ปี 2008 (ภายหลังการก่อตั้งบริษัทฯ เพียงแค่ปีเดียว) Auctomatic ได้ถูกขายให้กับ Live Current Media ไปในราคา 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และนั่นได้ทำให้จอห์นได้กลายการเป็นเศรษฐีเงินล้านด้วยวัยเพียง 17 ปี

“จอห์น คอลลิสัน” เป็นชาวไอริช เกิดในปี 1990 ที่เมือง Limerick ประเทศไอร์แลนด์ มีพี่ชายที่อายุมากกว่าเขา 2 ปี ชื่อ “แพทริค” ทั้งสองพี่น้องถือได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีความกระตือรือร้นและมีความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตสูงมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และเติบโตมาในเขตชนบทของประเทศไอร์แลนด์ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะมาขัดขวางความสำเร็จของพวกเขาแต่อย่างใด

เริ่มทำธุรกิจ และเป็นเศรษฐีเงินล้านตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น

 ด้วยความที่ทั้งคู่มีความรู้และความสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากเป็นพิเศษ ในปี 2007 จอห์นและพี่ชาย ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท “Auctomatic” ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ขายได้สามารถเข้ามาทำธุรกิจและบริหารธุรกรรมบนเว็บไซต์อย่าง eBay หรือ Amazon ได้ง่ายขึ้น

โดยในปี 2008 (ภายหลังการก่อตั้งบริษัทฯ เพียงแค่ปีเดียว) Auctomatic ได้ถูกขายให้กับ Live Current Media ไปในราคา 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และนั่นได้ทำให้จอห์นได้กลายการเป็นเศรษฐีเงินล้านด้วยวัยเพียง 17 ปี

มุ่งหน้าสู่อเมริกา

จอห์นนิสัยชอบท่องเที่ยว ชอบการผจญภัย และรักความท้าทาย ดังนั้นการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยภายในประเทศ รวมถึงประเทศใกล้เคียงอย่างสหราชอาณาจักรจึงไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้  เนื่องจากเขาคิดว่ามันใกล้บ้านเกินไป

ในปี 2009 ภายหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมที่ Castletroy College จอห์นจึงตัดสินใจสอบและได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับ พี่ชายของเขา (แพทริก) ที่ได้เข้าเรียนที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2007

ก่อตั้งบริษัท Stripe (สไตรป์)

จากการที่สองพี่น้องคอลลิสันมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจและประสบความสำเร็จกับบริษัท Auctomatic มาแล้ว จอห์นและพี่ชายจึงได้มีไอเดียที่จะทำธุรกิจอีกครั้ง โดยทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจดร็อปเรียนเพื่อมาลุยทำธุรกิจอย่างเต็มตัว

ในปี 2010 จอห์นและพี่ชายได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Stripe ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มที่ใช้เป็นตัวกลางในการชำระเงินบนโลกออนไลน์ ถ้าใครนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง ให้นึกถึง Paypal ครับ (มีรูปแบบการให้บริการที่คล้ายกัน) ซึ่งว่ากันว่า Stripe มีความง่ายต่อการใช้งานมากกว่า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจบนโลกออนไลน์

หลายคนอาจคิดว่าธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และสามารถทำกำไรได้มากมายนั้นต้องมีรูปแบบการทำธุรกิจที่ลึกลับซับซ้อน แต่สำหรับ Stripe นั้นไม่ใช่เลย โมเดลธุรกิจของ Stripe นั้นค่อนข้างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดย Stripe จะทำการเก็บค่าบริการจากลูกค้าเป็นเงินจำนวนหนึ่งทุกครั้งต่อการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง

จอห์น คอลลิสันให้ความเห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกมีการใช้จ่ายผ่านโลกออนไลน์เพียงแค่ 5% เท่านั้นเมื่อเทียบกับการใช้จ่ายทั้งหมดบนโลก ดังนั้นเขาจึงมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่า บริษัทของเขาจะยังสามารถเติบโตต่อไปในอนาคตได้อีกไกล ตราบเท่าที่ธุรกิจบนโลกออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังได้รับเงินสนับสนุนจากเหล่านักลงทุนต่างๆ (Venture Capitalists) อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อีลอน มัสค์ (ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX) ปีเตอร์ ธีล (ผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal) เป็นต้น

ผมได้ข้อคิดสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจ แต่ไม่มีทุน และคิดว่าการไม่มีเงินคือข้อจำกัดลองดูพี่น้องคอลลิสันเป็นตัวอย่างนะครับ นี่คือคนที่เริ่มจากหนึ่งสมอง สองมือ บวกกับใจที่ทะเยอทะยาน และรักในสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นตัวผลักดันให้ตัวเขาเองประสบความสำเร็จ ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเริ่มที่เงิน อยากที่หลายๆคนเข้าใจนะครับ ตรงจุดนี้ทำให้ผมนึกถึงประโยคที่ว่า

“Money is an idea” คือถ้าคุณมีไอเดีย ถ้าคุณเจ๋งจริง เงินจะมาหาคุณเอง เหมือนอย่างที่ Stripe ได้รับเงินสนับสนุนต่างๆ จากเหล่า Venture Capital นั่นเอง

Stripe อาจไม่ได้มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักมากนักในกลุ่มผู้บริโภค เนื่องจากเป็นสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ โดยปัจจุบันมีการดำเนินการให้บริการไปมากกว่า 25 ประเทศ และมีลูกค้ามากกว่า 100,000 รายทั่วโลก

ในปี 2016 หลังจากที่ CapitalG และ General Catalyst มาร่วมลงทุนใน Stripe จึงส่งผลให้บริษัทมีมูลค่ามากถึง 9.2 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ และทำให้จอห์น คอลลิสัน ในวัย 26 ปี กลายเป็นเศรษฐีพันล้านที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ เท่ากับกับแพทริก พี่ชายของเขา ซึ่งครองอันดับ 3 ของเศรษฐีพันล้านที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก

ชีวิตที่เรียบง่าย

ถ้าพูดถึงการใช้ชีวิตแบบเศรษฐีพันล้าน เชื่อว่าหลายๆคนคงจะวาดภาพในหัวถึงชีวิตที่หรูหรา และการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือย แต่สำหรับจอห์น คอลลิสันแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งสิ้น เขามักจะถูกถามอยู่เสมอ ด้วยคำถามประเภทที่ว่า “ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไป (จากตอนที่ยังไม่รวย) อย่างไรบ้าง?” ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ค่อยชอบที่จะถูกถามด้วยคำถามเหล่านี้เท่าไหร่นัก แน่นอนว่าผู้ถามคงคาดหวังที่จะได้ยินเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นจากชีวิตของเขา หรือกิจกรรมที่แปลกประหลาดชนิดที่ว่าคนทั่วไปบนโลกนี้ไม่สามารถมีโอกาสทำได้

แต่เปล่าเลย!

ชีวิตของจอห์นนั้นเรียบง่ายมาก ในเวลาว่าง จอห์นและพี่ชายเพียงแต่แชร์ห้องร่วมกันอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในเมืองซานฟรานซิสโก

งานอดิเรกของเศรษฐีท่านอื่น อาจจะเป็น การได้ไปล่องเรือยอร์ช หรือการช็อปปิ้งสินค้าราคาแพงๆ แต่สำหรับจอห์นแล้ว การวิ่งออกกำลังกาย คืองานอดิเรกที่เหมาะสมสำหรับเขาที่สุด เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย สะดวก ไม่เปลือง แถมยังทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

จอห์นไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือภูมิใจไปกับการถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในโลก

เขาแค่มีความสุขในชีวิตในแบบที่เขาเลือกที่จะเป็น ไม่ใช่ใช้ชีวิตในแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น

การมีเงินทองมากมาย หรือการได้ใช้ชีวิตที่หรูหราแบบมหาเศรษฐี อาจเป็น

เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของใครหลายๆคน แต่จริงๆ แล้วเมื่อไปถึงจุดนั้น ความสุขที่แท้จริงที่เราต้องการ มันก็อาจเรียบง่ายเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้

เหมือนชีวิตของเศรษฐีหนุ่ม จอห์น คอลลิสันคนนี้นี่แหละครับ!

บทความโดย

ผู้ผ่านรับการฝึกอบรม “ใช้เวลาว่างเขียนบทความสร้างรายได้”

คุณ  เอกภพ เด่นดวง

วิศวกรสิ่งแวดล้อม, เทรดเดอร์อิสระ