ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี กาแฟดอยช้างก็สามารถก้าวแซงกาแฟหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกขึ้นมาอยู่ในฐานะกาแฟคุณภาพระดับแถวหน้าของโลก

จากพระราชดำริ สู่ การสร้างอาชีพที่ยั่งยืน

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาพื้นที่บนดอยในภาคเหนือของไทยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9  ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาของพี่น้องชาวไทยภูเขาจึงทรงมีพระราชดำริให้มีการปลูกพืชทดแทน  พระองค์ได้พระราชทานกาแฟพันธุ์อารบิก้า  มีพระราชดำริให้กรมวิชาการเกษตรพัฒนาสายพันธุ์กาแฟให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ  และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกันอย่างแพร่หลาย

ระยะแรกที่ปลูกกาแฟขายแทบไม่ได้เนื่องจากกาแฟไทยยังไม่ได้รับความนิยม แถมยังโดนกดราคาจากพ่อค้าคนกลางอีก เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นคนไร้สัญชาติไม่สามารถนำกาแฟไปขายเองได้จึงจำเป็นต้องขายผ่านพ่อค้าคนกลาง  เพื่อให้เกษตรกรบนดอยช้างสามารถขายกาแฟได้ในราคาที่ยุติธรรม ต่อมาจึงได้ก่อเกิด  บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด ขึ้นในปีพ.ศ. 2546 ด้วยเงินจำนวน 320,000 บาท  ที่ได้มาจากการขายรถของคุณปณชัย พิสัยเลิศ หรืออาเดล ร่วมกับคุณวิชา  พรหมยงค์  และมีคุณพิษณุชัย  แก้วพิชัย เป็นที่ปรึกษาธุรกิจ

จากยอดดอยสู่กาแฟคุณภาพระดับโลก

ด้วยความเชื่อมั่นผู้ร่วมก่อตั้งกาแฟดอยช้างจึงพยายามอย่างไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและสร้างแบรนด์ดอยช้างให้มีคุณภาพดีที่สุด ด้วยแหล่งผลิตเฉพาะและกระบวนการที่มีคุณภาพใส่ใจทุกรายละเอียด พวกเขาใช้เวลาแค่ 5 ปีส่งให้กาแฟสายพันธุ์อารบิก้าจากดอยช้างได้รับการยอมรับในเวทีโลกและได้รับมาตรฐานระดับสากล อาทิ USDA Organic, EU Organic Farming, EU Geographical Indication และ Specialty Coffee Association  ซึ่งกาแฟดอยช้างถือว่าเป็นกาแฟคุณภาพที่ส่งออกขายไปทั่วโลก  นำชื่อเสียงมาสู่พี่น้องชาวเขาและประเทศไทยได้อย่างภาคภูมิ

ดอยช้างได้ส่งเมล็ดกาแฟขายให้กับร้านกาแฟต่างๆ มากมาย  ทั้งที่เมล็ดกาแฟมีคุณภาพ  แต่ด้วยวิธีการชง เครื่องจักร และคน  ที่แตกต่างทำให้กาแฟที่ออกมารสชาติไม่คงที่  เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดอยช้างจึงได้เกิดความคิดที่จะสร้างมาตรฐานในรสชาติของกาแฟขึ้นมา  จึงทำให้ก่อเกิด  บริษัท ดอยช้าง เฟรนด์ไชน์ เมเนจเม้นขึ้นมา  เพื่อดูแลร้านกาแฟทั้งหมดทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน

อะไรที่ทำให้กาแฟจากยอดดอยของไทยก้าวสู่ถ้วยกาแฟคุณภาพระดับโลก

ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี กาแฟดอยช้างก็สามารถก้าวแซงกาแฟหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกขึ้นมาอยู่ในฐานะกาแฟคุณภาพระดับแถวหน้าของโลก  ด้วยแนวคิดและการดำเนินงานที่มาจากบุคคลที่ไม่ใช่นักธุรกิจพวกเขาทำได้ยังไงกันนะ

  1. เริ่มต้นจากแก้วเปล่า อาจกล่าวได้ว่าเป็นความโชคดีที่แฝงมากับปัญหาและอุปสรรค  ที่กาแฟดอยช้างเริ่มต้นจากผู้ที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกาแฟเลย  ทำให้ง่ายต่อการที่จะยอมรับความรู้จากแหล่งอื่นๆ  และอาศัยการเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และศึกษากระบวนการผลิตมาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลกแล้วนำมาปรับปรุงเป็นกระบวนการที่ดีและเหมาะสมกับกาแฟดอยช้าง  จนได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับโลก
  2. มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่สามารถซื้อหาและลอกเลียนแบบได้ กาแฟสายพันธุ์อารบิก้า จะเจริญเติบโตได้ดีและมีคุณภาพบนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  700 เมตรขึ้นไป อุณหภูมิประมาณ 18-25 องศา  ประมาณน้ำฝน 1,500 มิลลิเมตรต่อปี  ซึ่งดอยช้างมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วนจึงเป็นการยากที่กาแฟที่ปลูกจากแหล่งอื่นจะสามารถทำได้อย่างกาแฟดอยช้าง
  3. ควบคุมการผลิตเองจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ดอยช้างเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่ทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งถึงมือลูกค้า  จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปที่จะควบคุมคุณภาพให้ได้ตามที่วางเอาไว้
  4. ทำดียังไม่พอต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ด้วยแนวความคิดนี้จึงทำให้กาแฟดอยช้างได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับในเวทีโลกและมีมาตรฐานระดับสากล เป็นเครื่องการันตีคุณภาพ
  5. สร้างคุณภาพที่แตกต่างเพื่อราคาที่กำหนดได้ กาแฟดอยช้างมีการพัฒนาคุณภาพมาโดยตลอดอย่างไม่หยุดยั้ง  สามารถเพิ่มมูลของสินค้า ซึ่งจากเดิมเคยขายได้กิโลกรัมละไม่กี่สิบบาท  จนตอนนี้ขายได้กิโลกรัมละเป็นพัน  อย่างเช่นกาแฟขี้ชะมดของดอยช้างซึ่งจะมีความแตกต่างจากกาแฟขี้ชะมดจากแหล่งอื่นเพราะของดอยช้างเป็นกาแฟที่มาจากชะมดธรรมชาติ  จึงถือได้ว่าเป็นกาแฟขี้ชะมดที่ดีที่สุดในคุณภาพที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น
  6. สร้างธรรมชาติแล้วธรรมชาติจะให้เรากลับมา การปลูกกาแฟที่ดอยช้างจะทำไปพร้อมๆ กับการสร้างป่า  ทำให้กาแฟดอยช้างเป็นกาแฟคุณภาพเพราะได้รับแสงในปริมาณที่เหมาะสม  อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าอย่างเช่นชะมดมาอาศัยอยู่และกินผลกาแฟเป็นอาหารทำให้เกิดกาแฟขี้ชะมดคุณภาพดีที่สามารถขายได้ในราคาที่สูง
  7. พุ่งสู่จุดหมายด้วยความมุ่งมั่น เนื่องจากเกษตรกรดอยช้างเป็นชนเผ่าซึ่งไม่มีสัญชาติส่วนใหญ่จึงไม่ได้เรียนหนังสือ  แต่พวกเขาสามารถสร้างกาแฟที่มีคุณภาพระดับสากลได้เพราะพวกเขามีเป้าหมายที่ชัดเจนและก้าวเดินไปพร้อมกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน

บทเรียนจากดอยช้างสู่ธุรกิจ SME

  1. ทำสิ่งที่มีให้ดีที่สุด ธุรกิจทุกธุรกิจ  สินค้าทุกแบรนด์  ย่อมมีสิ่งที่ดีอยู่ในตัวเมื่อเรามีของดีอยู่ในตัวเอาออกมาโชว์เถอะค่ะ  เราไม่ได้อวดดีแต่เรามีดีที่จะอวด  อย่างเช่นกาแฟดอยช้าง  เขามีกาแฟพันธ์ุดี  มีพื้นที่เพาะปลูกที่ดีในสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม  และพวกเขาก็พยายามทำสิ่งที่เขามีอยู่ให้ดีที่สุด  ออกมาให้ชาวโลกเห็นว่าไทยก็มีกาแฟที่ดีไม่แพ้ชาติใดในโลก
  2. ของดีถ้าวางผิดที่ก็ไม่มีความหมาย ต่อให้สินค้าเราดีแค่ไหนแต่ถ้าเราวางกลุ่มเป้าหมายผิดก็ไม่สามารถเติบโตได้  อย่างกาแฟดอยช้างเริ่มแรกทำการตลาดที่ไทยขายไม่ได้เพราะไทยยังไม่นิยมกาแฟ  จึงได้มุ่งไปทำการตลาดในต่างประเทศจนได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงให้กับกาแฟไทยได้อย่างภาคภูมิ
  3. ทำให้คนอื่นพูดให้ได้ว่าของเราดี คุณเคยสังเกตไหมว่าถ้ามีใครซักคนมาบอกว่าของเขาดียังไงเราก็ไม่เชื่อ  แต่ถ้าเป็นคนอื่นพูดความอยากลองจะเกิดขึ้นมาทันที  ทำยังไงล่ะให้คนอื่นพูดถึงเราในทางที่ดีได้  อย่างเช่นกาแฟดอยช้างเริ่มแรกออกสู่ตลาดพวกเขาจะพยายามเอากาแฟไปให้หน่วยงานที่ได้รับการยอมรับทางด้านกาแฟชิม  ส่งกาแฟไปให้สถาบันต่างๆ ทั่วโลกตรวจสอบ จนได้รับการยอมรับในเวทีโลกและมีมาตรฐานระดับสากลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ  มาถึงปัจจุบันพวกเขาสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิว่า

กาแฟดอยช้างคือ “อัตลักษณ์กาแฟไทย  สุดยอดกาแฟโลก”

ขอบคุณข้อมูลจาก

ดอยช้างแหล่งผลิตกาแฟระดับโลก ความภาคภูมิใจของคนเชียงราย

Home

“Specialty Coffee” คลื่นลูกที่สามเขย่าอุตสาหกรรมกาแฟโลก พร้อมถอดกรณีศึกษา “กาแฟดอยช้าง”


https://mgronline.com/travel/detail/96000001288

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนสร้างรายได้ออนไลน์ รุ่น 3”

คุณ กัญญาภัค  พุฒพวง
แม่บ้าน