การทำ Storytelling หรือการเล่าเรื่องเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพบและทำกันอยู่ในทุกวันในชีวิตประจำวันของเรากันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราก็คงเล่าเรื่องต่างๆที่เราพบเจอไปตามความเคยชินจนไม่ได้สังเกตว่าทุกคนคือคนเล่าเรื่องทั้งนั้น แต่ถ้าเราอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรืออะไรก็ตามแต่ที่เราอยากจะสื่อสารไปสู่กลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าบนโลกออนไลน์ให้ได้ผลเป็นที่จดจำ และสามารถเปลี่ยนการเล่าเรื่องนั้นให้เป็นผลลัพธ์ที่ธุรกิจต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำและความผูกพันกับแบรนด์ หรือแม้กระทั่งตัวยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็ตาม วันนี้ก็ลองมาทบทวนดู 4 องค์ประกอบที่สามารถเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การสร้าง storytelling บนโลกออนไลน์ให้เปรี้ยงปัง
1.การทำ Storytelling เล่าเรื่องจากจุดขาย
แต่ละร้านแต่ละธุรกิจย่อมมีจุดขายที่แตกต่างกัน แล้วจุดขายจุดไหนคือจุดที่เราต้องการให้ลูกค้ารับรู้ก็ลองหยิบเอามาผูกเอามาเล่าเป็นเรื่อง อย่างเช่น ถ้าเราขายเนื้อปูแกะออนไลน์ มีดีที่ความสด และสามารถการันตีได้เพราะที่บ้านมีเรือออกไปจับปูเองและมั่นใจได้ว่าสดจนคำสุดท้ายเพราะจัดส่งด้วยรถขนส่งที่ควบคุมความเย็น หรือแม้กระทั่งถ้าเรามีดีที่น้ำจิ้มรสเด็ด เผ็ด แซ่บไม่เหมือนที่ไหน รสชาติดั่งฝีมือแม่ที่ใครชิมก็ติดใจ แค่เราลองหยิบเอาจุดขายต่างๆมาเล่ามาให้ลูกค้าฟังพอบวกความอินและความจริงใจเข้าไปมันก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากเรา
2.วิธีการเล่าเรื่อง
การเล่าเรื่องมีมากมายหลากหลายวิธีแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการหรือความชอบของแต่ละคน แต่โดยหลักๆ ที่เด่นๆก็มีอยู่สี่แบบด้วยกัน คือเล่าแบบเรื่องราว แบบจำกัดความ แบบเล่าเรื่อง และแบบเปรียบเปรย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อเด่น ข้อด้อยแตกต่างกันออกไปเช่นกัน
เช่น การเล่าแบบมีเรื่องราวก็จะเป็นเหมือนการเล่าแบบให้เห็นภาพ เป็นฉากๆ มีการดำเนินเรื่องไป ข้อดีคือคนอ่านคนดูก็ดูก็อ่านกันไปได้เพลินๆ ติดตามเรื่องราวกันไป แต่ถ้าเกิดเนื้อเรื่องน่าเบื่อไม่ชวนติดตามก็จบกัน
ส่วนแบบเล่าเรื่องก็จะคล้ายๆเรื่องที่เราเล่าให้คนอื่นฟังเป็นเรื่องสั้นหรือยาวก็แล้วแต่
หรือถ้าจะเป็นแบบเปรียบเปรย ก็ต้องเปรียบดีโดนใจ จึงจะได้ใจกันไปเต็มๆ ซึ่งเราต้องทำให้การเปรียบเปรยนั้นสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการตีความที่ผิดจนส่งผลกระทบต่อตัวแบรนด์หรือธุรกิจ จนทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือไปได้
แต่ถ้าจะใช้การเล่าแบบจำกัดความก็เล่าประโยชน์ข้อดีหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อยากบอกกันแบบตรงๆไปเลย แต่บางทีมันก็ยากที่จะให้ผู้รับสารจดจำสิ่งที่เราจะบอก ถ้าเราเล่าแบบไม่น่าสนใจพอ
ดังนั้นจงเลือกวิธีเล่าให้เหมาะกับทั้งเรา ทั้งคนดูคนฟัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
3.การเข้าใจคนฟัง
ปกติแล้วเวลาเราเล่าเรื่องอะไรก็ตามแต่แม้กระทั่งในชีวิตประจำวันของเราเอง ก็ต้องมีสามองค์ประกอบหลักที่จะทำให้เราสื่อสารได้ นั่นก็คือ คนพูด คนฟัง สิ่งที่เล่า ซึ่งคนพูดก็คือผู้ส่งสาส์นก็มีหน้าที่ที่ต้องเข้าใจและรู้ว่าผู้รับสาส์นคือใคร มีลักษณะแบบไหน รับรู้ได้ดีจากวิธีไหน มีวิถีการใช้ชีวิตแบบใด ชอบการสื่อสารแบบไหน สนใจอะไร ติดตามสิ่งใด ช่วงอายุเท่าไร และอื่นๆ ซึ่งหลายคนคงงงทำไมต้องรู้ต้องใส่ใจ ที่เราต้องรู้ก็เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาเขย่ารวมกันทำstorytelling ให้โดนใจเพราะถ้าเมื่อไรที่เราเข้าใจและรู้อย่างแท้จริงเกี่ยวกับคนรับสาสน์มันก็จะทำให้เราสามารถเลือกวิธีและรูปแบบ รวมไปถึงเนื้อหาหรือแม้กระทั่งช่วงเวลาและระยะเวลาในการสื่อสารเล่าเรื่องให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งๆขึ้นไป
4.การเข้าถึงอารมณ์
หลายๆคน โดยเฉพาะผู้หญิงคงเคยร้องไห้เพราะอินกับละครหรือซีรีส์ที่ดู บางทีก็ยังนึกไปว่าตัวเองคือนางเอกพระเอกในเรื่องเลยด้วยซ้ำ แล้วก็ยังไปคุยไปเล่าต่อให้เพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวฟัง แม้กระทั่งชวนให้ดูด้วยกันเลยจนกลายเป็นกระแสยอดฮิตใครไม่ติดตามต้องตกเทรนด์ นั่นก็เป็นเพราะว่าละครหรือซีรีส์นั้นๆ สามารถทำให้เรามีอารมณ์ร่วมจนอยากแชร์ความรู้สึกของเรากับคนอื่นๆ storytelling ก็เช่นกัน ถ้าเราสามารถเล่าเรื่องใดก็ตามแล้วทำให้คนดูคนฟังเกิดอารมณ์ร่วม รู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง มันก็ง่ายที่เราจะไปนั่งในใจกลุ่มลูกค้าได้ และบางครั้งยังแถมด้วยการแชร์ การไลค์ จนถึงบอกต่อกันปากต่อปากแบบไม่ต้องเสียค่าโฆษณามากมายอีกด้วย
อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ตายตัวแน่นอนที่จะพาธุรกิจเราไปสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่หมุนเร็วไปตามกระแสเทคโนโลยีอย่างทุกวันนี้ ไม่ว่าจะสูตรสำเร็จสูตรไหนถ้าไม่ลงมือทำก็คงไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่าง จงลงมือทำอย่างต่อเนื่องและเพิ่มเติมด้วยการเข้าใจว่าอะไรจะเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก็ย่อมดีกว่าทำไปแบบไม่รู้อะไรเลย
ลองเอาสี่องค์ประกอบด้านบนที่น่าจะช่วยให้คุณได้เห็นว่า อะไรบ้างที่เป็นองค์ประกอบในการสร้าง storytelling ให้ปังบนโลกออนไลน์ ลองปรับใช้ และทบทวนกันอีกสักครั้งว่า จะทำยังไงให้ storytelling เป็นดังเพื่อนที่ช่วยให้ธุรกิจเราไปได้ไกลกว่าที่เคย
บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนสร้างรายได้ออนไลน์ รุ่น 3”
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME