เถ้าแก่ใหม่ทั้งหลายครับ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะครับว่า การทำบัญชีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการประกอบธุรกิจ เพราะนอกจากทำบัญชีจะใช้เพื่อบริหารการเงิน และวางกลยุทธ์ในธุรกิจของคุณแล้ว คุณยังจำเป็นต้องยื่นบัญชีให้แก่หน่อยงานภาครัฐตรวจสอบกิจการของคุณ รวมไปถึงในบางกรณีที่คุณต้องยื่นกู้เงินกันสถาบันการเงิน คุณก็ต้องใช้บัญชีเพื่อแสดงสถานะทางการเงินในกิจการของคุณให้แหล่งเงินกู้พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของกิจการคุณ

หลายคนเลือกที่จะจ้างมืออาชีพซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกดีครับ แต่อย่างน้อย ๆ คุณก็ควรรู้ที่มาที่ไปของตัวเองต่าง ๆ ในบัญชีของคุณว่ามันหมายถึงอะไร บอกอะไรเราได้บ้าง เพื่อจะข้อมูลไปใช้ได้ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณให้มากที่สุด

ปัจจุบันหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องการผู้ประกอบการ ออกมาสนับสนุนและส่งเสริมให้เจ้าของธุรกิจจัดทำบัญชีเป็นระบบบัญชีชุดเดียว ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ครอบคลุมทุกด้าน หมดสมัยแล้วครับกับการทำบัญชีเพื่อยื่นภาษี ยื่นกู้ และส่วนที่ใช้ในการบริหารธุรกิจแยกกัน เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังทำลายความน่าเชื่อถือในธุรกิจของคุณด้วยนะครับ

ดังนั้นการทำบัญชีชุดเดียวอย่างถูกต้องตามกฎหมายบัญชี จะทำให้ธุรกิจของคุณมีงบการเงินที่น่าเชื่อถือ ยื่นกู้ก็ง่าย ยื่นภาษีได้ถูกต้อง ทำอะไรตรงไปตรงมาสบายใจที่สุดครับ

ทุกวันนี้ธุรกิจ SMEs ต้องทำบัญชีตามมาตรฐาน “มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ : Non – Publicly Accountable Entities หรือ NPAEs ” หรือเรียกว่า มาตรฐานบัญชีชุดเล็ก ซึ่งจัดทำโดยสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนเหมาะกับผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นสรุปมาตรฐานทางบัญชีได้ย่อ ๆ ดังนี้ครับ

 

  1. เมื่อมีกิจกรรมทางธุรกิจเกิดขึ้น ต้องทำการลงบัญชีทันที เพื่อให้รู้ว่าเกิดกิจกรรมแล้ว ได้เงินแล้วหรือยังไม่ได้เงิน จ่ายเงินแล้วหรือยังไม่ได้จ่าย
  2. ลงบัญชีให้ถูกรายการ ได้แก่ รายได้ ค่าใช้จ่าย สินทรัพย์ หรือว่าหนี้สิน เพราะรายการรายได้ ค่าใช้จ่ายจะไปแสดงอยู่ในงบกำไรขาดทุน แต่รายการสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนทุน จะไปแสดงอยู่ในงบแสดงฐานะการเงิน
  3. การบันทึกจำนวนเงิน มักจะบันทึกตามราคาทุนที่จ่ายไปจริงหรือตามมูลค่าที่ขายได้จริง แต่เมื่อมีการปิดบัญชีต้องปรับยอดเงินตามจริง ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีลูกหนี้ที่คาดว่าจะเรียกเก็บเงินไม่ได้ ต้องยกไปใส่ในรายการอื่น เช่น รายการสำรองหนี้สงสัยจะสูญ หรือรายงานสินค้าคงเหลือ เมื่อไหร่เก็บเงินได้ ค่อยยกมาเป็นรายรับของกิจการ
  4. การนำเสนองบการเงิน ต้องทำในรูปแบบมาตรฐาน เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ว่ากิจการของคุณมาฐานะการเงินอย่างไร มีกำไรหรือขาดทุน คุณเองก็สามารถนำงบการเงินของคู่แข่งมาเปรียบเทียบกับกิจการของคุณได้ เพราะงบการเงินจะมีหมายเหตุประกอบเงินการเงินที่เปิดเผยรายละเอียดในแต่ละเรื่อง ยังมีการเปิดเผยรายการที่ได้ได้บันทึกในงบการเงิน แต่เป็นสถานการณ์ที่ต้องเปิดเผยให้ผู้อ่านงบการเงินทราบ เช่น การมีคดีฟ้องร้อง เป็นต้น เพื่อความโปรงใสในการตรวจสอบกิจการ

 

จับหลักสี่ข้อนี้ให้ได้ครับแล้วทำบัญชีตามมาตรฐานรับรองครับว่า คุณจะขจัดปัญหาหลาย ๆ อย่างไปได้ในคราวเดียวกันกับการทำบัญชีที่ถูกต้องโปร่งใส่ อย่างน้อยที่สุดคุณสามารถใช้ขอมูลทางบัญชีบริหารธุรกิจของคุณเองได้อย่างถูกต้อง ใช้ยื่นภาษี หรือยื่นกู้ได้สบาย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาทำใหม่หลายรอบครับ