อากาศร้อน ๆ แบบนี้การได้ดื่มชาเย็น ชาเขียวนมสด สักแก้ว ย่อมนำความชื่นใจดับกระหายมาสู่ผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติและความหอมละมุนของชาไม่น้อย สำหรับคนที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์ชาแล้ว ย่อมทราบดีว่าตลาดชายังไปได้แบบไม่มีจุดจบเลยทีเดียว จะเห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ชาที่มีการขยายสาขาอย่างมากมาย

 

สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจแฟรนไชส์ชานั้น อาจมีความหวั่น ๆ อยู่ลึก ๆ ว่าธุรกิจของตนจะเติบโตตามที่คิดหวังไว้หรือไม่ ยอดขายจะโตเป็นร้อย ๆ แก้วต่อวันหรือไม่ หรือสามารถขยายสาขาออกไปได้หรือเปล่า ซึ่งคุณควรสลัดความคิดแห่งความสงสัยออกไปก่อน แล้วลองหันมามองความจริง กับ 3 สิ่งที่ควรทำในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตที่คุณตา T-Za ชาปากยูน เจ้าของแฟรนไชส์กว่า 265 สาขา มียอดขายกว่า 300 ล้านบาท นำมาแบ่งปันในวันนี้ ผมแนะนำให้คุณลองนำไปทำตามนี้แล้ว คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของคุณ มาดูกันว่าควรทำอย่างไร

 

  1. เคล็ดลับการบริหารวัตถุดิบและต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

 

วัตถุดิบและต้นทุนของธุรกิจชาจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้คุณมีกำไรเพิ่มขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลง แต่ไม่ลดคุณภาพของสูตรของชา เจ้าของธุรกิจชารายใดที่ให้ความสำคัญในการบริหารวัตถุดิบและต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ พวกเขาจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างหายห่วงโดยมีเคล็ดลับในการบริหารวัตถุดิบและต้นทุนของชาดังนี้

 

1.รู้ก่อนว่าวัตถุดิบของชามีอะไรบ้าง

 

การจะบริหารอะไรก็ตามก็ต้องรู้ก่อนว่าขอบเขตของการบริหารมีอะไรบ้าง ถ้าคุณจะบริหารวัตถุดิบของชาก็ต้องรู้ก่อนว่าชามีวัตถุดิบอะไรบ้าง อาทิ ตัวของชาเองไม่ว่าจะเป็นชาผง หรือใบชาก็ตาม น้ำตาล นมหวาน นมจืด ไข่มุก ครีมเทียม เป็นต้นเมื่อรู้ถึงวัตถุดิบทุกตัวของธุรกิจแล้วการบริหารวัตถุดิบก็สามารถทำได้ง่ายนิดเดียว

 

2.การเช็ควัตถุดิบอยู่เสมอ

 

คุณควรจัดวางวัตถุดิบต่าง ๆ ในการชงชา ให้เป็นสัดส่วนที่ชัดเจนและเป็นระเบียบ เพื่อง่ายต่อการตรวจเช็คว่ามีของอะไรขาดหรือมีของอะไรที่มีมากเกินไปจะได้บริหารวัตถุดิบให้เหมาะกับอายุของวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น ตัวของชาถ้าไว้นานเกินอาจมีปัญหาด้านกลิ่นและรสชาติ ของสดใหม่ย่อมดีกว่าเสมอ หรือจะเป็นอายุของนมจืดที่หากตุนไว้นานเกินแล้วใช้หมดก็เสี่ยงกับการหมดอายุได้ การเช็ควัตถุดิบอยู่เสมอจะทำให้คุณไม่สั่งซื้อแบบเดาสุ่มและได้ของใหม่มาบริการลูกค้าเสมอ

 

3.มีสูตรที่ได้มาตรฐาน

 

คุณควรชั่งตวงวัดสูตรชาของคุณเสมอ เพื่อจะได้รสชาติที่กลมกล่อมไม่ผิดเพี้ยน อีกทั้งเป็นการบริหารวัตถุดิบอย่างลงตัว ไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไป คุณสามารถประมาณการวัตถุดิบที่จะใช้ในแต่ละวันได้อย่างแม่นยำ และไม่เกิดสิ่งที่เรียกว่าของค้างนั่นเอง

 

4.ทำบัญชีรายได้ค่าใช้จ่าย

การทำบัญชีรายได้ค่าใช้จ่ายเป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยให้คุณบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี เพราะต้นทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ชานั้นมีหลายองค์ประกอบอาทิ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน ค่าจัดซื้อวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และอื่น ๆ การทำบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายในทุกตัวเลขที่รับเข้ามาและจ่ายออกไป จะทำให้คุณเห็นความจริงและสามารถบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพได้

 

5.ลดต้นทุนแต่ไม่ลดคุณภาพสินค้า

 

ชา 1 แก้ว ถือเป็นสินค้าในธุรกิจคุณ ที่ต้องให้บริการหรือส่งมอบอย่างมีคุณภาพทั้งเรื่องรสชาติและราคาที่ลูกค้าไม่รู้สึกว่าดื่มเสร็จแล้วเสียดายและไม่อยากมากินอีก คุณจะไม่ลดคุณภาพของสินค้าแต่สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ เช่น ในการซื้อวัตถุดิบอื่นใดที่ต้องใช้ หากซื้อปลีกอาจจะแพงกว่าสู้ซื้อจากร้านขายส่งจะดีกว่า หรือการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปขายในที่ไกล ๆ โดยหาทำเลใกล้ ๆ แถวบ้านจะดีกว่าไหม โดยเลือกทำเลที่ยังไม่มีใครทำธุรกิจแฟรนไชส์ชา คุณเป็นเจ้าแรก แล้วมาพัฒนาการให้บริการทำยังไงให้ลูกค้าติดใจ เป็นต้น

 

ธุรกิจแฟรนไชส์ชาจะเติบโตได้ ต้องใส่ใจในการบริหารวัตถุดิบและต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ตามวิธีขั้นต้นจะช่วยให้คุณขายได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลังกับเรื่องวัตถุดิบและต้นทุนเพราะคุณมีระบบในการบริหารและทำทุกวันจนเข้าที่นั่นเอง ต่อไปเรามาดูในเรื่องของทำเลกันต่อเลยครับ

 

 

  1. เคล็ดลับในการเลือกทำเลและเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์

 

การเลือกทำเลดีย่อมช่วยให้ธุรกิจแฟรนไชส์ชาเติบโตได้อย่างไม่ต้องสงสัย และหากคุณต้องการขยายสาขาการเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่ดีที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้เช่นกัน มาดู 5 เคล็ดลับในการเลือกทำเลและเลือกผู้ซื้อ แฟรนไชส์กันครับ

 

1.เลือกทำเลที่มีคนเยอะ ๆ

 

ตรงไหนมีคนตรงนั้นก็เพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น การเลือกทำเลที่มีคนเยอะ ๆ ย่อมดีกว่าขายอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน

คุณควรสำรวจทำเลที่คุณหมายตาก่อนว่าตรงนั้นใกล้กับอะไรบ้าง เช่น ใกล้ออฟฟิศ ใกล้โรงเรียน ใกล้สถานที่ราชการ ใกล้แหล่งชุมชน ใกล้ตลาด ใกล้ที่พักอาศัย เป็นต้น ทำเลแบบนี้จะทำให้ลูกค้ามองเห็นร้านของคุณและโอกาสขายชาได้หลายแก้วต่อวันก็เพิ่มมากขึ้นด้วย

 

2.มีที่จอดรถสะดวกสบาย

 

หากทำเลของคุณใกล้แหล่งผู้คนก็จริง แต่ลูกค้าไม่สามารถจอดรถได้ ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะขับผ่านเลยไปหรือถ้าต้องไปจอดรถไกล ๆ คงไม่ดีแน่ คุณควรเลือกทำเลที่ลูกค้าสามารถจอดรถและลงมาซื้อได้เลย จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า การค้าการขายความพอใจของลูกค้าต้องมาก่อนจริงไหมครับ

 

3.หาทำเลที่มีกลุ่มเป้าหมาย

คุณต้องรู้ลูกค้าเป้าหมายของคุณก่อนว่ากลุ่มไหนกันนะที่จะกินชาของฉัน ใช่กลุ่มวัยรุ่นหรือเปล่า หรือเป็นกลุ่มวัยทำงาน หรือเป็นเด็ก หรือเป็นคนมีฐานะ หรือเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เมื่อคุณรู้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้วคุณก็ทำการสำรวจว่าลูกค้าของคุณในบริเวณนั้นกลุ่มใดเยอะมาก กลุ่มใดน้อย ควรตัดสินใจขายในทำเลนั้นหรือเปล่า การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายก่อนจะช่วยให้คุณคัดกรองและเลือกทำเลที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ

 

4.เลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่มีไฟ

 

การให้คำแนะนำอะไรสักอย่างกับคนที่ไม่มีไฟ อาจทำให้คุณเหนื่อยเปล่าได้ คุณควรเลือกผู้ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ชากับคุณจากการดูไฟในตัวของเขา ดูประกายตา ดูความฝันความมุ่งมั่นของเขา ดูความสนใจใคร่รู้การซักถามของพวกเขา เพราะคนเหล่านี้เขาจะจริงจังและเอาจริงและทำให้ถึงที่สุดที่จะให้กิจการของตนเติบโต การมีคนแบบนี้อยู่ในสาขาของคุณมาก ๆ ย่อมส่งผลทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

 

5.เลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่กล้าตัดสินใจ

 

คุณเคยเห็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจไหมจะทำอะไรก็ขอคิดดูก่อนขอปรึกษากับคนใกล้ตัวก่อน สุดท้ายก็หายต๋อมไปเลยกับการไม่กล้าตัดสินใจ ตรงกันข้ามคุณเคยเห็นคนที่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองไหม พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจแบบไม่มีหลักการ พวกเขาพิจารณาไตร่ตรองแล้วว่าดีมีโอกาสเป็นไปได้สมควรคว้าโอกาสนี้ไว้ ถ้าคุณเจอคนแบบนี้หลาย ๆ คน การขยายสาขาธุรกิจชาก็เป็นไปด้วยความแข็งแกร่งเพราะมีคนกล้าจริงทำจริงอยู่ในสาขาของคุณ

 

การเลือกทำเลและการเลือกซื้อแฟรนไชส์ หารคุณมีการคัดสรรมาเป็นอย่างดีตามคุณสมบัติที่ต้องการแล้ว การเติบโตในธุรกิจแฟรนไชส์ชาจะไม่หนีคุณไปไหนอย่างแน่นอน

 

  1. เคล็ดลับการทำการตลาดออนไลน์และออฟไลน์

 

ปัจจุบันการทำการตลาดมี 2 ประเภท คือการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ชาให้เติบโตนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญในการทำการตลาดโดยมี 5 เคล็ดลับดังนี้

 

1.ทำการโปรโมทในโลกออนไลน์

 

ในปัจจุบันเกือบจะแทบธุรกิจที่หันมาทำการตลาดในโลกออนไลน์กันมากขึ้น เพราะมีข้อดีคือมีการแพร่กระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าเป้าหมายเข้าถึงข้อมูลและเกิดการตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว ในธุรกิจแฟรนไชส์ชานั้น คุณสามารถนำมาทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย โดยทำการโปรโมทในช่องทางของคุณ เช่น Facebook แฟนเพจ หรือในเว็บไซต์ หรืออินสตาแกรม และอื่น ๆ บ่อย ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเห็นธุรกิจของคุณโอกาสที่จะเติบโตและขยายสาขาก็มีมาก

 

2.สร้าง Content ที่ดีมีคุณภาพ

 

การตลาดออนไลน์จะไปได้ไกลหรือไม่ขึ้นอยู่กับ Content ที่คุณใส่เข้าไปในช่องทางของคุณ ซึ่ง Content หรือเนื้อหานี้ก็มีเทคนิคในการทำ โดยสามารถทำได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วีดิโอ บทความ การ live สด ล้วนเป็นลูกเล่นที่คุณสามารถนำมาใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ได้ คุณควรนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับธุรกิจของคุณและนำเสนอบ่อยครั้งในแต่ละวัน เพื่อเพิ่มการเข้าชมและโอกาสในการเจรจาธุรกิจ

 

3.การซื้อโฆษณา

 

ถ้าคุณทำแฟนเพจ คุณอาจจะเห็นว่ามีบริการโฆษณาเพจของคุณ โดยมีอัตราค่าโฆษณาหลายระดับ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ถ้าคุณเห็นว่ามีคนเข้าชมเพจของคุณน้อยเหลือเกิน คุณอาจจะตัดสินใจซื้อโฆษณาก็ได้ วิธีนี้นักการตลาดก็นิยมใช้กัน แต่ก็ต้องมีหลักในการใช้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน เมื่อคุณซื้อโฆษณาแล้วลองเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าว่าคุณได้ลูกค้าจากการโฆษณาเพิ่มขึ้นนี้หรือไม่ คุ้มค่าหรือเปล่า ถ้าไม่คุ้มก็สามารถยกเลิกได้ ถ้าดีเกินคาดก็เป็นไปตามที่ใจคุณหวังที่อยากเห็นธุรกิจแฟรนไชส์ชาของคุณเติบโตนั่นเอง

 

4.ทำโปรโมชั่นในการทำตลาดออฟไลน์

 

ธุรกิจแฟรนไชส์ชาสามารถทำการตลาดแบบออฟไลน์ได้ง่ายด้วยเช่นกัน คุณอาจทำโปรโมชั่นโดนใจลูกค้า ซื้อครบ 10 แก้ว แถม 1 แก้ว หรือจะทำโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็นับเป็นการกระตุ้นยอดขายที่ดี แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพต้องมาเป็นอันดับแรก รสชาติต้องได้ใจยังไงลูกค้าก็ไม่ไปไหนอย่างแน่นอน

 

5.บริการส่งถึงบ้านฟรี

 

อีกหนึ่งการทำตลาดที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยการนำเสิร์ฟถึงบ้านฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คุณควรกำหนดอาณาเขตของการจัดส่งในลักษณะที่คุณก็โอเคด้วย ถ้าไกลมากไปก็ส่งฟรีไม่ไหวเหมือนกัน ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับความดี

 

ไม่มีธุรกิจใดในโลกนี้ที่อยู่เฉย ๆ แล้วจะเติบโตได้เอง แต่จะต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างอันเกิดจากการลงมือลงแรงลงความคิดทำ และทำอย่างต่อเนื่อง อดทนไม่ย่อท้อ พัฒนาปรับปรุงกลยุทธ์ตลอดเวลา เพื่อให้ธุรกิจมีความนำสมัยไม่ตกเทรนด์ไปอย่างรวดเร็ว ที่ใดไม่มีการพัฒนาที่นั่นก็เสื่อมโทรมจริงไหมครับ

 

ธุรกิจแฟรนไชส์ชาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอนาคตไกล หากคุณตั้งใจจริงและมีหลักการรอบด้านไม่ว่าจะเป็นการบริหารวัตถุดิบและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการเลือกทำเลหรือเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงการทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ล้วนส่งเสริมให้ธุรกิจแฟรนไชส์ชามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนครับ

ต้องบอกว่า 3 แนวทางในการทำธุรกิจของคุณตา T-Za ชาปากยูน เป็นประโยชน์มาก ๆ กับคนที่กำลังเริ่มต้น หรือ กำลังขยายธุรกิจทำธูรกิจแฟรนไชส์ชากันอย่างจริงจังครับ

นอกจากวันนี้คุณตาจะมีแนวทางการทำธุรกิจแฟรนไชส์ดี ๆ มาให้พวกเราได้เรียนรู้กันแล้ว คุณตายังมีหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับคนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจแฟรนไชส์ชาอีกด้วยครับ เป็นหลักสูตรที่ทางคุณตาพัฒนาร่วมกับทีมงานเถ้าแก่ใหม่เพื่อที่จะปูพื้นฐานทางความคิด วิธีการในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยื่นครับ

ท่านที่สนใจธุรกิจแนวนี้สามารถดูรายละเอียดได้จากลิ้งหรือรูปด้านล่างนี้ได้เลยครับ คลิ๊ก