มีอาหารหลายอย่างมากที่อยู่ในลิสต์ ‘ต้องกิน’ เมื่อไปที่ประเทศเกาหลี เมนูยอดฮิตคือ บาร์บีคิว คิมบับ บิบิมบับ และต้องเพิ่ม ‘นมกล้วยเกาหลี’ เข้าไปด้วยนะ!

ไม่ใช่แค่คนเกาหลีที่ชอบดื่มนมกล้วย ชาวต่างชาติก็ชอบเช่นกัน แล้วทำไมนมกล้วยถึงเป็นที่นิยมล่ะ? บทความนี้จะไขข้อสงสัยให้เอง!

นมกล้วยเกาหลีได้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของทั้งชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ แต่ทำไม’นมกล้วย’ในตำนาน ถึงเป็นที่นิยม ความลับของบริษัทคืออะไร?

ทำไมถึงต้องเป็นรสกล้วยล่ะ?

นมกล้วยเกาหลี

นมกล้วยถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1974 ในสมัยนั้น รัฐบาลเกาหลีต้องการส่งเสริมให้ประชาชนดื่มนมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นมรสจืด ไม่ถูกปากผู้คนในขณะนั้น บริษัทบิงเกรย์ (ฺBinggrae)  จึงเริ่มใส่รสชาติของกล้วยเข้าไปในนม

คำตอบคือ เนื่องสภาพภูมิอากาศของประเทศเกาหลีหนาวเย็นเกินไป ทำให้ไม่สามารถปลูกกล้วยได้ ในช่วงที่มีการผลิตนมกล้วยนั้น การนำเข้ากล้วยจากต่างประเทศเป็นเรื่องที่ยาก กล้วยจึงเป็นผลไม้นำเข้าที่แพง และเป็นผลไม้สำหรับคนรวยเท่านั้น

การตลาดผ่านความบันเทิง นมกล้วยเกาหลี บิงเกรย์ (ฺBinggrae)

ถ้าเคยดูซีรีส์เรื่อง Reply1988 จะเห็นว่าผู้คนตื่นเต้นมากเมื่อได้กินกล้วย นั่นเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของผู้คนในสมัยนั้นเกี่ยวกับกล้วยได้อย่างชัดเจน และเป็นการนำเสนอว่ากล้วยมีราคาแพงมาก

ดังนั้นการเพิ่มรสชาติของกล้วยลงไปในนม จึงเป็นการผลิตที่ประสบความสำเร็จ เพราะราคาไม่แพง ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ และยังช่วยให้รัฐบาลประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้ผู้คนดื่มนมมากขึ้นอีกด้วย

หลายคนคิดว่านมเป็นเครื่องดื่มสำหรับเด็ก แต่ที่จริงแล้วนมกล้วยของเกาหลีเป็นที่นิยมในหมู่ผู้คนทุกช่วงวัย เพราะมีราคาถูก และรสชาติถูกปากผู้คน

และที่สำคัญ นมกล้วยมีส่วนประกอบของส่วนผสมจากธรรมชาติมากถึง 80% ขวดของมันก็น่ารักและสะดวกต่อการจับถืออีกด้วย

นอกจากนี้ นมกล้วยถือเป็นของฝากและเครื่องดื่มที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยี่ยมเยียนประเทศเกาหลี ด้วยผลของการโฆษณาและการโปรโมทในละคร!

จากเครื่องใช้โบราณสู่แพ็คเก็จสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง

บริษัทบิงเกรย์ (ฺBinggrae)   ออกแบบขวดในรูปแบบของไหโบราณของเกาหลี และทำจากพลาสติก แทนการใช้กระดาษ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในยุค 1970 เพราะนมส่วนใหญ่ถูกบรรจุในขวดแก้ว

เพื่อป้องกันไม่ให้นมหก หรือกระเด็นใส่ใบหน้า บริษัทจึงออกแบบปากของขวดให้เป็นแบบปากแคบให้สะดวกต่อการดื่ม

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นมกล้วยเกาหลี แตกต่างจากนมชนิดอื่น คือบรรจุภัณฑ์เป็นแบบโปร่งใส ทำให้ผู้บริโภคเห็นสีเหลืองของนมจากด้านนอก

ในปัจจุบัน นมกล้วยถูกนำเข้าและขายใน 13 ประเทศทั่วโลก บริษัทได้ขยายกิจการ และยังมีนมสตรอว์เบอร์รี่ นมเมล่อน และนมกล้วยสูตรหวานน้อย

สำหรับชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวเกาหลี นมกล้วยอาจเป็นของแปลกใหม่ แต่สำหรับชาวเกาหลี เมื่อได้ดื่มนมกล้วย ทำให้เกิดความคิดถึงบ้าน และความภาคภูมิใจ

เมื่อไปที่เกาหลี อย่าลืมที่จะลิ้มลองและดูว่าคุณสามารถลิ้มรสประวัติศาสตร์ได้หรือไม่!

ข้อคิดธุรกิจจากกรณีศึกษานมกล้วยเกาหลี บิงเกรย์ (ฺBinggrae)  

1.การปรับตัวของบริษัทในเกาหลีต่อสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ

การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเวลา ทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลทั้งด้านลบและด้านบวก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการใช้ชีวิต และธุรกิจ บริษัทบิงเกรย์ เองก็เช่นกัน มองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐ ที่สนับสนุนให้คนดื่มนม จึงพัฒนาสินค้าใหม่ที่มาจากนมผสมกล้วยลงเป็น สร้างแบรนด์สินค้าให้แตกต่างและโดดเด่นขึ้นมา

คนสำเร็จมักมองเห็นโอกาสในทุกๆ การเปลี่ยนแปลง แต่กลับกันคนที่ย่ำอยู่กับที่ จะมองเห็นทุกอุปสรรค ปัญหา ในการเปลี่ยนแปลง

หากต้องการความสำเร็จ ให้เราเริ่มต้นจากการยอมรับการเปลี่ยนแปลง และ พยายามสร้างโอกาสให้กับตัวเองในทุกการเปลี่ยนแปลงที่มีเข้ามา

2.การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเกาหลี โดยปรับใช้จากวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศ

ความเป็นชาติ วัฒนธรรม คือ สิ่งที่ดำรงไว้ซึ่งพงศ์เผ่า บรรพชน ที่เราควรเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความเป็นมา รวมถึงอนุรักษ์คุณค่าให้ดำรงสืบไป

ทั้งนี้การดำรงไว้ซึ่งคุณค่า อาจจะไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิมทั้งหมด เราสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ โดยยึดแนวทางวัฒนธรรมดั้งเดิม บวกเพิ่มความทันสมัยเข้าเป็น จะเป็นผลิตภัณฑ์แบบใหม่ แพ็คเก็จแบบใหม่ สินค้าแบบใหม่ๆ ที่มีกลิ่นไอทางวัฒนธรรมอยู่ในนั้น

บริษัทบิงเกรย์ออกแบบภาชนะในรูปแบบของไหโบราณของเกาหลี และทำจากพลาสติก เป็นการนำเอาความคิดสร้างสรรค์ เติมลงไปในเครื่องใช้โบราณ ออกมาเป็นแพ็คเก็จที่น่าหยิบ น่าจับ น่ามอง ชวนสะดุดตา และยังทรงไว้ซึ่งคุณค่าความเป็นเกาหลี

ชนใดในชาติขาดความรัก ความหวงแหนวัฒนธรรมตน ที่บรรพชนได้สร้างไว้แต่เก่าก่อน ก็มีโอกาสสูญเสียความเป็นชาติ และวัฒนธรรมไปได้ ดังนั้นแล้ว เราควรช่วยกันอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี ความเป็นชาติ ให้ดำรงสืบไป ด้วยความภูมิใจในชาติ บ้านเกิดเมืองนอน และนำความรู้ความสามารถของเรามาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ประสานร่วมกับของเก่า เพื่อการพัฒนาก้าวหน้าต่อไป

3.การทำการตลาดสินค้า วัฒนธรรม การท่องเที่ยวผ่านซีรี่ย์ สร้างแบรนด์ให้กับสินค้าและประเทศ

สินค้าแม้จะดี เด่น แตกต่าง มีคุณภาพ แต่หากขาดการทำการตลาดที่ดี ขาดการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน สินค้านั้นก็ยากที่จะแจ้งเกิดได้

เกาหลีเป็นตัวอย่างในการให้การสนับสนุน สินค้า วัฒนธรรม ผ่านสื่อสมัยใหม่ ดังตัวอย่าง รัฐออกนโยบาย สนับสนุนให้คนทานกล้วย ก็ออกมาเป็นซีรี่ย์ Reply1988 ทำให้คนตื่นเต้นกับการทานกล้วยกัน เมื่อซีรี่ย์นี้ถูกนำไปฉายต่อในต่างประเทศ ก็เท่ากับว่าเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้า ผ่านความบันเทิง

ยังมีตัวอย่าง สินค้า วัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว อีกมากมาย ที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการส่งออกมาในรูปแบบของ ซี่รี่ย์ นักร้อง นักแสดง เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความสนใจ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ซี่รี่ย์ นักร้อง นักแสดง เหล่านี้ก็จะเป็นเหมือนมัคคุเทศก์ ที่จะเชิญชวนให้คนต่างชาติได้มาเที่ยวเกาหลี  เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำให้สนใจสินค้า เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองรสชาติตามพวกเขา

การตลาดภาพใหญ่ ของประเทศเกาหลี จึงเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ และ คนทำธุรกิจควรถอดแบบแนวคิด เพื่อนำมาประยุกต์เป็นแนวทางในการทำการตลาดสินค้า รวมทั้งภาครัฐควรให้การสนับสนุนส่งเสริม เพื่อถ่ายทอด สินค้า วัฒนธรรม การท่องเที่ยว ประเพณี ของไทย ให้ไปไกลเหมือนดั่งที่ประเทศเกาหลีทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง

อ้างอิง

https://www.creatrip.com/en/blog/8759

http://culzine.com/paper/view/1216

https://www.korea.net/NewsFocus/Business/view?articleId=122721

แปลและเรียบเรียงโดย นส. พัณณ์ชิตา จินดามณี