ในปี 2021 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของคริปโตเคอเรนซี นอกจากที่จะมีมูลค่าการซื้อขายที่มากขึ้น รวมถึงมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาสู่แวดวงนี้กันมากขึ้น หลาย ๆ ธุรกิจต่างขานรับและนำคริปโตเคอเรนซีไปใช้เป็น Utility token กันมากขึ้น ขณะที่ในต่างประเทศเองประเทศเอลซัลวาดอร์ให้การยอมรับการนำคริปโตไปใช้งานด้วย ในขณะที่เมืองไทยเองนั้น ก.ล.ต.ก็ยอมรับและให้การรับรองสกุลเงินคริปโตถึง 7 สกุลเพื่อนำไปซื้อขายและแลกเปลี่ยนกัน รวมไปถึงกระแสของ NFT และ Metaverse ก็กำลังมามีบทบาทสำคัญในอนาคตจนแม้กระทั่ง Facebook เองก็เตรียมพร้อมและปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงนี้ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้กำลังจะนำโลกเข้าสู่ยุคของ web 3.0 ที่มีความเกี่ยวพันกับบล็อกเชนมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้คริปโตเคอเรนซีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในปี 2022 บทความนี้เราจะมาฟังความคิดเห็นจากคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง Bitkub ที่จะมาให้ความเห็นกันในเรื่องนี้
ขอบคุณข้อมูลจากช่อง Beartai
อนาคตคริปโต เทรนด์ในปี 2022 จะเป็นอย่างไรในมุมมองของคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
ปี 2021 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปีทองที่แท้จริงสำหรับวงการคริปโตเคอเรนซีก็ว่าได้ ซึ่งทั้งมูลค่าของเหรียญคริปโตในหลายสกุลเองรวมถึงจำนวนของผู้ใช้งานที่เข้ามาสู่แวดวงของคริปโตเคอเรนซีมีจำนวนมากขึ้นจนเรียกได้ว่าก้าวกระโดดขึ้นมาจากในปี 2020 หลายเท่าตัว โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้วงการคริปโตเคอเรนซีเติบโตได้มากขนาดนี้อาจจะเป็นเหตุผลเนื่องมาจากการที่คนทั่วโลกตื่นตัวกับคำว่า Digital asset หรือสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้น โดยแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้กำลังจะกลายเป็น all asset ที่เราสามารถอัปโหลดสินทรัพย์ต่าง ๆ เข้าไปสู่โลกออนไลน์ซึ่งทำให้โลกของเรากำลังจะก้าวไปสู่ digital economy ที่เราไม่จำเป็นต้องจับต้องสินทรัพย์เหล่านั้นก็ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะเข้ามาปฏิวัติโลกนั่นเอง
คุณท็อปยังให้แนวคิดถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามาปฏิวัติเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างน่าสนใจว่าในทุก ๆ 10 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะมีผลต่อโลกของธุรกิจโดยเรากำลังจะผ่านยุคของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนไปแล้วและนับแต่ปี 2020-2030 คือยุคที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “เว็บ 3.0” พร้อมกับการมาถึงของเทคโนโลยีบล็อกเชน, internet of thing, internet of sky, เทคโนโลยี AI, เทคโนโลยี VR รวมถึงเทคโนโลยี Metaverse เป็นต้น
อะไรคือเว็บ 3.0 เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาปฏิวัติโลก
เว็บ 3.0 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เป็นความก้าวหน้าของระบบอินเทอร์เน็ตที่ในอนาคตจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่จะมีบทบาทเป็นผู้กำหนดควบคุมระบบต่าง ๆ เพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไป แต่การควบคุม กำหนดระบบการทำงานต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยอาจกล่าวได้ว่าทุกคนเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงนี้นั่นเอง ซึ่งเว็บ 3.0 นี้เราสามารถแบ่งเลเยอร์การทำงานได้เป็น 4 เลเยอร์ดังต่อไปนี้
- เทคโนโลยีบล็อกเชนที่เป็นแหล่งสำคัญเพื่อใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ
- เทคโนโลยี Protocol token หรือ native asset หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของคริปโตเคอเรนซีต่าง ๆ ที่บล็อกเชนเป็นผู้สร้างขึ้น โดยที่ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของและร่วมกันจัดการเว็บ 3.0 และไม่จำเป็นต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ organization system อีกต่อไป
- application token หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานผ่านระบบบล็อกเชนต่าง ๆ โดยคนทั่วโลกสามารถคิดและสร้างแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยมีการนำเทคโนโลยี smart contract มาใช้ในการทำงานของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
- application layer คือขั้นสุดของเว็บ 3.0 ที่ทุกอย่างจะทำผ่านอินเทอร์เน็ต มีการใช้ IOT AR VR มาใช้งานมากขึ้น
จุดสำคัญก็คือเทคโนโลยี cloud จะไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะแต่จะเป็นคนทั่วไปที่ช่วย validate ระบบซึ่งผลที่ตามมาคือจะเกิดธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมามากมายในรูปแบบของ play to earn, learn to earn เป็นต้น
ภาพรวมของตลาดคริปโตในอนาคตปี 2022 จะเป็นอย่างไร
กดปุ่มด้านล่างเพื่อสมัคร
ภาพรวมของตลาดคริปโตในปี 2021 มีการเติบโตขึ้นถึง 3 Trillion หรือ 3 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนที่จะย่อตัวลงเหลือประมาณ 2.5-2.6 Trillion โดยในมุมมองของคุณท็อปเองกลับมองว่า หากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้น รัฐบาลในหลายประเทศต้องเร่งปั๊มเงินเข้าสู่ระบบเพื่อโอบอุ้มเศรษฐกิจ ทำให้มีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าสู่สินทรัพย์ชนิดต่าง ๆจึงเป็นผลดีต่อตลาดคริปโตได้เช่นกันที่อาจมีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าสู่สสินทรัพย์ชนิดนี้ และอาจทำให้ตลาดคริปโตมีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกกว่าเท่าตัวในปี 2022 นี้
นอกจากนี้ในอดีตที่ผ่านมาตลาดคริปโตคือตลาดหลักของผู้เล่นรายย่อยที่เข้ามาสร้างผลตอบแทน แต่ในช่วงปีที่ผ่านมากลับมีผู้เล่นในระดับสถาบันที่มีเม็ดเงินในมือมหาศาลหันเข้ามาสู่ตลาดคริปโตมากขึ้นทั้งการเข้ามาลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเองรวมถึงการให้บริการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ใช้งานรายย่อยมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์เข้ามาในตลาดคริปโตแต่ตลาดคริปโตก็ยังถือว่าเล็กมาเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ แต่ในระยะยาวเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นและโลกก้าวเข้าสู่ยุคของเว็บ 3.0 อย่างแท้จริงทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการยอมรับมากขึ้น ตลาดของคริปโตจะขยายตัวใหญ่ขึ้นมีการพัฒนามากกว่าในปัจจุบันอย่างแน่นอน ซึ่งคนที่จะเสียผลประโยชน์คือคนที่ยังใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าและไม่ยอมปรับตัวเองให้เข้ากับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ ดังนั้นเราจึงต้องเปิดใจยอมรับและเปลี่ยนระบบให้เข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปจึงจะเป็นทางรอดสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนี้
คริปโตเคอเรนซีอย่าง Bitcoin และ Ethereum จะเติบโตแค่ไหนในปี 2022 ในมุมมองของคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
หลายคนอาจจะมองว่าทั้งตัวของ Bitcoin และตัวของ Ethereum เป็นคู่แข่งที่สำคัญของกันและกัน แต่ในมุมมองของคุณท็อปนั้นเขากลับไม่ได้มองว่าตัวของ Bitcoin และ Ethereum ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันเลย เพราะต่างฝ่ายต่างถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป แต่คู่แข่งที่สำคัญของทั้ง Bitcoin และ Ethereum กลับเป็น Protocol ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาอย่างเดียวกับที่ทั้ง Bitcoin และ Ethereum กำลังทำอยู่ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าทั้ง Bitcoin และ Ethereum ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำลายกันเองแต่ต่างฝ่ายต่างก็มีคู่แข่งของตนเองอยู่ ซึ่งด้วยความที่เว็บ 3.0 เป็นระบบเปิดหากมีใครสักคนที่สามารถพัฒนาและสร้าง Protocol ที่ดีกว่าและสามารถแก้ปัญหาที่ทั้ง Bitcoin และ Ethereum ทำไม่ได้สำเร็จก็จะสามารถแทนที่แพลตฟอร์มทั้งสองได้ ดังนั้นในระยะอันสั้นนี้ทั้ง Bitcoin และ Ethereum ก็ยังไม่มีใครสามารถโค่นได้และจะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน แต่ในระยะยาวหากมี Protocol ใดทำงานได้ดีกว่าทั้งคู่ Protocol นั้นก็จะกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด
อย่ามองว่าการมาถึงของเทคโนโลยีเว็บ 3.0 เป็นเรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป เพราะในตอนนี้ธุรกิจใหญ่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง ไม่เว้นแม้แต่บริษัทอย่าง Facebook ด้วยเหตุนี้เองที่ยังอาจกล่าวได้ว่าในปี 2022 ที่จะถึงนี้ตลาดของคริปโตจะยังคงเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน และยิ่งหากโลกนี้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่เทคโนโลยี 3.0 ได้สำเร็จ
อนาคตคริปโต จะเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าจับตามองยิ่งกว่านี้อีกมาก ดังนั้นหากใครที่ไม่อยากจะกลายเป็นคนตกยุคก็ให้เร่งศึกษาและปรับตัวเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้แล้วคุณจะเป็นอีกหนึ่งผู้รอดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME
