ประวัติและธุรกิจของช่างณเดช เจ้าของช่องยูทูป วิถีพื้นบ้าน เดลิเวอรี่
ช่างณเดช เรียนจบ ปวส.ด้านคอมพิวเตอร์ เดิมเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่จังหวัดระยอง ได้ลาออกมาเพื่อทำตามความฝันที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเอาความถนัดมาเริ่มทำธุรกิจเดลิเวอรี่อาหารทะเล ด้วยการไปรับปูทะเลที่จังหวัดตราดบ้านเกิด พร้อมๆ กับเริ่มทำเพจ “ระยองปูนึ่งเดลิเวอรี่” ไปด้วย โดยตอนนั้นคิดว่าตัวเองมีความรู้ความชำนาญทางด้านปู ประกอบกับเคยทำงานอยู่แผนกโลจิสติกส์จึงมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการขนส่งอยู่ การทำธุรกิจนี้น่าจะประสบความสำเร็จได้
แต่เมื่อธุรกิจดำเนินมาเข้าปีที่ 3 เริ่มเกิดปัญหาไม่สามารถหาวัตถุดิบคุณภาพได้เพียงพอ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ปริมาณปูทะเลในธรรมชาติลดลง ประกอบกับเริ่มมีคู่แข่งรายใหญ่มากว้านซื้อไปมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเริ่มติดขัด เงินทุนที่มีอยู่เริ่มเหลือน้อยลง จึงตัดสินใจเลิกธุรกิจและปิดเพจไป จากประสบการณ์การทำธุรกิจในครั้งนี้ พบว่า แม้ตัวเองจะมั่นใจว่ารู้ “วิธีการขาย” เป็นอย่างดี เนื่องจากตอนเด็กๆ เคยไปขายปลากับพ่อแม่ซึ่งเป็นชาวประมง แต่เมื่อมาทำธุรกิจจริงพบว่า หาก “วัตถุดิบ” มีปัญหา ก็จะทำให้ธุรกิจไม่สามารถเติบโตตามไปด้วย
หลังจากนั้นก็ไปรับของเล่นมาขายตามตลาดนัด แต่ก็พบอุปสรรคอีก โดยยี่ปั้วลงมาเล่นตลาดขายปลีกเองรวมถึงการค้าในโซเชียลมีเดียเริ่มมีการตัดราคามากขึ้น ทำให้ราคาขายที่ตั้งไว้ไม่สามารถแข่งขันได้ ที่สุดจึงได้ตัดสินใจหยุดธุรกิจนี้ไปอีกเป็นธุรกิจที่สองหลังจากทำไปได้เพียง 1 ปี จึงมีความคิดว่าอยากจะกลับไปหาธุรกิจทำที่บ้านเกิด โดยคนรู้จักได้แนะนำว่าให้ไปเรียนตัดผม ซึ่งเป็นงานอิสระ
ช่างณเดช ณ เวลานั้นเริ่มมีความสนใจการทำช่องยูทูป เนื่องจากเป็นคนชอบดูยูทูปมาก โดยเฉพาะรายการที่เกี่ยวกับวิถีพื้นบ้าน เช่น วิถีคนอีสาน วิถีคนใต้ จึงตัดสินใจไปเรียนเป็นช่างตัดผม เพราะคิดว่าจะได้แบ่งเวลามาทำช่องยูทูปได้ โดยเริ่มศึกษาเทคนิคต่างๆ เช่น การตั้งกล้อง วิธีการถ่ายทำต่างๆ ด้วยตัวเอง และด้วยความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่สอนตัดผม ก็ได้เปิดช่องยูทูป ชื่อช่องว่า “ตัดผมมั้ยครับ” โดยชื่อช่องได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งก่อนมาเป็นชื่อช่องปัจจุบัน
ตอนเปิดร้านตัดผมได้หาเวลาทำคอนเทนท์สอดแทรกไปในแต่ละวัน ด้วยการไปทอดแหตามหนองคลองต่างๆ และค่อยๆ ฝึกฝนการถ่ายคลิปไป ช่วง 1 เดือนแรกมีผู้ติดตามเพียง 15 คนซึ่งเป็นบุคคลรอบข้าง และค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเป็น 45 คนในช่วงเวลา 1 ปี จนกระทั่งมาทำ “คลิปจับปลาซิว” กลับกลายเป็นว่าคลิปสั้นๆ เพียง 30 วินาที ได้เปลี่ยนชีวิตช่างณเดชไปเลย เพราะเริ่มมีคนดูเพิ่มมากขึ้นจาก 100 วิวไปเป็น 900 กว่าวิว ทำให้จับทางความชอบของผู้ชมได้ว่า “ชอบดูภูมิปัญญาพื้นบ้าน ใช้อุปกรณ์พื้นบ้านที่เข้าถึงวิถีชีวิตจริง” และจากคลิปนี้ ทำให้เริ่มมีนักข่าวท้องถิ่น ติดต่อเข้ามาขอถ่ายทำ ต่อมามีอีกหลายรายการที่ติดต่อมาเพื่อมานำเสนอวิถีชีวิตพื้นบ้าน อย่างช่องข่าว “อนุวัตจัดให้” “รายการอึ้ง ทึ่ง เสียว”
ซึ่งช่างณเดช ก็เห็นประโยชน์ว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีมากเพราะ “พีอาร์สร้างวิว วิวสร้างซับ” ในที่สุดช่องยูทูปก็ถึงจุดที่สามารถสมัครเปิดสร้างรายได้ จึงตัดสินใจปิดร้านตัดผมไป เนื่องจากต้องการเวลาไปทำช่องยูทูปอย่างจริงจัง จนปัจจุบันมียอดติดตาม subscribe เกือบ 3 หมื่นคน และเพจเฟซบุ๊กมียอดติดตาม follow มากกว่า 1 แสนคน ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงคอนเทนท์ใหม่ๆ เช่น ออกไปทัวร์ตามต่างจังหวัดบ้าง หรือทำช่องร่วมกับยูทูปเบอร์คนอื่น โดยเป้าหมาย(ความฝัน)ของช่างณเดชคือ การแบ่งปันรายได้จากยูทูปให้ทุกคนในครอบครัว ให้เพียงพอที่จะไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านอีก
ข้อคิดและแนวทางในการทำช่องยูทูปแนววิถีชาวบ้าน
1.“ให้เลือกทำสิ่งที่ตัวเองถนัด” แม้ว่าเนื้อหาคอนเทนท์จะทำซ้ำกับคนอื่น แต่วิธีการนำเสนอ บรรยากาศต่างๆ จะเป็นสไตล์ของเราเอง เนื่องจากได้ข้อคิดจากยูทูปเปอร์ที่ประสบความสำเร็จว่า “ต้องทำช่องยูทูปที่มีความถนัด” แม้ว่าคนจะนิยม แต่หากเราไม่ถนัด ก็จะทำไม่ได้หรือว่าทำได้ไม่ดี
2.“The content is king” คอนเทนท์ดี คนจะติดตามดู แล้วค่อยๆ พัฒนาไปไม่ว่าจะเป็นวิธีการถ่ายทำหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำ
3.“เอาใจมาทำงานก่อน” ให้ลุกขึ้นมาทำเลย ไม่ต้องกลัว ให้กล้าทำ กล้าพูด กล้านำเสนอ สำหรับวิธีการหรือความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับยูทูป เช่น เทคนิคการตัดต่อ การนำเสนอ สามารถศึกษาจากช่องยูทูปได้ทั้งหมด
- หลังจากนำเสนอคอนเทนท์ที่ดีแล้ว จะต้องมี “ความต่อเนื่อง” พยายามลงบ่อยๆ ให้เกิดความต่อเนื่อง คนติดตามจะได้ไม่ลืม
- “ท้อได้แต่อย่าถอย” ตัวช่างณเดชได้พิสูจน์ให้เห็นความสำเร็จแล้วจากยอดผู้ติดตามเริ่มแรกเพียง 15 คน อย่ายึดติดเรื่องรูปร่างหน้าตา หรือคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนเด่นดัง และให้ “เลือกฟังแต่คำวิจารณ์ที่จะสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้” ส่วนคำวิจารณ์ที่บั่นทอนกำลังใจ ให้ดูไว้เฉยๆ ไม่ต้องตอบโต้
โดยสรุปช่างณเดช ได้ให้ข้อคิดสำคัญและเป้าหมายในการสร้างรายได้ในช่องยูทูปไว้ว่า แทนที่จะคิดว่า “เราจะไปได้ไกลแค่ไหน” แต่ควรหันหลังกลับไปมองดูว่า “เราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว” มากกว่า จะทำให้มีกำลังใจไปต่อ และสำหรับชาวบ้านนั้น อยากให้คิดถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหารายได้ เปลี่ยนวิธีคิดจาก “การจับปลามาขาย” เป็น “การหารายได้จากการที่คนเข้ามาดูและมีโฆษณามาลง” จะยั่งยืนกว่าเนื่องจากกุ้งหอยปูปลาเป็นของธรรมชาติ เมื่อหาทุกวันโอกาสที่จะเหลือน้อยหรือหมดไปก็มี จึงควรเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้มัน เปรียบได้กับการหาปลามาขาย 2 กิโลกรัม แต่สามารถทำรายได้ได้ตลอดไปนั่นเอง!
ผลงาน ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรเขียนบทความสร้างรายได้รุ่นสู้โควิด 2020
คุณ Jinalyst
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME