ธุรกิจในรูปแบบของ B2B มีความแตกต่างจากธุรกิจที่ต้องขายสินค้าให้กับผู้บริโภคทั่วๆ ไปค่อนข้างมาก ความแตกต่างนี้ไม่ว่าจะเป็นด้านของเม็ดเงินในการซื้อสินค้า ปริมาณสินค้าที่มีการสั่งซื้อในแต่ละล็อต ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อรวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนทำการซื้อขายสินค้าในแต่ละครั้งนี่เป็นความแตกต่างของธุรกิจในรูปแบบของ B2B ครับ จริงๆ แล้วทุกเหตุผลของความแตกต่างที่กล่าวมานั้นเพราะในการทำธุรกิจในรูปแบบของ B2B “ความน่าเชื่อถือ” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากคุณทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือในคุณภาพสินค้าได้คุณก็สามารถขายของได้ แต่กระนั้นการสร้างความเชื่อถือกลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายสักเท่าใด หากคุณไม่รู้วิธีการที่จะนำเสนอตัวเองในแบบที่ดูเป็นมืออาชีพและไม่เน้นการขายมากเกินไปการจะสร้างความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์ของคุณก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินฝันของใครหลายๆ คนแม้คุณจะนำการตลาดออนไลน์มาใช้ช่วยเพิ่มยอดขายและความน่าเชื่อถือแต่ถ้าคุณทำคอนเทนต์นำเสนอตัวเองอย่างมืออาชีพไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดครับ ในบทความสี้เรามีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจในรูปแบบ B2B ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อนำเสนอธุรกิจอย่างมืออาชีพถ้าพร้อมแล้วเราไปดูพร้อมๆ กันครับ

ก่อนจะไปทำความเข้าใจวิธีการสร้างคอนเทนต์ คุณต้องเข้าใจถึงระดับความสนใจของลูกค้าเสียก่อน

การทำการตลาดออนไลน์มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษนั่นคือระดับความสนใจของลูกค้าครับ เพราะระดับความสนใจของลูกค้าในแต่ละระดับจะตอบสนองต่อคอนเทนต์ในแต่ละรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ลูกค้าบางกลุ่มเขามาหาสินค้าเพราะต้องการที่จะนำไปแก้ไขปัญหาของเขาจริงๆ ในขณะที่ลูกค้าบางกลุ่มเขายังมองไม่เห็นถึงประโยชน์ที่จะต้องใช้สินค้านั้นๆ ระดับความสนใจของลูกค้าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับซึ่งตอบสนองต่อคอนเทนต์ที่แตกต่างกันดังนี้

5 วิธีการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจ B2B

1. ลูกค้าที่ยังไม่ให้ความสนใจต่อตัวสินค้าของคุณเลย

ลูกค้ากลุ่มนี้คือกลุ่มที่ไม่ว่าคุณจะพูดข้อดีของสินค้าของคุณมากเพียงใดเขาก็ยังไม่ให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อยและที่สำคัญหากคุณไปพยายามยัดเยียดการขายให้แก่พวกเขามากเกินไปกลายเป็นว่าแทนที่คุณจะได้ลูกค้าพวกเขาจะปิดกั้นและปิดใจไปจากคุณอย่างน่าเสียดายคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับลูกค้าในกลุ่มนี้จะต้องเป็นคอนเทนต์ที่สร้างการจดจำหรือทำให้เกิด brand awareness เท่านั้น คอนเทนต์ที่สร้างการจดจำคือคอนเทนต์คุณค่าที่บอกถึงประโยชน์ของสินค้าหรือบอกถึงวิธีการแก้ปัญหาครับ การสร้างคอนเทนต์แบบนี้บ่อยๆ และอัปเดตอยู่เสมอจะสร้างการจดจำที่ดีให้แก่ลูกค้าหน้าใหม่ให้ค่อยๆ เริ่มรู้จักแบรนด์ของคุณ

2. ลูกค้าที่เริ่มจะให้ความสนใจต่อสินค้าของคุณ

ลูกค้ากลุ่มนี้คือลูกค้าที่เริ่มจะให้ความสนใจต่อสินค้าของคุณแล้วแต่ยังสงสัยว่าสินค้าของคุณมีอะไรบ้างและจะไปช่วยเหลือเขาได้อย่างไร คอนเทนต์ที่จะกระตุ้นให้เขารู้สึกดีและรู้สึกว่าสินค้าของคุณมีประโยชน์และสามารถช่วยเขาได้มากขึ้นจะต้องเป็นคอนเทนต์ที่ให้รายละเอียด คำอธิบายตัวสินค้าและข้อมูลสำคัญๆ ของสินค้าครับ การสร้างคอนเทนต์ประเภทนี้ก็เพื่อช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้าของเราสามารถช่วยแก้ปัญหาของเขาได้จริงๆ

3. ลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากเรา

ลูกค้ากลุ่มนี้คือลูกค้าที่พร้อมแล้วที่จะควักเงินออกจากกระเป๋าเพื่อซื้อสินค้าของเราแล้วเหลือแต่เพียงต้องการความมั่นใจอีกเล็กน้อยเท่านั้นคอนเทนต์ที่จะตอบโจทย์นี้ได้คือคอนเทนต์เพิ่มความน่าเชื่อถือจำพวกคอนเทนต์ testimonial หรือคำนิยมและรีวิวจากผู้ใช้งานจริงการสร้างคอนเทนต์ประเภทนี้จะทำให้ลูกค้ามั่นใจและมีความเชื่อถือต่อสินค้าของคุณและจะนำไปสู่การซื้อสินค้าได้ในที่สุด

5 วิธีการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจ B2B

1. คอนเทนต์คุณค่าที่ขยี้ปัญหาและบอกถึงวิธีการแก้ปัญหาให้แก่พวกเขา

คอนเทนต์ประเภทนี้คือคอนเทนต์ที่เหมาะสมในการนำมาทำ content marketing สำหรับธุรกิจ B2B มากที่สุดครับ
เพราะโดยทั่วไปเมื่อลูกค้ามีปัญหาหรือต้องการหาตัวช่วยไปช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของพวกเขาวิธีการหนึ่งที่พวกเขาจะใช้ก็คือการมามองหาวิธีการและหนทางในการแก้ไขปัญหาจากในเว็บไซต์ ดังนั้นหากคุณมีสินค้าที่สามารถแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่มีปัญหาได้จงสร้างคอนเทนต์ที่มีวิธีการในการแก้ไขปัญหาให้แก่พวกเขาโดยอาจเชื่อมโยงไปถึงสินค้าของคุณเพื่อเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาให้แก่พวกเขา หากคุณทำได้คอนเทนต์นี้จะสร้างการจดจำให้แก่พวกเขาในที่สุด

2. คอนเทนต์ที่สามารถดึงคนเข้าเป็นฐานข้อมูลให้แก่คุณเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำคอนเทนต์ปิดการขายต่อๆ ไป

คอนเทนต์ประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เดียวคือเพื่อการสร้างลิสต์ข้อมูลของผู้สนใจและเก็บข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำมาใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยคอนเทนต์ในขั้นต่อๆ ไปครับ โดยคอนเทนต์นี้อาจจะเป็นคอนเทนต์คุณค่าหรือไม่ใช่คอนเทนต์คุณค่าก็ได้ คอนเทนต์ประเภทนี้ก็มีความสำคัญในการสร้างคอนเทนต์ต่อเพื่อสร้างยอดขายหรือการปิดการขายในท้ายที่สุด

3. คอนเทนต์ที่เป็น Case Study เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

คอนเทนต์ประเภทนี้คือคอนเทนต์ที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งสำหรับการสร้างคอนเทนต์เพื่อธุรกิจ B2B เพราะข้อมูลที่อยู่ในคอนเทนต์นี้มักจะเป็นข้อมูลในเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณโดยอาจแสดงออกในรูปของสถิติตัวเลขที่สำคัญบทวิเคราะห์หรือผลที่เกิดขึ้นจากการนำสินค้าของคุณไปใช้ในการแก้ปัญหาของลูกค้าเก่าๆ คอนเทนต์ประเภทนี้มีความสำคัญในแง่ที่ช่วยเพิ่มทั้งความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์เพิ่มความสนใจให้แก่ลูกค้าและยังเพิ่ม brand awareness ได้เช่นกัน

4. คอนเทนต์ SEO เพิ่มการมองเห็นในโลกออนไลน์

จริงๆ แล้วหากคุณต้องการให้คอนเทนต์ที่คุณสร้างถูกพบเห็นได้ง่ายในโลกออนไลน์คุณต้องให้ความสนใจในการสร้างคอนเทนต์ SEO ครับ เพราะคอนเทนต์ประเภทนี้จะเข้าถึงผู้ที่สนใจได้ง่ายจากการถูกพบเห็นได้ง่ายใน search engine หลักการสำคัญของคอนเทนต์ชนิดนี้คือการสร้าง “key word” ที่คุณคิดว่าจะมีผู้ใช้ในการเซิร์ทหาข้อมูลแล้วมากที่สุด
เพื่อให้คุณถูกพบเห็นได้ง่ายแล้วกระจายคีย์เวิร์ดนั้นลงไปในตัวคอนเทนต์ ข้อสำคัญคือคุณต้องกระจายให้เนียนไปกับตัวคอนเทนต์ครับ แล้วคอนเทนต์ที่คุณสร้างจึงจะใช้ประโยชน์จากคีย์เวิร์ดเหล่านั้นได้เต็มที่

5. Testimonial Content ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อในขั้นสุดท้าย

คอนเทนต์อีกประเภทที่น่าสนใจในการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจ B2B ก็คือคอนเทนต์เทสติโมเนียลหรือคำนิยมจากปากของลูกค้าเก่าๆ ที่ใช้สินค้าหรือบริการของคุณแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีเพราะสิ่งที่ออกจากปากของลูกค้าเก่าที่ใช้สินค้าจริงย่อมมีพลังในการสร้างความเชื่อมั่นและโน้มน้าวใจของลูกค้าใหม่เหล่านี้ให้ตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณในที่สุด หากคุณอยากปิดการขายให้ได้อย่าได้ลืมที่จะทำคอนเทนต์ประเภทนี้เอาไว้ด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจในรูปแบบ B2B ที่เราแนะนำครับ เพราะเราเข้าใจว่าการนำเสนอตัวเองอย่างมืออาชีพที่ไม่ดูเป็นการจงใจขายมากเกินไปและยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจของคุณเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำคอนเทนต์เพื่อการทำการตลาดออนไลน์ของธุรกิจ B2B อย่าปล่อยให้โอกาสที่คุณจะทำให้ธุรกิจขยายตัวต้องหลุดลอยไปเพียงเพราะคุณไม่รู้หลักในการทำ เพราะนั่นไม่เพียงแต่จะน่าเสียดาย หากแต่ยังจะทำให้ธุรกิจของคุณมีอันต้องชะงักและเปิดโอกาสให้คู่แข่งของคุณแซงหน้าไปในที่สุด

 

บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัวสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจ B2B