มดเรื่องเล็กๆ แต่ไม่เล็กสำหรับบ้าน

ผมไม่ค่อยอยากรับความจริงข้อนี้กับใครสักเท่าไหร่ ว่าผมเป็นผู้ชายที่… ชอบกินขนม

ช็อกโกแลตและไอศกรีม อยู่อันดับต้นๆของรายการของโปรด ตามมาติดๆด้วย คุ้กกี้อบนิ่ม ยิ่งถ้าเป็นคุ้กกี้อบนิ่มยี่ห้อจากต่างประเทศยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งก็คือคุ้กกี้รสช็อกโกแลตเนื้อนิ่มผสมช๊อกโกแลตนมเป็นก้อนๆ มันก็คือสวรรค์ชั้น 1 กับชั้น 3 ของผมมารวมกันดีๆ นี่เอง

คุ้กกี้ชนิดนี้มีวางขายในซูเปอร์ แต่นานๆ ผมจะซื้อทานสักที เหตุเพราะคิดว่าราคามันค่อนข้างสูง

แต่แล้ววันหนึ่ง เดินเข้าไปซื้อกับข้าว ปรากฏว่าคุ้กี้ยี่ห้อนี้ลดราคากว่า 20 เปอร์เซนต์

“ลดถูกอย่างนี้ ต้องจัด!” ผมคว้าไปจ่ายเงินทันทีถุงนึง ทั้งที่ในใจอยากตุนไว้สักสาม

วันนั้นกลับถึงคอนโดดึก จึงยังไม่ได้แกะกิน เอาถุงคุกกี้วางไว้บนตู้ในครัวไปก่อน ความที่ตู้นี้มีฝาปิดทึบ มองไม่เห็นข้างใน ผมจึงลืมคุกกี้ไว้ในตู้ 2 วัน

“เฮ้ย มีคุ้กกี้นี่หว่า” ผมนึกออกในวันที่ 3 วันนั้นกลับมาเร็ว มีเวลาดูทีวีกินขนมสบายใจเฉิบแน่

กลับมาปุ๊บ ผมรีบคว้าถุงจากตู้ทันที มือรีบฉีกปากถุงแล้วล้วงหยิบคุ้กกี้นิ่มผสมช๊อกโกแลตที่หมายมั่น เตรียมจะใส่ปาก

แต่เอ๊ะ ทำไมคุ้กกี้มันแปลกๆ มันขยับได้

ไม่ใช่ซิ มีบางสิ่งบางอย่างขยับอยู่บนคุ้กกี้

เฮ้ยยยย มดขึ้นนนนน!

หมดกัน คุ้กกี้ถุงนั้น มดยั้วเยี้ยไปหมด อดกิน เสียดายน้ำตาแทบเล็ด

แต่ว่า มันเข้าไปได้ยังไง? ถุงยังไม่ได้เปิดเลยนี่นา

ผมจับถุงมาพลิกไปมา หาต้นเหตุว่ามดขึ้นได้อย่างไร

แล้วก็พบว่า บรรจุภัณฑ์กระดาษอย่างดี ที่มีชั้นพลาสติกและฟอยล์เสริมอยู่ภายใน รวมเป็น 3 ชั้นที่ปกป้องคุ้กกี้อยู่นั้น มีรูเล็กๆ อยู่ เป็นรูที่มดใช้เข้าออกจากถุง พอมองย้อนไปบนตู้ก็เห็นว่ามันเดินมาเป็นแถวเพื่อมาเข้ารูนี้

สรุปได้ว่า มันได้กลิ่นคุกกี้ในถุง จึงค่อยๆ กัดเจาะถุงจนเป็นรู

เรื่องนี้ทำให้ผมเค้นมดฝังใจ แต่เป็นคนไม่ฆ่าสัตว์ จึงต้องทำใจ เริ่มหาวิธีป้องกัน

หลังจากนั้นไม่นานก็เจอปัญหาซ้ำอีก ทิ้งเศษอาหารในภังขยะ ไม่นานนักมดก็มาขึ้น เดินมาทิวแถวผ่ากลางห้องคอนโด กลายเป็นเราเดินลำบากเพราะกลัวเหยียบมด จำเป็นต้องคอยกวาดทิ้งเรื่อยๆ

คราวนี้ภารกิจกันมดกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องรีบหาวิธีทำให้มันไม่ขึ้นถังขยะก่อน นึกอะไรไม่ออกก็อาศัยวิธีสุดฮิตคือ เอาน้ำมาเทรองไว้

แต่น้ำไม่ใช่ทางออก บางทีก็ชนหกออกมเลอะเทอะ ทิ้งไว้นานไปก็แห้งหายไป ต้องคอยเติม สรุปว่า เป็นวิธีที่ไม่สะดวก

ผมออกหาสินค้าในตลาด ว่ามีอะไรจะตอบโจทย์ผมได้บ้าง อยากกันมดแต่ไม่อยากทำร้ายมัน สิ่งที่พบคือ ผลิตภัณฑ์กันแมลง ที่มีให้เลือกนั้น มีแต่ฆ่า ฆ่า ฆ่า อยู่ที่ว่าฆ่าน้อยฆ่ามาก เท่านั้นเอง กรณีที่เป็นสมุนไพร ลองใช้แล้วก็ได้ผลไม่นาน ผ่านไป 1-2 วันมดก็มาอีก

นั่นเป็นที่มาของการทดลองทำเอง

ช่วงนั้นที่คอนโดมดเยอะมาก มาทุกวัน วางอะไรทิ้งไว้ไม่นานเดี๋ยวก็มา ผมเลยมีไอเดียว่า ทำเป็นที่ทดลองไปซะเลย เพื่อหาวิธีว่า มีวิธีไหนกันมดได้อยู่หมัดบ้าง

ความต้องการของผมในตอนนั้น ตั้งไว้ชัดเจน คือ

  1. ต้องไม่ฆ่ามด เราไม่ต้องการทำบาป
  2. ต้องไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารอันตรายใดๆ ที่จะมาพลอยส่งผลเสียต่อคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน รวมถึงไม่มีฝุ่นและกลิ่นที่สร้างความรบกวน
  3. ต้องใช้ง่าย ไม่จุกจิก ไม่เกะกะ
  4. ต้องใช้ได้นาน ไม่ต้องมานั่งเติมหรือต้องดูแลบ่อยๆไม่เป็นภาระ

 

“เอ แต่เราไม่ได้มีความรู้เรื่องมดแมลง เริ่มต้นยังไงดีหว่า”

ผมนั่งไล่คิดเทคนิควิธีที่จะกันมดเดิน มีอะไรบ้างที่ทำได้ ทำไม่ได้ ใช้กระบวนการตัดวิธีที่ไม่ตอบโจทย์ 3 ข้อออกไปก่อน คือ ยาฆ่าแมลงทุกประเภท ตัดออก กลิ่นและผงทุกประเภท ตัดออก (เพราะกลิ่นอยู่ได้ไม่นาน 1-2 วันก็จางหาย ผงแป้งก็เลอะเทอะ เป็นฝุ่นในบ้าน) วิธีไฮเทค เช่น คลื่นวิทยุไล่แมลง ตัดออก เพราะซับซ้อนเกินไป

เหลือวิธี “สร้างอุปสรรค” ไม่ให้มดเดิน

หลักการเหมือนการหล่อภาชนะด้วยน้ำ คือ มีผิวที่มันเดินไม่ได้ ล้อมรอบอาหารไว้ แต่แค่เปลี่ยนจากน้ำเป็นอย่างอื่นที่คงทนกว่า แต่จะใช้อะไรดีที่กันมดได้ แล้วต้องปลอดภัยด้วย

ว่าแต่ มดมันเดินอย่างไร ไม่รู้เหมือนกัน พอจะรู้ว่าเท้ามันเป็นตะขอ ปีนป่ายได้ดี เดินขึ้นกำแพงได้ แต่กระจกเรียบๆ ทำไมมันปีนได้ ผมศึกษาหาข้อมูลตรงนี้อยู่ระยะหนึ่งจนเกิดความเข้าใจ ซึ่งในโอกาสหน้าอาจจะได้นำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง

เมื่อเข้าใจวิธีเดินของมดแล้ว ก็กลับมาที่โจทย์ “อุปสรรคกันมด” จะใช้อะไรแทนน้ำดี เริ่มจากของใกล้ตัวที่เรารู้ว่าปลอดภัยดีกว่า ถ้าทาตัวได้ ทาผิวได้ ก็น่าจะปลอดภัยนะ เครื่องสำอางเป็นไง ปลอดภัยแน่นอน มีอ.ย.รับรองอีกต่างหาก

ผมนำเครื่องสำอางประเภทต่างๆ มาศึกษาดูว่า มันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง สารประกอบแต่ละตัวคืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร และมันจะส่งผลกับมดหรือไม่ อย่างไร

จากนั้นเลือกหาสูตรที่คิดว่า น่าจะกันมดเดินได้ นำมาทดลอง เอาขนมวางล่อไว้ เอาเครื่องสำอางทาไว้รอบๆ วางทิ้งไว้ รอดูว่า อะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล

ทำอย่างนี้อยู่เป็นเดือน ปรับเปลี่ยนสูตรไปเรื่อยๆ จนเริ่มจับจุดได้ รู้ว่าสารบางประเภท ทำหน้าที่กันมดเดินได้จริงๆ เวลามันเหยียบลงไป มันจะรู้สึกไม่สบายเท้า เหนอะนะ มันจะหยุดแล้วเช็ดเท้ามันไปมาอยู่ตรงนั้น ถ้าย่ำอีกก็โดนอีก มันจึงไม่ย่ำต่อ หันหลังไปทางอื่นแทน

เปลี่ยนปัญหามด เป็นธุรกิจ AntPad

นี่เป็นที่มาของสูตรกันมดที่ปลอดภัย ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ต้องทำบาป อย่างที่ผมอยากใช้เอง ซึ่งท้ายสุดก็พัฒนาต่อมาเป็นสินค้า AntPad โดยการพัฒนารูปแบบและดีไซน์ที่เหมาะสม มีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเริ่มใช้วัสดุที่เป็นมิตร เช่น เซรามิก และ ไม้ ซึ่งเข้ากับบรรยากาศในบ้านหรือร้านอาหารได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันสินค้าตัวนี้ผลิตและจำหน่ายในชื่อ AntPad ภายใต้แบรนด์ Dreamleaf เป็นสินค้าที่ได้รับรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ

การใช้งานง่ายมาก เพียงใช้รองใต้ภาชนะ รองใต้ขาตู้ ขาโต๊ะ ก็กันมดได้แล้ว ดูแลเรื่องความสะอาดนิดหน่อยก็สามารถใช้งานได้เป็นปีๆ

บ้านใครนิยมสร้าง “หอคอยน้ำ” วางขนมไว้กลางน้ำเพื่อกันมด แสดงว่ามีความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยหรือไม่อยากทำบาป อยากจะแนะนำสินค้า แผ่นรองกันมด AntPad สูตรเครื่องสำอางนี้ เพื่อใช้แก้ปัญหามดได้อย่างสบายใจ สำหรับรายละเอียดและการสั่งซื้อ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.dreamleaf.net ได้ครับ

 

ผลงาน การสร้างคอนเทนต์ เล่าเรื่องจากหลักสูตร Content ดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

คุณ ศีรวิชญ์ บุญซื่อ เจ้าของผลิตภัณฑ์ แผ่นรองกันมด AntPad