ร้าน Food Truck อาจดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องทำการตลาดออนไลน์ แต่แท้จริงแล้ว การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกกิจการ หากเรายังต้องการรักษากลุ่มลูกค้าดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น และต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้กว้างมากขึ้นไปอีก  

กระแส Food Truck ในบ้านเรากำลังเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมากในขณะนี้  Food Truck ไม่ได้เป็นเพียงร้านขายอาหารบนรถกระบะหรือรถบรรทุกขนาดเล็กธรรมดา ๆ เหมือนในอดีต แต่ Food Truck มีการพัฒนาขึ้นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่สะดุดตา  หรือเมนูอาหารที่หลากหลาย และความสะอาดสะอ้านน่ากิน  แต่อย่างไรก็ตาม ร้าน Food Truck จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องยังคงต้องอาศัยการโปรโมทตามสื่อต่าง ๆ ยิ่งมีคนรู้จักมาก ยิ่งมีลูกค้ามาก เจ้าของร้าน Food Truck จึงไม่ควรมองข้ามการตลาดออนไลน์ ที่จะมีส่วนช่วยทำให้ร้านของท่าน ‘เป็นที่รู้จัก’ และกระตุ้นให้ผู้คนอยากจะเข้ามาลิ้มลองสักครั้ง

1.สร้างแฟนเพจร้าน Food Truck

ควรสร้าง Fan Page สำหรับร้านของเราเพื่อใช้ในการแนะนำรายการอาหารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ ของร้าน และยังสามารถระบุช่องทางติดต่อ  ระบุที่ตั้งของร้าน  Food Truck ที่เราตั้งอยู่ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ให้กับลูกค้า  นอกจากนั้นเราสามารถใช้แฟนเพจในการทำ Facebook Ads เพื่อทำการโฆษณาร้านของเราโดยกำหนดที่เราสามารถ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการโดยวิเคราะห์จากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เช่น เพศ อายุ ถิ่นที่อยู่  สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาในแต่ละครั้ง รวมถึงกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการโฆษณา  ได้อีกด้วย

2.Web แนะนำที่กินที่เที่ยวช่วยได้

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าไม่ว่าใครจะไปที่ไหน จะกินอะไร ก็ต่างหันหน้าเข้าไปพึ่งพา Web พากิน พาเที่ยวก่อนที่จะระบุพิกัดการเดินทาง ช็อป ชิม ชิล กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Wongnai,  Tripadvisor หรือ EDTguide ร้าน Food Truck อย่างเรา ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน เพียงเข้าไปรีวิวแนะนำร้านของเรา ชี้พิกัดว่าอยู่ตรงไหน เปิดกี่โมงจนถึงกี่โมง เมนูขึ้นชื่อของเราคืออะไร และอาจขอให้เพื่อนหรือลูกค้าที่เคยใช้บริการเข้าไปรีวิวร้านของเราเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและการันตีความอร่อยได้เช่นกัน สำหรับร้าน Food Truck ของใครที่มีสไตล์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร สามารถถ่ายรูปเซลฟี่สวย ๆ คู่กับพร็อพเก๋ ๆ ของร้านได้ ก็อย่าลืมโปรโมท Land mark ของร้านด้วยนะ

3.ให้ Google Map ช่วยแนะนำลูกค้า

ร้าน Food Truck สามารถปักหมุดจุดที่เราจอดรถเปิดร้านลงใน Google Map เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการเดินทางมาที่ร้าน นอกจากนี้ Google Map สามารถแนะนำร้านของเราให้กับผู้ที่ใช้งานอยู่ได้เช่นกัน  โดย Google Map จะแสดงผลเมื่อผู้ใช้ต้องการให้ Google Map แนะนำร้านอาหาร ในบริเวณใกล้เคียง ร้านของเราก็จะถูกดึงขึ้นมาแสดงบนหน้าจอมือถือ เป็นการนำเสนอร้านอาหารของเราได้อีกทางเช่นกัน

4.โพส Video ลง You tube

หลายครั้งเราเคยเห็นร้าน Food Truck ในต่างประเทศ แชร์โพสวีดีโอโชว์การทำอาหารแบบสด ๆ ร้อน ๆ ผ่านทาง You Tube แล้วมันก็ช่างดูน่ากินจนแทบอยากจะตามไปลิ้มลองสักครั้ง ลองนำวิธีนี้มาใช้กับร้าน  Food Truck ของคุณดูสิคะ การที่เราโพสวีดีโอการทำอาหารของร้านของเราทำให้สินค้าดูน่าติดตาม น่าอร่อย และราคาไม่แพงแล้วล่ะก็ เหล่านักชิมทั้งหลายคงอยากจะลองมาชิมอาหารที่ร้านเราสักครั้ง โดยวิดีโอที่ใช้ไม่ควรมีความยาวเกิน 3 นาที เพราะผู้ใช้โซเชียลในทุกวันนี้ไม่ชอบดูอะไรที่ต้องใช้เวลานาน  โดยเราสามารถบอกพิกัดที่ตั้งของร้าน  เวลาเปิด-ปิด และช่องทางการติดต่อได้ในระหว่างการถ่ายทำด้วยนะคะ

5.Blogger review

เราสามารถติดต่อไปที่ Blogger สายกิน / เที่ยว ให้ช่วยรีวิวร้านของเราได้เช่นกันค่ะ  เพราะ Blogger เหล่านี้ต่างมีผู้ติดตามที่รักในการกินและการเที่ยวคอยติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น หากเราให้บล็อกเกอร์เหล่านี้ช่วยรีวิวร้าน Food Truck ของเรา ก็จะทำให้ร้านเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น  จากคนที่ไม่รู้ว่าเราขายอะไร อร่อยหรือไม่ ราคาเท่าไหร่ ก็จะรู้ว่า ร้านของเราขายอะไร ราคาเท่าไหร่ เมนูแนะนำคืออะไร รสชาติประมาณไหน มีความเหมาะสมกับราคาหรือไม่  ซึ่งจุดนี้จะทำให้ลูกค้าที่ยังมีความลังเลใจอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

6.สะสมคะแนนและสิทธิพิเศษ

มีระบบสมาชิกสะสมคะแนนเพื่อแลกสิทธิพิเศษ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ และแนะนำบอกต่อ ในปัจจุบันได้มี App สำหรับสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษมากมายหลายค่าย ทั้งแบบใช้งานฟรีและมีค่าใช้จ่าย ให้เลือกใช้มากมาย ระบบสมาชิกสะสมแต้มนี้นอกจากจะสร้างการซื้อซ้ำในกลุ่มลูกค้าแล้ว เรายังสามารถนำข้อมูลสถิติในระบบหลังบ้านมาใช้ในการวางแผนการตลาดลากรจัดโปรโมชั่นต่าง ๆให้กับร้าน Food Truck ของเราได้อีกด้วย

7.ขยายช่องทางการขายผ่าน App Delivery

ร้าน Food Truck ก็สามารถเข้าร่วมเป็นหนึ่งในร้านอาหาร App สั่งอาหาร Delivery ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายสินค้าไปยังลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ร้านของเราได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้บ้านเราก็ได้มี App สั่งอาหารมากมายหลายเจ้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Line Man, Food panda   GrabFood  หรือ honestbee  การเข้าร่วมกับ App Delivery เหล่านี้จะทำให้สินค้าของเราสามารถส่งไปถึงลูกค้าที่อยู่ห่างไปจากที่ตั้งร้านของเราได้ง่ายกว่าให้ลูกค้าตัดสินใจเดินทางมาที่ร้านของเราเอง

8.ใช้ Line@ ช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรม

ชิญชวนให้ลูกค้าของเราเข้าร่วม Line@ กับร้าน Food Truck ของเราเพื่อแจ้งข่าวสารกิจกรรมและโปรโมชั่นต่าง ๆ ของทางร้านเพื่อส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แจก แถม หรือการมอบบัตรสมนาคุณผ่าน Line@ ก็สามารถทำได้  นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ Line@ ในการทำ CRM สะสมคะแนนเพื่อแลกสิทธิพิเศษได้เช่นกัน  เรายังสามารถใช้ข้อมูลสถิติต่าง ๆ ที่ลูกค้ามีต่อร้านค้าจากระบบหลังบ้านของ Line@  เพื่อนำมาวิเคราะห์และนำไปสู่การกำหนดกิจกรรมส่งเสริมการขายในอนาคตได้อีกด้วย

ร้าน Food Truck อาจดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องทำการตลาดออนไลน์ แต่แท้จริงแล้ว การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกกิจการ หากเรายังต้องการรักษากลุ่มลูกค้าดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น และต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้กว้างมากขึ้นไปอีก  จริงอยู่ว่าการแนะนำแบบปากต่อปากนั้นจะช่วยการันตีคุณภาพและความอร่อยของร้านเราได้เช่นกัน แต่มันก็อาจใช้เวลานานเกินไป และจะดีกว่าไหมหากเราสามารถประชาสัมพันธ์ร้านของเราออกไปได้เร็วกว่า และกว้างกว่าการแนะนำกันปากต่อปากแบบเดิม ๆ

ยิ่งเราเริ่มเร็ว เราก็จะประสบความสำเร็จเร็ว มากขึ้นเท่านั้น  เจ้าของร้าน Food Truck ควรเริ่มวางแนวทางการทำการตลาดออนไลน์กันตั้งแต่วันนี้เถอะค่ะ