คุณ นิศาชล หอมเพ็ชร (คุณอ้อน)

“การศึกษาที่ดีจะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โลกใบนี้ทั้งใบคือโรงเรียนขนาดใหญ่ มีวิชาให้ลงทะเบียนเรียนมากมาย มีเกมส์ให้เล่นเยอะแยะเราเป็นผู้เลือกและออกแบบหลักสูตรหรือเกมส์ของชีวิตด้วยตัวเราเอง”

เถ้าแก่สาว จากปริญญาตรี ทางด้านคณิตศาสตร์ประยุทธ์ จำเป็นต้องมาช่วยงานครอบครัวจึงต้องเพิ่ม ดีกรีปริญาโท ออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ อีก 1ใบ มาดูเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจที่คุณอ้อนได้เล่าให้เราฟังกันครับ
อ้อนเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในธุกิจของที่บ้านตั้งแต่อายุ 10 ขวบ

ตอนเริ่มต้นจำได้ว่าเด็กมากๆ ยังไม่ประสีประสาอะไรเลย

ตอนนั้นคุณพ่อและคุณแม่รับราชการ อ้อนกับพี่ชายเริ่มโตแล้ว คุณแม่เองอยากจะทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ ประกอบกับใกล้ๆที่ทำงานคุณแม่มีร้านสหกรณ์พัฒนา ซึ่งขึ้นกับหน่วยงานราชการ มีพื้นที่ว่าง ค่าเช่าไม่ได้แพงมากนัก คุณแม่จึงตัดสินใจลองทำดูเล่นๆ คุณพ่อไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

อ้อนจะไปเดินดูของกับคุณแม่ว่าจะเอาอะไรมาขายดี เราไปกันหลายที่ค่ะ ทั้งสำเพ็ง พาหุรัด สะพานเหล็ก จตุจักร สนามหลวง เรียกได้ว่าที่ไหนมีของอะไรพอจะเอามาขายได้ไปเดินดูกันทุกที่ เรามาสรุปกันที่เครื่องประดับ พื้นที่เช่าเป็นที่ขนาดเล็กมาก วางตู้โชว์ได้แค่ตู้เดียว

เมื่อขายมาได้สักพัก ทางเจ้าของพื้นที่มาเสนอพื้นที่ขนาดกว้างกว่าเดิม น่าจะประมาณ 4×3 ตารางเมตรได้ นอกจากวางตู้โชว์ได้เรายังมีพื้นที่เหลือที่จะวางสินค้าอื่นได้อีก

จากจุดนี้คุณแม่เริ่มเอาผ้าไหมไทยมาวางขาย เพราะคุณแม่มักจะตัดเย็บชุดจากผ้าไหมไทยใส่ไปทำงานอยู่เสมอ จึงพอจะรู้จักคนขายที่สามารถขายในราคาส่งให้เราได้ อีกทั้งคุณแม่เป็นคนอีสาน(อุบลราชธานี) ผ้าทอที่นำมาส่วนมากก็มาจากแถบนั้น เวลาซื้อขายคุณแม่จะพูดภาษาอีสานกับแม่ค้าอย่างสนุกสนาน บางทีก็ไปช่วยเขาขายด้วย ทำให้เกิดความสนิทสนมไว้เนื้อเชื่อใจ ได้เครดิตในการนำสินค้ามาขาย 15 วันบ้าง 30 วันบ้างตามแต่จะตกลงกัน

อ้อนเริ่มต้นงานจากการเป็นพนักงานขายให้กับคุณแม่ตั้งแต่ 10 ขวบ ทุกๆปิดเทอมอ้อนจะออกมาขายของ มีคุณน้า(เป็นเหมือนพี่เลี้ยง)คอยมาเป็นเพื่อน จนการขายของเหมือนเป็นงานอดิเรกยามปิดเทอมตั้งแต่เด็กๆจนเรียนจบปริญญาตรี

เมื่อเรียนจบจึงเริ่มธุรกิจส่วนตัวของตัวเองด้วยการเปิดร้านผ้าไหมแต่ขยายสาขาจากที่บ้าน ในเวลา 3 ปี ขยายร้านของตัวเองจาก 1 ร้านเป็น 2 ร้าน เป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ดีๆดันทะลึ่งไปสมัครเป็นแอร์โฮสเตสแล้วเกิดผ่านการคัดเลือก จึงย้ายไปอยู่ต่างประเทศเสียหลายปี มีวันลากลับบ้านประมาณปีละ 2 ครั้ง เลยตัดสินใจขายกิจการทั้ง 2 แห่งที่บุกเบิกมา เพราะถ้าให้บริหารงานจากต่างประเทศนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

อาชีพแอร์โฮสเตสทำให้ เราได้เรียนรู้มาตรฐานการทำงานในระดับสากล ไม่กลัวคน สามารถพูดคุยได้กับทุคนในโลกใบนี้ ถ้าจะให้สาธยายจนหมด คิดว่าคงต้องเขียนหนังสืออีกเล่มนึงค่ะ…55

บินอยู่หลายปีค่ะจนกระทั่งคุณพ่อโทรศัพท์มาตามกลับบ้าน เพราะงานที่บ้านไม่มีคนทำต่อและถ้าอยู่นานกว่านี้ท่านคงกลัวว่าลูกสาวจะอยู่ยาว จึงตัดสินใจลาออกจากงานแอร์โฮสเตส แล้วมาศึกษาต่อด้านออกแบบเสื้อผ้าอย่างจริงจังและเข้ามารับช่วงธุรกิจต่อจากที่บ้านเต็มตัว

ปัจจุบันเข้ามาทำงานที่ร้านได้ 3 ปีแล้ว ร้านผ้าไหมของเราเปลี่ยนสถานที่และขยับขยายจากเดิมได้พอสมควร โดยคุณพ่อและคุณแม่ยังคงคอยให้คำปรึกษาและชี้แนะอยู่ใกล้ๆ

คุณๆทั้งหลายทั้งเถ้าแก่หน้าใหม่ หรือคนที่อยากจะเริ่มธุรกิจส่วนตัวแต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไรอ้อนมีสูตรไม่ลับมาบอกทุกๆคนค่ะ จะเรียกสูตรนี้ว่าเป็นภูมิปัญญาของครอบครัวที่ค้นคว้าทดลองกันเองมากว่า 20 ปีก็ได้ คุณๆทั้งหลายอาจจะใช้แค่ส่วนหนึ่ง ใช้ทั้งหมด หรือไม่ได้นำไปใช้เลยก็ตามแต่จะเห็นสมควรค่ะ

อ้อนเรียกสูตรนี้ว่า สูตรไม่ลับค้นหาพันธกิจแห่งชีวิต
สูตรนี้มีตัวแปร 3 ตัวคือ ความฝัน,ความชำนาญเฉพาะทาง,ความอึดถึก
แต่ละตัวแปรมีนิยามดังนี้ค่

ความฝัน => ไม่ใช่ฝันแบบลมๆแล้งๆ เพ้อเจ้อไปวันๆนะคะ แต่เป็นฝันที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณนึกถึงมัน คุณจะบอกกับตัวเองว่า แม้จะต้องบุกป่าฝ่าดง ลุยน้ำข้ามทะเล ต้องอดหลับอดนอน อดข้าวอดน้ำ คุณจะไม่หวาดหวั่น คุณจะไม่ท้อถอย จะเพียรพยายามในทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่รู้เหน็ดไม่รู้เหนื่อย เพียรพยายามในทุกขณะจิต ไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือนักขัตฤกษ์ มันต้องเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่พอที่คุณจะยอมแลกด้วยชีวิตที่เหลือทั้งหมดที่มี

ความชำนาญเฉพาะทาง => เกิดจากอะไรบางอย่างในตัวคุณ ที่คุณได้ฝึกฝนจนเชียวชาญและชำนาญ มีการทดลองจนกระทั่งค้นพบเทคนิคเฉพาะตัวที่มันจะไม่เหมือนใครและไม่มีใครจะมาเหมือนคุณได้ ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก จนเรามองไม่เห็น เช่น การทำกับข้าว การแต่งหน้า การเย็บปักถักร้อย การท่องเที่ยว มันเป็นไปได้หลายอย่างมากค่ะ ลองสังเกตุตัวเองดูว่ากิจกรรมที่เราชอบทำเป็นพิเศษมันได้สร้างทักษะบางอย่างที่ทำให้เราโดดเด่นจากคนอื่นอย่างไร ถ้าหาเจอช่วยให้คุณไม่ต้องแข่งกับใคร แค่แข่งกับตัวเองว่าต้องพัฒนาทักษะในเรื่องนี้ให้โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ

ความอึดถึก => คุณต้องมีความอึดถึกพอที่จะทำงานและแก้ปัญหาในระยะยาว
เพราะอย่างที่บอก ความต่อเนื่องในช่วงเวลายาวนานเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำธุรกิจประสบความสำเร็จ สำหรับอ้อนมาตรฐานระยะเวลาในการวัดผลว่าธุรกิจเราสอบผ่านหรือไม่คือ 10 ปีขึ้นไป ที่ต้องเป็น 10 ปี เพราะว่า จากข้อมูลที่อ้อนค้นคว้าพบว่า คนทำธุรกิจส่วนตัวส่วนใหญ่จะเจ๊งภายใน 5 ปีแรก และเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี จะมีเหลือทำธุรกิจส่วนตัวที่ยืนอยู่ได้เพียง 10 %
ลองนำไปประยุกต์กันดูค่ะ เผื่อว่าสูตรไม่ลับค้นหาพันธกิจแห่งชีวิตของอ้อนจะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้บ้างค่ะ

Clip พันธกิจชีวิต คุณอ้อน > http://www.youtube.com/watch?v=QAY8gDRDnfY
แฟนเพจ > https://www.facebook.com/pages/SME-DIARY/419675931413549?fref=ts
เป็นเพื่อนกับคุณอ้อน > https://www.facebook.com/OnOnOnH
email : [email protected]

ขอบคุณคุณอ้อนสำหรับเรื่องราวเถ้าแก่สาวสวย ที่นำมาแบ่งปันให้พวกเราได้ฟังครับ