สิ่งสำคัญเรื่องหนึ่งของ SMEs คือ “เงินทุน”……
เหมือนเพลงที่ไม่ว่ารุ่นไหนๆ คงเคยได้ยิน “ทุน…..อย่าคิดว่าไม่สำคัญ”  เอ่อ…เพลงนี้…ไม่ใช่แระ 555+

บางคนเริ่มทำธุรกิจจากเงินทุนตัวเอง ถือว่าโชคดี
คุณมีพฤติกรรมการออมที่ดีมาก่อน ขอกด like รัวๆ ครับ
แต่หากคุณต้องพึ่งพาเงินทุนจากธนาคารนี่สิ เอาไงดี???

ยื่นเอกสารสารพัดที่ธนาคารจะขอ… บางครั้งขอแล้วขออีกก็มี 555+ (รู้นะพยักหน้าเห็นด้วย)
แต่สุดแสนจะเจ็บใจเมื่อโดน “ปฏิเสธสินเชื่อ” นี่ล่ะ… (ไม่ขำ)
แล้วคุณก็จะยิงคำถามแบบรัวๆ “ทำไม เพราะอะไร ต้องทำยังไง บลาๆๆ” จนคุณเบลอ (อันนี้ก็ไม่ขำ)

ลองตั้งสติครับ แล้วมาดูกันว่า เหตุเรื่องใดบ้างที่อาจทำให้แบงก์ “ปฏิเสธสินเชื่อ”
ไม่แน่นะ อ่านบทความนี้จบแล้ว คุณอาจคิดว่า… “เออ…ตรูติดโผทุกเรื่องเลยนี่หว่า” 555+
แซวเล่นนะครับ อย่าโกรธกัน เพราะถ้ารู้เหตุ คุณจะแก้ไขได้ถูกทางครับ

ผมขออธิบายโดยแยกเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนี้ครับ

1. ประวัติส่วนตัว

เป็นเรื่องแรกสุดที่สถาบันการเงินพิจารณา !!!
คุณเป็นใครจากไหน มีประสบการณ์ทำงาน หรือประสบการณ์ธุรกิจที่จะทำ หรือไม่???

ที่ยกตัวอย่างเป็นแค่คำถามน้ำจิ้มนะ ยังไม่ได้ถามเรื่องเนื้อๆ เลย 555+

ขอบอกว่า ธนาคารมีการพิจารณาประวัติทั้งหมดของคุณ ทั้งด้านการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน
ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า “การตรวจสอบและทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า – KYC/CDD”

อธิบายง่ายๆ ไม่ต้องใส่ใจภาษาอังกฤษให้ปวดตับครับ…
หากคุณจีบสาวสักคน พ่อ แม่ ของผู้สาว ต้องรู้และตรวจสอบประวัติคุณก่อน
ถ้ามีตัวตน มีประสบการณ์ทำงานตามหลักเกณฑ์ …. ผ่านครับ !!!
จะกี่ผ่านก็แล้วแต่เถอะ แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็คือไม่ผ่านครับ จบเห่ตั้งแต่เรื่องนี้!!!

2. ธุรกิจที่คุณทำ

“จะค้าขายอะไรดี ???” น่าจะเป็นสิ่งแรกที่คุณคิด (ก่อนคิดเรื่องเงินทุนซะอีก อิอิ)
แต่ธนาคาร คิดมากกว่าที่คุณคิด !!!  บอกได้เลย… เรื่องจริง !!!

อย่าลืมนะครับ … “ธนาคารเป็นที่รวมธุรกิจ ต้องมีข้อมูลและประสบการณ์เรื่องวิเคราะห์ธุรกิจ”
“ไม่ใช่ทุกคนจะกระโดดเข้ามาทำธุรกิจได้….”
แม้คุณจะอธิบายว่า เป็นพนักงานในบริษัทที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกันมาก่อนหน้าหลายปี ก็ตาม …

หันกลับมาดูความจริงครับ แล้วตอบคำถาม ต่อไปนี้ (ตอบได้ให้ อะฮู้ววว 555+)

คุณ…มีประสบการณ์และความรู้ในธุรกิจที่คุณจะทำ มาก น้อย แค่ไหน ???
คุณ…มีใครเป็นลูกค้า ???
คุณ…มีใครเป็นผู้ขายวัตถุดิบให้ ??? (หมายถึง Supplier ของคุณ)
คุณ…มีแผนการตลาดอย่างไร ???

ตอบมาได้ 3 ข้อ มาสะดุดข้อที่ 4 นี่ล่ะ…. ก็อ้ำอึ้งกันไป 555+

ไม่ต้องตกใจครับ คำถามเหล่านี้ แม้แต่ธุรกิจใหญ่ๆ ยังหัวทิ่มหัวตำกันมาแล้ว !!!
ไม่แปลก… ถ้าผู้ประกอบการรายเล็กๆ จะไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้มากนัก
กระซิบให้ครับ “แผนธุรกิจ” ช่วยคุณได้ แต่ผมยังไม่ขอพูดรายละเอียดเรื่องนี้ ในตอนนี้นะครับ

3. ฐานะการเงิน และความสามารถชำระหนี้

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและมีรายละเอียดอยู่มาก ยาวพอๆ กับ 3 ก๊ก !!!
แต่… ขอเว้า เฉพาะประเด็นที่สำคัญนะครับ ….

ฐานะการเงินที่เอ่ยถึงนี้ หมายถึง ฐานะการเงิน ทั้งส่วนตัวของคุณ และ ของกิจการ !!!
อธิบายตามหลักบัญชี คือ …
มีทรัพย์สินเท่าไหร่? หนี้สินเท่าไหร่? เงินลงทุนของคุณเองเท่าไหร่?
แต่ถ้าอธิบายแบบบ้านๆ … คือ

คุณจีบสาว ถึงวันไปขอแต่งงาน พ่อ แม่ ของผู้สาวต้องถามครับ มีทรัพย์สินหรือยัง ฐานะเป็นอย่างไร ???
แต่ พ่อ แม่ บ้านนี้มองไกลอีกหน่อย ถึงจะมีฐานะดี แต่… แต่งงานกันแล้ว ไปรอดไหม ???

อย่าทำหน้า งง ครับ 555+ … ผมจะพูดถึง อีกประเด็นที่ธนาคารให้ความสำคัญมาก

นั่นคือ “ความสามารถชำระหนี้ … ”
แต่บางคนอาจมีคำถามดังๆ “แล้วถ้าฐานะดี ทำไมจะชำระหนี้ไม่ได้ ???”
ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด… ฐานะดี ชำระหนี้ไม่ได้ มีเยอะครับ ฟันธง !!!
มีฐานะดี แต่กิจการย่ำแย่ ขาดทุนตลอด อีกไม่นานก็ “ชำระหนี้ไม่ได้” ครับ …

ความสามารถชำระหนี้ ได้มาจาก ตัวเลขต่างๆ ในธุรกิจของคุณ !!!
กำลังคิดอยู่ใช่ไหม “เออ… ขนาดตรูทำธุรกิจเอง ยังไม่รู้เลย กำไรเท่าไหร่ จ่ายหนี้ได้ไหม” (ไม่ขำ)
แต่ธนาคารรู้ครับ !!! เพราะมีสารพัดเครื่องมือในการคำนวณวิเคราะห์ อยู่ในมือ…

ถ้าคุณไม่รู้ว่าธุรกิจของคุณทำกำไรได้เท่าไหร่? จ่ายหนี้ได้หรือไม่ ลองถามธนาคารดูดิ ตอบได้หมดล่ะ 555+

อีกเรื่องที่อยากบอกครับ …  อย่าคาดหวังจะได้สินเชื่อมาเป็นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ !!!

เพราะ… ธนาคารทุกแห่ง กำหนด “อัตราส่วนเงินลงทุน” ระหว่างธนาคาร และ เจ้าของกิจการ ไว้เสมอ
โดยทั่วไป ประมาณ 50 : 50 (อ่านว่า 50 ต่อ 50) หรือ 60 : 40 เป็นส่วนใหญ่ …
หมายถึง ธนาคารให้สินเชื่อ 50 บาท คุณต้องมีเงินทุนของตัวเอง 50 บาท เช่นกัน
แต่บางครั้งก็ยอมได้บ้าง อาจเป็น 60 : 40 แล้วแต่กรณี นะ ตะเอง…

ทั้งหมดนี้แค่บางส่วนนะครับ ถ้ามีโอกาสเราจะคุยเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง…

4. ประวัติทางการเงิน

จำได้ไหมครับ ผมเคยพูดเรื่องนี้ไว้ในบทความเรื่อง
“3 พฤติกรรมการเงิน !!! ที่ Startup ที่ Startup ต้องวางแผนก่อนเริ่มต้นธุรกิจ
มันสำคัญ และเกี่ยวข้องกันครับ 555+
ก็บอกแล้ว … “การไปธนาคาร ได้มากกว่าที่คุณคิด” (เรื่องนี้จริงจังนะ)

ประวัติทางการเงิน สามารถบอกความเคลื่อนไหวของกระแสเงิน ทั้งของคุณ และของกิจการ

ขายของได้ เงินเข้ากระเป๋าไหน แล้วเอาไปจ่ายอะไรบ้าง ???
บอกแล้วครับ ทำธุรกิจให้เอาเงินฝากบัญชีบ่อยๆ ถ้าไม่ฝากไว้ ใครจะรู้ ???
เก็บเงินสดไว้ ธนาคารรับฟังไม่เต็มหูครับ … เชื่อผมเถอะ !!! (เรื่องจริงนะ)

การเคลื่อนไหวทางการเงินทั้งหมด แสดงด้วยเอกสารที่เรียกว่า “Statement” ครับ
มันสามารถบอกได้ทุกเรื่องธุรกิจของคุณ !!!
คุณจะมีแผนการตลาดดีเลิศแค่ไหน ของจริงหรือไม่ ??? ดูการเคลื่อนไหวก็รู้ 555+
ไหนบอกมีกำไรตลอด แต่ทำไมชำระหนี้ไม่สม่ำเสมอ ??? ดูการเคลื่อนไหวก็รู้ … (เรื่องนี้ไม่ขำแระ)

ที่กล่าวมาทั้งหมด บอกถึงพฤติกรรมการใช้เงินได้ละเอียด ครับ !!!
ถ้าไม่เชื่อ คุณผู้ชาย ลองเอาบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต
ไปรูดจ่ายเที่ยวสถานบันเทิงที่มีอ่างให้ลงอาบน้ำดิ อิอิ …
หากแม่บ้านของคุณได้เห็น Statement แล้ว
นอกจากไม่ฮา อาจมีเจ็บตัวเป็นของแถมได้ครับ 555+

เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว ลองเอาข้อมูลทั้งหมด มากางดูนะครับ
ก็บอกแล้ว … ไม่แน่นะ อาจมีใครติดโผทุกข้อ… ก็ เป็น ได้ … 555+
แต่… ทุกเรื่องมีทางออกเสมอ
ถ้าคุณเปิดใจยอมรับ เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างจริงจัง … 

บทความต่อๆ ไป เราจะมาคุยกันเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ
เพื่อให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกขึ้น …