เถ้าแก่ใหม่ : เล่าประวัติตัวเองให้ฟังหน่อยชื่อ การศึกษา พื้นเพ ลักษณะนิสัย ความล้มเหลว ความสำเร็จ

**คุณเต๋อ: ชื่อ: ทัศนัย บำนาญนพวงศ์ ชื่อเล่นโดยกำเนิด: กวาง แต่พื่อนๆ เรียกกันว่าเต๋อ ปัจจุบันอายุ 32ปี
จบการศึกษาปริญญาโท MBA และ ปริญญาตรีด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมและความปลอดภัย จากมหาวิทยาลัยบูรพา

เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์โดยกำเนิด พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ จึงได้อาศัยอยู่กับคุณย่ามาตั้งแต่เด็ก โดยชีวิตในวัยเด็กนั้น เป็นคนชอบประดิษฐ์ของเล่นขึ้นมาเอง (จริงๆ แล้วไม่มีเงินซื้อ 555) และสนใจเรื่องเทคโนโลยีเป็นพิเศษ ตอนอายุประมาณ 10 ขวบ เคยพยายามสร้างหุ่นยนต์ให้เดินได้เอง แต่ไม่สำเร็จ

โตมาก็เริ่มทำงานและเรียนไปด้วยตั้งแต่ ม.4 ตอนนั้นผมรับจ๊อบทำงานทุกอย่าง สอนพิเศษลูกคนรวย ล้างจาน เด็กเสิร์ฟ ร้องเพลงตามงานวัด ผมพร้อมที่จะเรียนรู้และทำงานทุกอย่าง เป้าหมายผมในตอนนั้นคือต้องส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญา และผมต้องขอขอบคุณ กยศ. ที่ทำให้ผมไม่ต้องเหนื่อยจนเกินไป พออยู่ปี 4 ผมเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับความยากจน เพราะมันอยู่กับผมมานานแสนนาน ผมจึงเริ่มวางแผนชีวิตในการหลุดพ้นจากความยากจน

ในตอนนั้นผมทราบมาว่าการจะได้เงินเดือนหลักแสนก็รวยแล้ว ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือการทำธุรกิจกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนยามแก่ ทันทีที่ผมจบ ป.ตรี ผมอยากรวยทันที สิ่งแรกที่ผมกระโดดเข้าทำเลย คือการทำธุรกิจขายประกัน ผมทุ่มเทเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดเดินขายประกันแทบทุกร้านและทุกคนที่ผมรู้จัก ผมเชื่ออย่างยิ่งในสถิติ คุย 10 ขายได้ 2 จะด้วยความสงสารหรืออะไรก็ตามแต่ ในเดือนที่สองของการขายประกัน ผมได้รับค่าคอมมิสชั่นแสนกว่าบาท ผมรู้สึกเหมือนราวกับว่าได้ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมแล้ว

>>> นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้จับเงินแสนในชีวิต <<<

หลังจากนั้นไม่ถึง 3 วันผมป่วยหนักเป็นไข้หวัดใหญ่ เพราะเนื่องมาจากที่ผมออกเดินขายประกันทั้งวันทั้งคืน ผมใช้เวลารักษาตัวนานนับสัปดาห์ ซึ่งเป็นการป่วยหนักที่สุดตั้งแต่ผมเกิดมาเลยก็ว่าได้ ต่อมาไม่ถึง 2 เดือนผมก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องธุรกิจเครื่อข่ายของผม ช่วงฮันนีมูนของผมจบลงแล้ว คนที่ผมรู้จักผมได้ขายประกันไปให้เค้าหมดแล้ว ผมจึงหยุดธุรกิจเครือข่ายของผมเพียงแค่นั้น

ผมเหลือเงินอยู่พอสมควร ตอนนั้นชาไข่มุกดังมาก ผมเริ่มใช้หลักการ ททท=ทำทันที ผมเปิดร้านชาไข่มุกและร้านนมข้างรั้วมหาวิทยาลัย มันดีมากเลยในตอนแรกๆ และหลังจากนั้นไม่นานคนเลิกกินชาไข่มุก ร้านชาไข่มุกเริ่มทยอยปิดตัวลงอย่างไม่น่าเชื่อ ผมดิ้นอีกครั้งด้วยการเปลี่ยนจากร้านชาไข่มุกเป็นร้านเหล้าในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายก็เจ๊งไม่เป็นท่า และนั่นก็ทำให้ผมได้เรียนรู้กับความล้มเหลวด้วยตนเองเป็นครั้งแรกในการทำธุรกิจ และมันทำให้ผมเริ่มโหยหาการเป็นมนุษย์เงินเดือน

ผมวางแผนการเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างรอบคอบ ผมศึกษาชีวิตของคนที่มีเงินเดือนหลักแสนอย่างจริงจัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือระดับผู้จัดการอาวุโส ในสายงานการไฟฟ้า น้ำมัน รถยนต์

ในที่สุดผมก็สร้าง Mega Project ของชีวิตผมเองขึ้นมา ผมตั้งเป้าเป็นผู้จัดการภายใน 5 ปีและภายใน 10 ปีต้องมีเงินเดือนหลักแสน ผมเชื่อและศรัทธาในเป้าหมายของผมเป็นอย่างมาก ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ ผมสามารถเป็นผู้จัดการได้ภายใน 5ปี และหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้รับเงินเดือนหลักแสน

เหตุการณ์นี้ทำให้ผมพบว่าคนเราหากจะทำสิ่งใดก็ตามให้สำเร็จมันต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองและต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจน
ผมจึงเริ่มต้นศึกษาการทำธุรกิจอย่างจริงจังอีกครั้ง

**เถ้าแก่ใหม่ : เริ่มทำธุรกิจได้อย่างไรทำไมถึงเลือกธุรกิจนี้

**คุณเต๋อ : ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องได้ทำในสิ่งที่ตัวเองหลงใหล สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือฟุตบอล ผมจึงมีความคิดว่าหากผมได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับฟุตบอล ผมจะต้องมีความสุขมากแน่นอน ผมจึงทำการหาข้อมูลการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับฟุตบอล และพบว่ามันเป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย และด้วยความที่ผมสนใจเรื่องเทคโนโลยีมาตั้งแต่วัยเด็ก ผมจึงตัดสินใจศึกษาธุรกิจเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอล ในที่สุดผมเกิดแรงบันดาลใจอย่างมหาศาลในการเปลี่ยนตัวเองจากผู้บริโภคเป็นผู้ประกอบการ ผมจึงทำการศึกษาการติดตั้งจานดาวเทียมอย่างจริงจัง

**เถ้าแก่ใหม่ : ปัญหามีอะไรบ้าง ผ่านมาได้อย่างไร
**คุณเต๋อ: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือคน ทั้งช่างและลูกค้า
จำนวนลูกค้ามีมากเกินกว่าที่ช่างของเราจะบริการได้ทันตามความต้องการของลูกค้า

ผมผ่านมาได้ด้วยการใช้หลักการบริหารงานแบบ FIFO คือ First in First Out ใครมาก่อนได้ก่อน เรียงลำดับตามคิว

**เถ้าแก่ใหม่ : ปัจจัยสู่ความสำเร็จคืออะไร
**คุณเต๋อ : ประกอบไปด้วยหลัก 3 ประการ ผมเรียกว่า วงแหวนแห่งความสำเร็จ
1. Vision หรือวิสัยทัศน์
2. How หรือทำอย่างไรที่จะทำให้วิสัยทัศน์สำเร็จผล
3. Decision พลังของการตัดสินใจ

จะเห็นว่าทั้งสามประเด็นนี้ เกิดจากการเลียงลำดับจากภายในออกสู่ภายนอก
คือ อันดับหนึ่ง Vision เราต้องชัดเจนในเรื่องของวิสัยทัศน์ในสิ่งที่เราจะทำก่อน

หลังจากนั้นเข้าสู่กระบวนการค้นหา คือ How to เราจะต้องมีวิธีการทำอย่างไรบ้างเพื่อทำให้สิ่งที่เรามองหรือวิสัยทัศน์ของเราบรรลุเป้าหมาย
และ3 คือ ตัดสินใจเลือกวิธีการที่ดีที่สุดในข้อ 2 เพื่อลงมือทำ
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ เริ่มที่ข้อ 3 คือการมองหาอะไรทำบางอย่างให้ร่ำรวยแล้วตัดสินใจลงมือท

ตามมาด้วยข้อ 2 คือทำอย่างไรให้สิ่งที่เค้าตัดสินใจทำแล้วให้สำเร็จทำอย่างไรให้รวยเหมือนคนอื่นเค้า โดยมาไม่ถึงข้อที่ 1 คือวิสัยทัศน์
ซึ่งงานหรือผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ขาดวิสัยทัศน์ก็เหมือนขาดมนสเน่ห์ ไม่มีอะไรน่าค้นหา สุดท้ายก็เหมือนผลิตภัณฑ์อื่นๆ บนท้องตลาดขาดความน่าสนใจ

**เถ้าแก่ใหม่ : ช่องทางการตลาด แผนการตลาดอนาคต เป็นอย่างไร
** คุณเต๋อ :ผมคาดว่าตลาดจานดาวเทียมในเมืองไทยตอนนี้ค่อนข้างที่จะโตมาใกล้ถึงจุดที่สูงสุดแล้ว และด้วยปัจจัยทีวีดิจิตอลกำลังเข้ามาด้วย ซึ่งผมมองว่าตลาดจานดาวเทียมน่าจะยังดีอยู่อีกเพียงประมาณ 2-3 ปี หลังจากนั้นผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปใช้ระบบสายเคเบิ้ลที่ให้ความคมชัดระดับ HD แทน ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีการพัฒนาในเมืองใหญ่ๆ ไปบ้างแล้ว
ผมจึงมองว่าจะเข้าไปร่วมทำตลาดในการวางโครงข่ายสายเคเบิ้ลที่มีความคมชัดสูงในต่างจังหวัด โดยตอนนี้ได้เริ่มพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ที่ต่างประเทศบ้างแล้ว คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างจริงจังประมาณปลายปี 2558

**เถ้าแก่ใหม่ : อยากฝากอะไรกับคนที่เริ่มทำธุรกิจเป็นเถ้าแก่ใหม่
** คุณเต๋อ : ผมอยากให้เถ้าแก่ใหม่ทุกคน ลงมือศึกษาธุรกิจที่ตัวเองจะทำอย่างจริงจัง ที่สำคัญต้องเป็นธุรกิจที่ตัวเองมีความสนใจอย่างจริงจังจากปัจจัยภายใน (เหมือนวงแหวนแห่งความสำเร็จ) เพราะมันจะทำให้เกิด Passion อย่างมหาศาลในการทำธุรกิจ
เพราะถ้าคุณมี Passion ในเรื่องใดๆ ก็ตามแต่ อุปสรรคไม่ว่าจะใหญ่หลวงเพียงใด คุณก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้โดยง่าย

เรือเล็กควรออกจากฝั่ง

Never be poor again!
ไม่จนอีกเลยตลอดชีวิต
https://www.facebook.com/btassanai
https://www.facebook.com/tassanaivision

เต๋อ ทัศนัย

ขอบคุณเถ้าแก่ใหม่ ในงานประจำ คุณ เต๋อ ทัศนัย ที่อนุญาติให้นำเรื่องราว
ประสบการณ์ชีวิตมาบอกเล่าแบ่งปันให้พวกเราได้เห็นเป็นแนวทาง และกำลังใจ

ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะมากหรือน้อย จะงานประจำหรือไม่ประจำ ของเพียงเรา
“ตั้งใจ” และ มี “แรงปรารถนา” ที่จะสำเร็จ ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจครับว่า
เรา “สำเร็จ” ในสิ่งที่หวังได้ทุกคน จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง