ผมมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ เถ้าแก่ใหม่ครับ หลังจากที่ผมได้มีโอกาสทดลองนำระบบ Affiliate หรือ “นายหน้าออนไลน์” มาใช้ในเว็บ Taokaemai แห่งนี้ครับ

ผมสามารถทำเงินจากการเป็น “นายหน้าออนไลน์” ของผู้ให้บริการเจ้าหนึ่งได้อย่างไร จะค่อยเล่าให้ฟังนะครับ อาจจะแบ่งเป็น 2-3 บทความนะครับเพื่อจะได้ไม่หนักจนเกินไป

ต้องทำความเข้าใจนิ๊สนะครับว่าโดยปกติรูปแบบของรายได้ Taokaemai.com นั้นได้มาจากการทำ Advertorial และการทำ PR ธุรกิจให้กับองค์กรเช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน และธุรกิจ SME,Startup ,OTOP,ร้านอาหาร และ แฟรนไชส์

ในส่วนของการเป็น “นายหน้าออนไลน์” หรือ ระบบ Affiliate นั้นยังไม่ได้นำมาทำในช่องทางนี้ครับ ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นหากว่านับจากศูนย์ของคงไม่ถูกต้องนักครับ เพราะอย่างน้อยผมก็มีตัวบล็อกนี้อยู่แล้ว

ผมจะเล่าให้ฟังว่าอะไรคือ “Key point” สำคัญที่ทำให้การทดลองทำ Affiliate ของ Taokaemai จึงมียอดรายได้ที่ผมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และที่สำคัญคือ “เพื่อนๆ ก็สามารถทำได้” ครับ

มาลองดูสถิติของการลองทำ Affiliate กันครับ ผมเริ่มนับหนึ่งของวันที่ 8 พ.ค จนถึงสินเดือนคือ 31 พ.ค ยอดรายได้เป็นค่าคอมมิสชั่นกว่า 4 หมื่นบาทดังนี้ครับ

สำหรับยอดรายได้สำหรับมือเก๋า ๆ ในวงการนี้อาจจะถือว่าน้อยนิดครับ แต่สำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ คนที่กำลังมองหารายได้เพิ่มผมว่ารายได้ส่วนนี้มันไปเลวเลยทีเดียวนะครับ สำหรับการที่เราจะยอมเสียเวลาลงทุนเรียนรู้และลงมือทำครับ

รายได้กว่า 5 หมื่นถ้าเทียบกับอัตราเงินเดือนก็เทียบเท่าผู้จัดการหลายๆ บริษัทเลยทีเดียวที่ต้องทำงานกับเกือบ 8-10 ชั่วโมงต่อวันและกว่า 20 วันต่อเดือนนะครับ และกว่าจะได้เลื่อนขั้นเงินเดือนระดับนี้ต้องใช้เวลาไต่ตำแหน่งไม่น่าต่ำกว่า 5 ปีเลยทีเดียว

แต่สำหรับรายได้จาก 3 สัปดาห์ที่ผมลองทำ ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเลยครับ นอกจากการ “โฟกัส”ที่เนื้อหาหรือคอนเทนต์ซึ่งก็ทำเป็นปกติอยู่ตลอดครับ

รายได้นี้ได้มาจากบทความแค่ 2-3 บทความเท่านั้นเองครับ  !!! และมันก็ยังคงทำหน้าที่ของมันไปตลอด อย่างนี้คุ้มค่าที่จะจัดไหมครับ

ถ้าท่านพร้อมเรียนรู้ และลงมือทำแบบที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ โอกาสที่ท่านจะสร้างรายได้หลักหมื่นภายในไม่กี่สัปดาห์ก็สามารถเป็นไปได้ครับ

กุญแจสำคัญในการสร้างรายได้กว่า ครึ่งแสน ในเวลา 3 สัปดาห์

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า “แล้วขายอะไรหรือ” ใจเย็นๆ นะครับ ขายอะไรเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง เพราะที่สำคัญกว่าขายอะไรในตอนนี้คือ “เรามีเครื่องมืออะไรที่จะช่วยขายหรือยัง !!”

เครื่องมือหรือช่องทางในการสร้างรายได้ มีความสำคัญพอ ๆ กับตัวสินค้าหรือบริการที่จะขาย

Jacka Ma เจ้าของ Alibaba ไม่มีสินค้าอะไรของตัวเองนอกจากช่องทางให้คนอื่นมาขายสินค้า

Mark Zuckerberg เจ้าของ Facebook ก็เช่นกันไม่ได้มีสินค้าอะไรขายเลยนอกจากช่องทางให้คนพบปะพูดคุยสร้างปฏิสัมพันธ์

แต่ทั้งสองคนสร้างรายได้มหาศาลเพราะเขามีช่องทาง เขามี Platform ของเขาเองครับ

ใช่แล้วครับกุญแจสำคัญชื่อช่องทางในการที่จะทำ Affiliate อย่างของผมเองก็ใช้ Taokaemai เป็นช่องทางในการเปลี่ยนคนเข้ามาอ่าน เข้ามาศึกษาความรู้ในการทำธุรกิจ เป็นรายได้จากการนำเสนอสินค้าหรือบริการบางอย่างลงไป ในรูปแบบของการ PR หรือ Advertorial

“สร้างลูกค้า ก่อนผลิตสินค้า”

“สร้างช่องทางการตลาด ก่อนทำการตลาด”

นี่คือ Key Point สำหรับการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการตลาดออนไลน์หรือออฟไลน์นะครับ

แล้วไอ้เจ้าช่องทางในการทำการตลาดคืออะไรคำตอบก็คือ “ชุมชนออนไลน์” ที่พูดถึงประเด็นปัญหา ความสนใจ ความต้องการ เรื่องใดเรื่องหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายของเรานั่นหละครับ หลายคนอาจจะรู้จักมันในนามของ “บล็อก”  และคนที่สร้างบล็อก หรือ เขียนบล็อกก็ได้ชื่อว่าเป็น “บล็อกเกอร์” ครับ

งั้นก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีสร้างรายได้จาก Affiliate หรือ นายหน้าออนไลน์ในบทความถัดๆ ไป เรามาทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีการทำ “ช่องทางสร้างรายได้” ด้วยการเป็นเจ้าของ “บล็อก” ของตัวเองกันก่อนดีกว่านะครับ

1.วิธี สร้าง blogger  กำหนดเป้าหมายของ Blog เขียนบล็อกอะไรดี

ก่อนที่เพื่อนๆ จะลงมือเขียนบล็อก อันดับแรกควรกำหนดเป้าหมายของบล็อกก่อนว่า เรามีจุดประสงค์ที่จะต้องการนำเสนออะไรในบล็อกนี้ ถ้าเพื่อนๆไม่กำหนดเป้าหมายก่อน รับรองเขียนเรื่องสากกะเบือยันเรือรบแน่ๆวันไหนคิดอะไรออกก็เขียนเรื่องนั้น รับรองคนที่เข้ามาอ่านงงเป็นไก่ตาแตกแน่

เมื่อวานคุณยังเขียนเรื่อง iphone อยู่เลย พอมาวันนี้ คุณสนใจปลูกดอกดาวเรือง คุณมาเขียนเรื่องการเพาะดอกดาวเรืองขายซะเนี่ย  เฮ้ย!! สรุปไอ้บล็อกนี้มันเขียนเรื่องอะไรกันแน่วะ เมื่อไม่มีความชัดเจนกับคนอ่าน คนอ่านก็จะไม่ขัดเจนกับเราเช่นกัน  คนก็จะไม่ติดตาม

ข้อเสียของการไม่กำหนดเป้าหมายของบล็อก คือ ถ้าถามคนอ่านว่า นึกถึงบล็อกเรา เขาจะนึกถึงเรื่องอะไร ลองคิดดูนะครับ ถ้าเราไม่กำหนดเป้าหมาย แล้วเขียนแบบไม่มีทิศทาง ผู้อ่านจะจดจำบล็อกของเราได้ไหม

เมื่อเห็นความสำคัญของการกำหนดเป้าหมายแล้ว ต่อไปเราก็จะสามารถเขียนบล็อกออกมาได้มีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น

หรือจะลองตั้งคำถามกับตัวเองก่อน โดยอันดับแรกเลย ตอบคำถามเหล่านี้

1 จะเขียนบล็อกไปทำไม

2 คอนเซ็ปต์ของบล็อกคืออะไร

3 บทความที่เขียนลงบล็อก เขียนเพื่ออะไร

เป็นคำถามที่ฟังดูง่าย แต่ตอบยากใช่ไหมครับ ถ้าเพื่อนๆไม่ชัดเจนกับการเขียนบล็อก  เขียนบล็อกขึ้นมาอย่างไร้จุดหมาย  มันก็เหมือนการขับรถไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายปลายทาง  ไม่รู้จะถึงที่หมายเมื่อไหร่ ซึ่งมันก็ทำให้หมดน้ำมัน หรือพลังงานในตัวเรา เขียนแล้วไม่มีคนติดตาม  เขียนแล้วไม่มีคนเข้ามาอ่าน  เปล่าประโยชน์ เหนื่อยฟรี

สำหรับเพื่อนๆ ที่มือใหม่จริง เราจะขอแนะนำกรอบแนวทาง ในการเขียนบล็อก เพื่อให้เอาไปเป็นหลัก ในการพิจารณาในการเขียนบล็อกของเพื่อนๆได้ง่ายขึ้นนะครับ

แนวทางในการเขียนบล็อกในสไตล์ที่คุณต้องการ

1 .เขียนบล็อกเพื่อให้ความรู้

หากเพื่อนๆ มีเรื่องราว ความรู้ เรื่องที่เป็นประโยชน์ที่จะแบ่งปันสู่สังคม เพื่อนๆก็สร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อแบ่งปันความรู้นั้นได้  เช่น บล็อกที่เขียนเกี่ยวสมุนไพร  บล็อกการทำเกษตร  บล็อกให้ความรู้ด้านสุขภาพ  บล็อกการเงิน  บล็อกประกันภัย ฯลฯ

2. เขียนบล็อกเพื่อขายสินค้าผ่านบทความ

หลายๆคน ขายสินค้าโดยการเขียนรีวิวผ่านบล็อก ซึ่งมันสร้างจุดเด่น และจุดแตกต่างในการเปิดร้านขายแบบตรงๆ เพราะมันได้รายละเอียดและรสชาติของการนำเสนอสินค้ามากกว่า หากเพื่อนๆ มีจุดประสงค์ที่จะเปิดบล็อกเพื่อขายสินค้า สิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆต้องเรียนรู้เพิ่มเติมคือ การเขียนรีวิวให้น่าอ่าน น่าสนใจ แล้วเพื่อนๆจะขายสินค้าได้โดยที่ไม่ต้องไปเปิดร้านค้าออนไลน์เลย

3 .เขียนบล็อกเพื่อสร้างรายได้ ผ่าน Affiliate

เพื่อนๆ ต้องทำบล็อกให้น่าสนใจ ให้คนเข้ามาเยี่ยมชมบล็อกให้เยอะๆ อาจจะเชื่อมโยงบล็อก กับ เฟซบุก  กลูเกิ้ลพลัส  ไลน์ เพื่อแชร์ข้อมูลให้กลุ่มเป้าหมายเห็นเยอะที่สุด เมื่อเราแปะลิงค์สินค้าจาก Affiliate ที่เราไปสมัคร คนก็จะเห็นและมีโอกาสซื้อสินค้าผ่านลิงค์ Affiliate ได้มากขึ้นด้วย

4 .เขียนบล็อกเพื่อสร้างรายได้จาก google adsense

ข้อนี้ก็คล้ายกับข้อ 2 คือ ต้องทำ content ให้น่าสนใจ ให้มีประโยชน์ เพื่อให้คนเข้ามาติดตามเยอะๆ ส่งผลถึงรายได้รายจากผู้เยี่ยมชมที่คลิกโฆษณาในบล็อกของเราด้วย

5.เขียนบล็อกเพื่อสร้างแบรนด์ ทำให้คนรู้จัก

ข้อนี้เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ต้องการบ่งบอกความเป็นตัวคุณ ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต มุมมอง ต่างๆ สื่อสารผ่านบทความ เพื่อให้คนรู้จักความเป็นคุณมากขึ้น

จากตัวอย่างแนวคิดข้างต้น เพื่อนสามารถคิดต่อยอดสำหรับการเขียนบล็อกของเพื่อนๆต่อได้เลยนะครับ

ลงมือตั้งหลักปักฐาน จด Domain เช่าพื้นที่โฮสต์ ให้เรียบร้อย

เมื่อเพื่อนๆ เริ่มเขียนบล็อก เริ่มมีบทความลงบล็อกมากขึ้น และเริ่มมีคนเข้ามาติดตามแล้ว เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ดูน่าเชื่อถือ และง่ายต่อการค้นหา  การทำโฆษณาในอนาคต   เพื่อนๆ จำเป็นต้องจดโดเมนเนม และโฮสติ้ง เดี๋ยวจะมาอธิบายแบบง่ายๆ ค่ะว่า มันคืออะไร

Domain คือ อะไร ?

คือชื่อของเว็บไซต์ ชื่อบล็อกของเรา หรือ Url  เช่น https://taokaemai.com/  ซึ่งในตอนแรกเพื่อนๆอาจจะสมัครบล็อกฟรี เพื่อเข้าใช้งาน ซึ่งก็จะมีชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการมาด้วย เช่น www.taokaemai.wordpress.com  ซึ่งดูยาว ไม่สวยงาม ดูไม่น่าเชื่อถือ และยากต่อการจดจำ ฟังชันก์การใช้งานของบล็อกฟรีก็จะมีลูกเล่นไม่มาก การจดโดเมนเนม ก็จะมีผลทำให้เราตกแต่งบล็อกของเราได้สวยงามขึ้น เพราะมีธีมให้เลือกมากขึ้น มีฟังชันก์ต่างๆมากขึ้น และที่สำคัญง่ายต่อการทำ seo ขึ้นด้วย

การจดโฮสติ้ง หรือเช่าพื้นที่

เมื่อเราได้ชื่อบล็อกของเรามาเรียบร้อยแล้ว เราจำเป็นต้องเช่าพื้นที่เพื่อให้การลงบทความ รูปภาพ วิดิโอต่างๆ มีห้องเก็บที่ใหญ่ขึ้น เพราะการเขียนบล็อกเราต้องลง content ต่อเนื่อง ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มขึ้นทุกวัน การใช้บล็อกฟรีก็จะมีข้อจำกัดตรงนี้ เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะจริงจังกับการทำบล็อกนี้ การจดโฮสติงจะมีประโยชน์มากในการใช้งานต่อไป

เป็นการอธิบายง่ายๆ ไม่ใช้ศัพท์เทคนิค เมื่อเพื่อนๆเห็นประโยชน์ของการจดโดเมนแล้ว ก่อนจดอย่าลืมคิดเชื่อเก๋ๆ และมีคำคีย์เวิร์ดในชื่อโดเมนด้วยนะครับ

เขียนบล็อกที่ไหนดี เครื่องมือ เว็บบล็อก

สำหรับเพื่อนๆ ทีเพิ่งเริ่มต้นเขียนบล็อก วันนี้จะมาแนะนำแหล่งใช้งานบล็อกได้ฟรีๆ  ไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

  1. wordpress.com เป็นพื้นที่เขียนบล็อกสำหรับมือใหม่ จำเป็นต้องเรียนรู้การใช้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับยากจนเกินไป ในบล็อกฟรีนี้ได้ตั้งค่าการใช้งานไว้เรียบร้อยแล้วสามารถใช้งานได้ทันที สามารถเลือกธีมและตกแต่งบล็อกได้ เพิ่มรูป เพิ่มวิดิโอได้ ข้อดีอีกอย่างคือการวางระบบ seo ค่อนข้างดี
  2. Blogger.com เป็นพื้นที่บล็อกของ Google ซึ่งแน่นอน บทความที่ลงในบล็อกนี้จะมี SEO ที่ดี ทำลำดับได้ง่ายกว่า ระบบทำงานได้ดี ใช้งานง่าย เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นเขียนบล็อกมือใหม่
  3. Storylog.com เป็นพื้นที่บล็อกที่มีคนใช้งานมากพอสมควร ซึ่งเหล่าคนดังก็มักนิยมใช้บล็อกนี้บอกเล่าเรื่องราวไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ซึ่งรองรับสมาร์ทโฟน ไม่มีลูกเล่นมากเน้นเขียนเรื่องง่ายๆได้เร็วๆ ซึ่งในบล็อกก็จะมี Community ที่ผู้ใช้สามารกด follow และแสดงความคิดเห็นบทความคนอื่นได้
  4. Bloggang.com เป็นพื้นที่บล็อกของ Pantip.com เป็นบล็อกที่ค่อนข้างเป็นสังคมที่มีปฏิสัมพันธ์กัน เนื่องจากนักเขียนแต่ละคนก็จะไปแสดงความคิดเห็นของนักเขียนท่านอื่น ทำให้บรรยากาศดูเหมือนเป็นเพื่อนบ้านกัน นักเขียนมีความใกล้ชิดกัน  เป็นสังคมของ Blogger จริงๆ
  5. Medium.com เป็นพื้นที่บล็อกที่เน้นไปที่ความเร็วและง่าย หลังสมัครเสร็จก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้การใช้งานให้ยุ่งยากเพราะใช้งานง่าย ซึ่งคนที่เป็นผู้ก่อตั้งคือ ผู้สร้าง Twitter นั่นเอง ที่ยังคงคอนเซปต์เร็วและง่าย

เริ่มต้นเขียนบล็อกยังไงดี ให้ได้เงิน

เมื่อเพื่อนเปิดบล็อกเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ การสร้าง content ลงบล็อก เพื่อให้บล็อกเกิดความน่าสนใจ ถึงบล็อกจะสวยงามแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเนื้อหา ก็คงเป็นบล็อกที่ไม่สมบูรณ์

 1.เขียนเรื่องที่ตัวเองถนัด และมีความรู้

เพราะการเขียนบทความในเรื่องที่ตัวเองถนัดจะทำให้เขียนออกมาได้ดี และมีข้อมูลเชิงลึก ที่คนอื่นไม่มี ทำให้เกิดความโดดเด่น เป็นข้อมูลที่ไม่ซ้ำใคร และการเขียนเรื่องที่ตัวเองถนัดจะทำให้สามารถเขียนได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องเหนื่อยในการหาข้อมูลมากจนเกินไป

2.กำหนดความสม่ำเสมอที่จะเขียนบทความลงบล็อก

เพื่อให้บล็อกมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา การเขียนบทความลงบล็อกไม่จำเป็นต้องเขียนทุกวันแต่ขอให้สม่ำเสมอ เช่น เขียนสัปดาห์ละ 1-2 บทความ เดือนละ 8-10 บทความ หรือวันเว้นวัน อันนี้ก็แล้วแต่ แต่ขอให้ทำแบบนั้นต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่างก็เขียน ไม่ว่างก็ไม่เขียน อันนี้ผู้ติดตามอาจหายได้

3.กำหนดเรื่องที่จะเขียนไว้ล่วงหน้า

เมื่อเราวางตางรางไว้แล้วว่าจะเขียนเดือนละกี่บทความ ต่อไปเราก็เตรียมเรื่องที่จะเขียนไว้เลย ว่าเดือนนี้เราจะเขียนเรื่องอะไรบ้าง เตรียมชื่อบทความ เตรียมเนื้อหา เพื่อจะได้มีบทความลงบล็อกอย่างต่อเนื่อง และทันกำหนดเวลา อีกทั้งยังเป็นการกำหนดการนำเสนอตรงตามความต้องการของเราด้วย พอถึงวันก็ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี การวางแผนไว้ล่วงหน้าจะทำให้เราเขียนบทความลงบล็อกได้ง่ายขึ้น

4.เขียนบทความไว้ล่วงหน้า

เช่น สมมุติว่าเรากำหนดจะเขียนบทความลงบล็อกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะถึงกำหนด เราก็ควรเขียนบทความให้เสร็จก่อน เพื่อที่เราจะสามารถตรวจสอบ และได้บทความที่สมบูรณ์ เพราะไม่ต้องเร่งเขียนเมื่อถึงวันที่ต้องลงบทความ

5 หาความรู้ใหม่อยู่เสมอ

เพื่อจะทำให้บทความของเราน่าสนใจ และมีอะไรใหม่ที่เป็นปัจจุบัน ทันเหตุการณ์ ทำให้คนที่ติดตามรู้สึกว่าได้อะไรที่เป็นประโยชน์จากบทความของเราอยู่เสมอ

6 ปรับแต่งบล็อกให้สวยงามขึ้น

เมื่อเริ่มเขียนบทความลงบล็อกอย่างสม่ำเสมอแล้ว เริ่มมีผู้ติดตามแล้ว ต่อไปก็ควรจะปรับแต่งบล็อกให้สวยงาม ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกแต่มันสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่เข้ามาติดตามมากพอสมควรนะครับ

2.บล็อคเกอร์ทำรายได้จากอะไรได้บ้าง

เมื่อเรานำเสนอบทความมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เพื่อนๆ ก็คงอยากจะรู้แล้วว่า รายได้ของ Blogger มาจากไหน แค่เขียนบทความลงบล็อกมันสร้างรายได้ได้จริงเหรอ  เราจะมาบอกความลับของบล็อกกันครับว่า เขามีรายได้มาจากช่องทางไหนบ้าง

  • การติดโฆษณาจากระบบ Google Adsense ยิ่งมีคนเข้ามาในบล็อกเรามากเท่าไหร่ โอกาสที่จะคลิกโฆษณาเหล่านี้ก็มีมากขึ้น นั่นหมายถึงรายได้กันแบบยาวๆกันเลยทีเดียว
  • รับค่าสปอนเซอร์จากให้รีวิวสินค้าหรือบริการลงในบล็อกของเรา
  • รับค่าคอมมิชชันจาก Affiliate เช่น บัตรเครดิต จองโรงแรม ผ่านระบบ Affiliate ที่นำลิงค์มาติดในบล็อกของเรา
  • ได้รับสินค้าฟรีจากแบรนด์เพื่อแลกกับการโปรโมท เช่น โทรศัพท์ ห้องพัก  ตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ
  • สร้างสินค้าขายเองในบล็อก เช่น e-book คอร์สออนไลน์ สิ่งประดิษฐ์ ภาพวาด ฯลฯ
  • เป็นพรีเซ็นเตอร์ในงาน โดยให้ไลฟ์สด โดยรับเป็นค่าตอบแทนรวมค่าแต่งตัวที่ไปร่วมงามด้วย

 

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะได้ก็ต่อเมื่อบล็อกของเรามีชื่อเสียงและมีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริงมันต้องใช้เวลา อย่างเร็วที่สุดก็ 6 เดือนขึ้นไป ถึงจะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม เริ่มมีคนติดตาม มีแฟนคลับประจำ

หากใครที่ต้องการทำเพื่อวัตถุประสงค์หารายได้ก็คงต้องทุ่มเทพอสมควรเลยทีเดียว  ต้องอาศัยความมี “วินัย” ในการสร้างเนื้อหา คอนเทนต์ดี ๆ ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย แน่นอนว่าช่วงแรกคงไม่ได้สร้างรายได้อะไรมากมายนัก แต่หากจริงจังกับช่องทางนี้โอกาสสร้างรายได้หลักหมื่น หลักแสน ต่อเดือนก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมครับ

 

หัวใจของการเขียนบล็อกให้มีคนติดตามคือ การทำ content ให้ดี มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน และนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง

อย่าให้ขาด เพราะตอนนี้มีบล็อกของนักเขียนคนอื่นๆเกิดขึ้นมากมาย หากคุณหายไป ไม่มีเนื้อหาต่อเนื่อง ฐานแฟนอาจจะลดลง ซึ่งก็มีผลต่อกระทบต่อรายได้แน่นอน 

ตาคุณบ้างแล้วหละครับ !!! ที่จะเริ่มสร้างบล็อกเป็นช่องทางสร้างรายได้

เพื่อน ๆ สามารถลงมือทำได้เลยหากพอมีความรู้และทักษะด้านการทำ Blog อยู่บ้าง หรือหากไม่มีก็สามารถเรียนรู้วิธีการเบื้องต้นง่าย ๆ จาก Youtube ก็พอมีครับ

หากเพื่อนท่านไหนต้องการตั้งต้นที่จะจริงจังในการทำรายได้จากสายงานการเป็น บล็อกเกอร์ ผมแนะนำให้ลองลงเรียนคอร์ส Make Website Make Money นะครับ

หลักสูตร Make Web Make Money | สอนสร้างเว็บไซต์ สร้างรายได้ออนไลน์ สอนอะไรบ้าง ?

1.การวางแผนสร้างเว็บไซต์เพื่อทำให้เกิดรายได้

2.การสร้าง Brand เพื่อให้คนรู้จักเว็บไซต์

3.วิธีการทำ SEO ให้สินค้าค้นหาเจออันดับดีๆ บน Google สไตล์  Taokaemai.com

4.วิธีการติดตั้งและตั้งค่า WordPress (จบแล้วมีคลิปให้ดูทบทวน)

*** เรียนจบคุณต้องได้เว็บไซต์เป็นของตัวเอง***

สอนสร้างเว็บไซต์ สร้างรายได้ออนไลน์ เหมาะกับใคร ?

  • เจ้าของสินค้าที่ต้องการทำธุรกิจออนไลน์ มีเว็บไซต์สร้างรายได้เป็นของตัวเอง
  • เจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ยังไม่ได้มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง
  • เจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแต่ยังไม่สามารถสร้างรายได้จากเว็บไซต์
  • บุคคคลทั่วไป ที่ต้องการทำธุรกิจออนไลน์ เริ่มต้นจากเครื่องมือที่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจออนไลน์จริง
  • นักศึกษาที่ต้องการทำธุรกิจออนไลน์ สร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง (แสดงบัตรนักศึกษารับส่วนลดพิเศษ)

วิทยากรสอนสร้างเว็บสร้างรายได้เป็นใคร ?

คุณ เกียรติรัตน์ จินดามณี

ผู้ก่อตั้ง สถาบันพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME

ที่ปรึกษากลยุทธด้าน Branding ,Content Marketing และการตลาดออนไลน์

ที่ปรึกษาด้านธุรกิจแฟรนไชส์

คุณ เอกลักษณ์ ธรรมรัตน์

ผู้เชียวชาญด้านพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress และ Lnwshop

(ทีมงานพัฒนาเว็บไซต์ Taokaemai.com )

ที่ปรึกษาด้านการออกแบบ และพัฒนาเว็บไซต์

คุณ ธีรยุทธ์ พันธ์จูม

ผู้เชียวชาญด้านพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress

(ทีมงานพัฒนาเว็บไซต์ Taokaemai.com )

ที่ปรึกษาด้านการออกแบบ และพัฒนาเว็บไซต์