้นฟูเป็นสีอ่อน
  • ใส่ไข่ไก่และกลิ่นวนิลลาลงไปตีให้เข้ากันตามด้วยแป้งตีให้เข้ากัน
  • เอาโดว์ที่ได้แร้บพลาสติกเข้าตู้เย็น 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
  • นำออกมาตักเป็นก้อนด้วยที่ตักไอศกรีม
  • อบไฟ 180 องศา บน-ล่าง ประมาณ 15 นาที
  • เมื่อสุก แล้วเอาออกมาผึ่งให้แห้วก่อนเก็บเข้าภาชนะ

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดขายขนมออนไลน์

1.ใจต้องสู้

การจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์มีข้อดีตรงที่เป็นเหมือนการเปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีคนเฝ้า สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีงบในการโปรโมทร้าน คงต้องใช้เวลากว่าลูกค้าจะหาเราเจอและตัดสินใจซื้อ ซึ่งต่างจากการมีหน้าร้านจริงๆตรงที่ลูกค้าที่ผ่านไปมาสามารถมองเห็นขนมของเรา และแวะเข้ามาซื้อได้ง่ายกว่า

2.ต้องรักษามาตรฐานรสชาติขนมให้ได้

การขายคุกกี้แบบ Made By Order แตกต่างจากการขายทั่วไปตรงที่ลูกค้าต้องสั่งออเดอร์ล่วงหน้า ทำให้สามารถวางแผนการทำขนมในแต่ละวันได้ และลูกค้าจะได้ทานคุกกี้ที่ทำสดใหม่ ไม่มีของเหลือค้าง เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องรักษามาตรฐานด้านคุณภาพให้ได้ตลอด อันที่จริงราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ แต่คือ Service mind ของผู้ประกอบการ เพราะความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ อยู่ที่ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และรสชาติที่อร่อยมีมาตรฐานเดียวกันบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพ

3.องค์ประกอบ 3 อร่อย คือ อร่อยตา อร่อยบรรยากาศ อร่อยรส

สำหรับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ลูกค้ามีโอกาสได้เห็นคุกกี้ของเราผ่านทางรูปภาพเท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายรูปออกมาให้ดูน่าทานและใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด เช่น ในรูปใส่อัลมอนด์จัดเต็มแค่ไหน ของจริงก็ต้องเป็นแบบนั้น

Packaging ต้องดูสวยงาม ควรคำนึงถึงรายละเอียดเล็กน้อยอย่างการแพ็คใส่ถุงพลาสติกอย่างดีแยกเป็นชิ้นๆ เพื่อป้องกันอากาศเข้า คุกกี้จะคงความกรุบกรอบอร่อย และสะดวกในการรับประทาน

รสชาติที่อร่อยจะสร้างความประทับใจและเกิดการบอกต่อ ส่วนหนึ่งมาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพบวกกับความใส่ใจ ทำให้ได้เนื้อคุกกี้ที่กรอบนุ่ม รสสัมผัสละมุนละไม

4.คิดสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

หลังจากที่ทำการขายได้สักพัก ต้องไม่ลืมที่จะสร้างสรรค์ และปรับปรุงสูตรให้มีรสชาติที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง ลองดัดแปลงจากสูตรที่มีอยู่ทั่วไป ค่อยๆใส่ความเป็นตัวตนของเราลงไป อาจจะเริ่มจากชอบทานคุกกี้แบบไหน ก็ให้ทดลองทำแบบนั้นขึ้นมา

5.รู้จักใช้เครื่องมือออนไลน์

ช่องทางการขายที่นิยมกันอย่าง Facebook Fanpage  ต้องมีการใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการโพสต์ขายแบบธรรมดาอาจจะเอาไม่อยู่สำหรับการแข่งขันในตลาดนี้ จึงต้องมีการสร้าง Storytelling ทำให้ผู้บริโภคจดจำเรื่องราวได้ รวมถึงการคอมเม้นต์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

แม้คุกกี้จะเป็นขนมที่พบเห็นได้ทั่วไป หลายคนมองว่าขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก แต่การจะอยู่ในตลาดได้ยาวนานนั้น ต้องอาศัยฝีมือและรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเลือกใช้ช่องทางออนไลน์ในการจัดจำหน่ายจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ไม่แน่ว่าจุดเริ่มต้นของการทำคุกกี้จากครัวเล็กๆอาจสร้างมูลค่ามหาศาลในอนาคตก็เป็นได้

สั่งซื้อคุ๊กกี้ออนไลน์ได้ช่องทาง