ใคร ๆ ก็อยากออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวกันว่าไหม?
ที่พบเห็นอยู่เป็นประจำก็อาชีพค้าขาย มองไปมุมไหนก็เจอแต่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก ร้านกาแฟ ร้านขนมเค้ก ร้านขนมปัง แม้แต่ร้านปิ้งย่างก็มีให้เราได้พบเจอกันแทบจะทุกมุมตึก เพราะใคร ๆต่างก็คิดว่า ทำง่าย ลงทุนไม่มาก ไม่ต้องมีความรู้อะไร น้อยคนที่จะทำร้านอาหารขนาดเล็กให้ประสบความสำเร็จ
จะเปิดร้านทั้งที มีอะไรที่เป็นหัวใจหลักๆ มาดูกัน
1.Food ขายอะไร?
สิ่งแรกเลยต้องเลือกก่อนว่า คุณถนัดอาหารแบบไหน จะขายอาหารอะไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร อย่าเลือกทำอาหารที่คุณชอบเพราะสิ่งที่คุณชอบอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าชอบ ควรดูความต้องการของกลุ่มลูกค้า ณ.แหล่งชุมชนนั้น ๆ ไม่ต้องไปปรึกษาใครว่าควรเปิดขายอะไรดี เพราะคุณคือเจ้าของร้าน คุณต้องรู้ใจตัวเองมากกว่าคนอื่น
หรือจะเลือกซื้อแฟรนไชส์เพื่อประกันความเสี่ยงให้น้อยลง ก็ต้องบอกว่าการซื้อแฟรนช์ไชส์ก็ใช่ว่าทุก ๆ แฟรนไชส์จะประสบความสำเร็จ การที่ธุรกิจของคุณจะไปได้ถึงฝั่งฝัน มันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า จะสามารถบริหารร้านได้เหมือนต้นฉบับหรือไม่ ถ้าทุนน้อยหรือไม่อยากซื้อแฟรนไชส์ ก็ต้องขยันทำการบ้าน ศึกษาข้อมูล เตรียมความพร้อมให้มากเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้
2.Location ขายที่ไหน?
สิ่งนี้สำคัญมาก ผู้ประกอบการควรมองหาทำเลวางธุรกิจ แม้คุณจะมั่นใจว่าฝีมือการทำอาหารของร้านคุณอร่อยไม่แพ้ร้านอื่น ต้องมองถึงความเป็นจริงในการเปิดธุรกิจครั้งแรก มองหาทำเลที่สะดุดตา ติดถนน มีที่จอดรถ การจราจรสะดวก จะให้ดีสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น คุณอย่าหลงเข้าข้างตัวคุณเอง และอย่าเชื่อคำพูดของคนอื่นที่มาแนะนำสถานที่ให้กับคุณ คุณต้องใช้เวลาสักระยะอาจจะเป็น 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนก็ว่ากันไป ที่คุณต้องนั่งสำรวจ ณ.จุดที่คุณจะทำมาหากิน ว่าทำเลแถวนั้นเป็นไง ลูกค้าเยอะจริงไหม คนแถวนั้นนิยมชมชอบอะไร สิ่งที่คุณกำลังจะขายคนแถวนั้นกระแสตอบรับเป็นไง
ร้านมีจุดเด่นอะไรที่จะเรียกลูกค้า เพราะลูกค้าไม่รู้หรอกว่าร้านคุณอาหารอร่อยหรือไม่ พวกเขาจะมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอกก่อน อารมณ์ประมาณว่า เหมือนคุณกำลังมองดูผู้หญิงสวยๆเดินผ่านมายังไงยังงั้น ส่วนอย่างอื่นเอาไว้ ทีหลัง
ควรจัดร้านให้สะอาด บรรยากาศน่านั่ง บางครั้งทำเลดีติดถนนก็ใช่ว่าจะเรียกลูกค้าได้ ถ้าคุณตกแต่งร้านไม่พอที่จะดึงดูด
คงได้ยินประโยคที่พูดว่า
“ร้านจะอยู่ในตรอก ซอก ซอย ขอให้อาหารอร่อย ยังไงๆ คนก็ไปกินกัน”
มันก็จริงนะ อย่างไรก็ตามยังมีตัวแปรปลีกย่อยอีกเยอะ ถึงอาหารจะอร่อยจริง แต่ถ้าเปิดกิจการครั้งแรก ไปเปิดในมุมอับที่คนไม่รู้จัก ยังไงๆ คนก็ไม่รู้จักร้านหรอก มันก็ต้องอาศัยเวลาให้คนเดินเข้าไปกิน เข้าไปหา แล้วต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่กว่าร้านของคุณจะมีคนเดินเข้ามา ฉะนั้นประโยคที่กล่าวมามันใช้ไม่ได้กับร้านที่เปิดใหม่
จะลงทุนทั้งทีเสียเวลาสักนิดในการนั่งดูกลุ่มลูกค้า ดีกว่าเปิดร้านแล้วมานั่งเช็คทีหลัง พลาดมาจะแก้ไขก็คงจะหมดเงินไปมากโขทีเดียวเชียวหล่ะ
3.Cost ต้นทุน
ต้นทุนในการเปิดร้านอาหารขนาดเล็กต้องคำนวณต้นทุนอะไรบ้าง?
ยกตัวอย่าง เปิดร้านขายอาหารอีสาน มีพนักงาน4คน
ค่าเช่าที่ (กรณีต้องเช่า ยกตัวอย่าง เดือนละ 10,000 บาท)(ไม่รวมมัดจำ)
ค่าน้ำ ค่าไฟ ( 5,000 บาท/เดือน )
วัตถุดิบต่างๆ (2,000 บาท/วัน)(2,000X30=60,000+)
ค่าจ้างพนักงาน(คนละ15,000 =60,000 )
ค่าฉุกเฉินต่างๆ ที่ไม่ได้กำหนดในตาราง (ประมาณ 30,000 บาท/เดือน)
สรุป คชจ.ประจำเดือน 10,000+5,000+60,000+60,000+30,000 =165,000 บาท/เดือน
คร่าวๆ อย่างต่ำคุณต้องมีเงินทุนสำรองในแต่ละเดือน 165,000 บาท และสำรองในอนาคตอีก 12-24 เดือน
4.Money Supplied แหล่งทุน
ร้านอาหารขนาดเล็กมีต้นทุนที่แตกต่างกันตามชนิดของแต่ละธุรกิจ ควรเตรียมเงินสำรองไว้ 1-2 ปี เพราะการเปิดร้านอาหารของคุณไม่ได้การันตีรายรับในช่วงต้นว่าจะมีลูกค้ามากน้อย เผื่อค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และควรหาแหล่งเงินทุนสำรองเอาไว้ อาทิ ธนาคารสีม่วงที่เปิดสินเชื่อให้กับร้านอาหารที่จดทะเบียนถูกต้อง อย่างน้อย 1ปี มีการจ่ายภาษีตามที่กฎหมายกำหนด มีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกในทุก ๆ เดือน อย่างต่ำเดือนละหกหลัก ขึ้นอยู่กับร้านอาหารของคุณว่า จำหน่ายอาหารประเภทไหน และต้องมีเงินค้างบัญชีในแต่ละเดือนๆละ 5 หลัก อย่างน้อยควรมีการเดินบัญชี 1 ปี ยิ่งในปัจจุบัน มี บยส.ค้ำประกันเงินกู้ให้ เพียงแค่ร้านคุณเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กล่าวมา เท่านี้ธนาคารก็อนุมัติเงินทุนหมุนเวียนให้กับคุณ
อ้อ!!!สำคัญเลยคุณต้องไม่ติดแบล็คลิสกับธนาคารอื่นๆด้วยน๊า สำหรับร้านอาหารขนาดเล็กที่ไม่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนมาก สามารถยื่นเอกสารได้ที่ธนาคารของรัฐจะอนุมัติช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับว่าเอกสารที่คุณเตรียมไปยื่นนะ ครบถ้วนหรือไม่
5.Teams การคัดเลือกพนักงาน
ไม่จำเป็นต้องเลือกคนเก่ง ในเมื่อคุณเองที่เป็นเจ้าของร้านสามารถทำได้ทุกอย่าง คุณก็ไม่ต้องกลัวอะไรใช่ไหม คุณควรเลือกพนักงานที่มีความขยัน ซื่อสัตย์ พร้อมที่จะเรียนรู้งานจากคุณ ขอแค่คนที่มีพื้นฐานและใจรักงานบริการ เพราะพวกเขาเหล่านี้จะช่วยพายเรือของคุณไปให้ถึงฝั่ง แม้จะมีคุณเป็นหางเสือที่แข็งแรง แต่ในบางครั้งถ้าน้ำมันเครื่องหมดคุณก็ต้องพึ่งใบพายช่วยพายเรือคุณเข้าฝั่ง อาจจะช้าแต่ก็ยังดีที่มีคนช่วยผ่อนแรงของคุณ ถ้าอยากให้พวกเขาอยู่กับคุณไปนาน ๆ คุณควรให้เกียรติทีมงานของคุณประหนึ่ง เหมือนคนในครอบครัวของคุณเอง
6.Standard มาตรฐาน
น้อยนักที่คุณจะเจอพนักงานที่ทุ่มเทให้ร้านเท่ากับที่คุณทำ และใช่ว่าพนักงานคนนั้นๆจะอยู่กับคุณไปตลอด คุณต้องมีมาตรฐานรสชาติอาหาร เผื่อพนักงานคนนั้น ๆลาออกกะทันหัน คุณจะได้เทรนงานให้คนใหม่ รวมทั้งการบริการต้องเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยความเป็นกันเองกับลูกค้า ลูกค้ามาทานเมื่อไหร่ก็ยังประทับใจอยู่เสมอ
7.Menu การออกแบบเมนู
ควรหาเอกลักษณ์ที่เป็นของร้านคุณเอง และให้ตรงกับสไตล์อาหารที่ร้านคุณขาย จะให้ดีมีเมนูแนะนำสำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวหรือแบบมาเป็นกลุ่มเพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น ลงทุนทำเล่มเมนูสวยๆเพราะนั่นก็เป็นสิ่งเล้าใจให้ลูกค้าอยากจะลองชิมอาหารของคุณ พร้อมทั้งภาพประกอบอาหารที่เป็นรูปของอาหารร้านคุณเอง ไม่ควรไปCopy รูปของร้านอื่นมา ไม่เช่นนั้นถ้าลูกค้ามาเห็นว่านั่นไม่ใช่รูปของร้านคุณ ร้านคุณจะเสียเครดิตทันทีและจะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค คุณอย่าลืมว่าเพียงคำพูดของลูกค้าแค่คนเดียวสามารถส่งผลทั้งลบและบวกให้กับร้านคุณได้
8.Price การกำหนดราคาอาหาร
ให้ดูราคาคู่แข่งและเอามาเปรียบเทียบว่าต้นทุนของคุณ มันใกล้เคียงกันรึเปล่า คุณสามารถกำหนดราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งของคุณได้หรือไม่ ไม่ควรกำหนดราคาแพง แต่ก็อย่าขายถูกจนตัดราคาคู่แข่งมากจนเกินไป เพราะลูกค้าจะคิดว่าคุณเอาวัตถุดิบไม่ดีมาทำขาย
9.Smile Services การบริการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ
กลับมาใช้บริการร้านคุณอีก ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก เพียงแค่คุณพร้อมทีมงานของคุณปฏิบัติกับลูกค้าทุก ๆ คนให้เหมือนเป็นคนหนึ่งในครอบครัวคุณ เพื่อนสนิท มิตรสหาย ไปลา มาไหว้ ทักทายด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส
ให้ความเป็นกันเองกับลูกค้า แต่ก็ใช่ว่าการให้ความเป็นกันเองจะใช้ได้กับลูกค้าทุกคนไปซะหมด คุณเองก็ต้องดูอารมณ์ของลูกค้าคุณด้วยว่าเขามาในอารมณ์ไหน ใส่ใจรายละเอียดของลูกค้าแต่ละคน ชอบหรือไม่ชอบอะไร ทานอาหารรสชาติไหน ถ้าคุณจดจำรสชาติลูกค้าของคุณแต่ละคนได้ คุณจะได้ใจพวกเขาไปเต็มๆ และลูกค้าคุณจะรู้สึกดีทุก ๆ ครั้งที่มาร้านคุณ
10.Promote การประชาสัมพันธ์
และสิ่งสุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้คือการโปรโมทร้านของคุณให้โลกได้ รู้จัก คุณต้องยอมจ่ายเงินเพื่อส่วนนี้แต่รับรองว่าผลกลับมาที่คุณจะได้มันมากกว่าที่คุณจ่ายไปแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปจ่ายแพงๆให้บริษัทโน่นนี่นั่นมาโปรโมท เพียงคุณจ้างฟรีแลนด์
เขียนโพสต์ร้านของคุณไปแปะตามเวปไซต์ต่างๆ ลงโซเชียล เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม หรือสั่งทำใบปลิวให้พนักงานของคุณไปแจกตามบ้าน ตามออฟฟิต แต่สิ่งที่จะเร็วยิ่งกว่าการแจกใบปลิวคือลมปากของลูกค้าที่เคยมาทานร้านคุณและเห็นว่าร้านคุณดีจริงก็จะพูดต่อๆกันไป คุณก็จะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยคุณไม่ต้องไปวิ่งหาเอง หรือคุณจะจัดโปรโมชั่นช่วงเปิดร้านใหม่ อาทิ มา3จ่าย2 หรือ สั่งอาหารครบเท่านั้นกี่บาทลดค่าอาหารกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป ลดแลกแจกแถมเลยในช่วงเดือนแรก
เพียงคุณทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ให้บริการด้วยความจริงใจ
ใจเขาใจเราอยากได้แบบไหนก็ทำแบบนั้น อาหารสะอาด สถานที่สะอาด รสชาติอร่อย ราคาอาหารที่ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้
ทุก ๆ อย่างอาศัยเวลาในการสร้างฐานลูกค้า คุณเสมอต้นเสมอปลาย ลูกค้าไม่ได้มาทานร้านคุณเพราะอาหารอร่อยเลิศเลอกว่าร้านอื่นแต่พวกเขามาเพราะ รู้สึกดีต่อคุณกับทีมงานและบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไม่นานร้านคุณก็จะเป็นหนึ่งในดวงใจของลูกค้าที่จะคิดถึงและแวะเวียนมาอุดหนุนอยู่ไม่ขาดสาย
บทความโดย
ผู้ผ่านรับการฝึกอบรม “ใช้เวลาว่างเขียนบทความสร้างรายได้”
คุณ โนรี โคตรทุม เจ้าของร้าน แพรวพราว ไก่ย่างเขาสวนกวาง |
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME