นับตั้งแต่ที่ราคาของบิทคอยน์พุ่งทะลุขึ้นไปเกินกว่า 2 ล้านบาทเมื่อตีมูลค่าเป็นเงินไทย เหตุการณ์นี้ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในบิทคอยน์เริ่มมีความคิดแตกออกเป็น 2 ฝ่ายโดยมีทั้งฝ่ายที่มองว่าราคามีโอกาสขึ้นไปเรื่อย ๆ จนทะลุ 3 ล้านบาทอย่างแน่นอนกับฝ่ายที่มองว่าถึงอย่างไรราคาของบิทคอยน์ก็น่าจะมีการปรับราคาเสียก่อนส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อก็แล้วแต่ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อตัวของบิทคอยน์นั้น เมื่อเสียงเริ่มแตกออกเป็น 2 ฝั่งจึงทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มลังเลใจว่าแล้วสุดท้ายควรจะเอาอย่างไรดีกับบิทคอยน์ เพื่อตอบข้อสงสัยความลังเลดังกล่าวเรามีคำแนะนำจากลุงโฉลกหรือ “คุณโฉลก สัมพันธารักษ์” นักลงทุนสายเทคนิคผู้มีชื่อเสียงมาฝาก
ขอบคุณข้อมูลจากคลิป ช่อง Youtube ถามอีก กับอิก TAM-EIG
วิเคราะห์ราคา Bitcoin มุมมองและทัศนคติของลุงโฉลก
เมื่อราคาพุ่งขึ้นถึงระดับ 2 ล้านบาทจนทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มลังเลใจว่าจะเอาอย่างไรต่อดีกับบิทคอยน์ แต่ในทัศนคติของลุงโฉลก ผู้คร่ำหวอดในวงการการลงทุนสายเทคนิคมานานมีความเห็นที่น่าสนใจว่า แม้บิทคอยน์จะมีมูลค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 2 ล้านบาทไปแล้วแนวโน้มในอนาคตของบิทคอยน์ก็ยังจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน “เพียงแต่” ตัวบิทคอยน์ต้องมีการย่อของราคาลงเป็นการปรับฐานเสียก่อนที่จะไต่ระดับราคาขึ้นไปอีกครั้ง และในครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับราคาลงครั้งใหญ่ก่อนที่ราคาจะทะยานขั้นไปอย่างแน่นอน ส่วนราคาที่คาดการณ์ไว้ก็คือน่าจะมีการปรับลงมาถึงระดับ 40,000 เหรียญสหรัฐก่อนที่จะทำราคาทะลุขึ้นไปแตะหลักแสนเหรียญ ซึ่งในมุมมองของลุงโฉลกได้มองว่าอาจจะเป็นราคาในช่วงหลักหมื่นเหรียญเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่บิทคอยน์จะไปยืนในระดับ 1 แสนเหรียญขึ้นไป
ส่วนเหตุการณ์ก่อนการปรับราคาย่อลงนี้ลุงโฉลกมองว่าในปัจจุบันที่ราคาของบิทคอยน์กำลังไต่ระดับอยู่นั้นน่าจะมีมูลค่าพุ่งขึ้นไปถึง 1.3 แสนเหรียญในอนาคตอันใกล้นี้ก่อนที่จะมีการปรับราคาลงครั้งใหญ่ ซึ่งลุงโฉลกมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ราคาของบิทคอยน์ควรจะมีการปรับตัวลงในอนาคตเพราะหากราคายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการย่อตัวหรือปรับฐานลงมาก่อนเลย สิ่งนี้กลับเป็นเรื่องที่อันตรายมากกว่าเพราะจะทำให้คนแห่ตามกันเข้ามาโดยไร้ซึ่งระบบใด ๆ มารองรับและท้ายที่สุดก็จะสร้างความปั่นป่วนให้กับนักลงทุนได้ในที่สุด
การลงทุนที่เป็นระบบ มีการวางแผนรองรับที่ดีคือวิธีการที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์ราคา Bitcoin
สิ่งหนึ่งที่ลุงโฉลกเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญที่สุดของการลงทุนในบิทคอยน์คือนักลงทุนต้องมีการวางระบบการลุงทุนของตนเองให้ดี ไม่ว่าคุณจะมีแนวคิดในการลงทุนอย่างไร จะเล่นระยะสั้น ระยะกลางหรือระยะยาวคุณจำเป็นต้องเคร่งครัดกับแนวทางและระบบการลงทุนที่คุณเลือกเอาไว้ อย่ากลับไปกลับมาเพราะเห็นแก่ความโลภหรือความกลัวที่อยู่เบื้องหน้า เพราะการกลับไปกลับมาและไม่ทำตามระบบอาจทำให้แผนการลงทุนที่วางไว้พังพินาศและทำให้คุณต้องขาดทุนก็เป็นได้
ลุงโฉลกยังให้ความสำคัญในเรื่องของการมองกราฟเทคนิคให้เป็น นักลงทุนต้องรู้ว่าจุดใดที่ควรจะเข้าซื้อและจุดใดที่ควรจะขายออกมาก่อนไม่ว่าจะเป็นการขายเพื่อทำกำไรหรือ stop loss เพื่อลดการขาดทุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลุงโฉลกยังให้ความสำคัญในเรื่องของ money management หรือวิธีการจัดการเงินลงทุนอย่างเป็นระบบ ต้องมีการคำนวณความเสี่ยงการลงทุนและจำนวนการขาดทุนที่รับได้ คำนึงถึงการ stop loss และ let profit run เพื่อแบ่งไม้ในการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเอง ลุงโฉลกไม่แนะนำการทุ่มเงินทั้งก้อนลงไปในครั้งเดียวเพราะมองว่าหากคุณได้กำไรก็ดีไป แต่หากคุณขาดทุนคุณจะไม่เหลืออะไรเลยในท้ายที่สุด
Future และ ETF ก็ไม่มีผลต่อราคาของบิทคอยน์
ในเรื่องของความกังวลใจของนักลงทุนที่ได้ยินข่าวว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของฟากฝั่งอเมริกามีมติให้การยอมรับและอนุมัติผลิตภัณฑ์อย่าง Future และ ETF ออกมาโดยอิงกับราคาของบิทคอยน์ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลใจว่าจะมีผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์นั้น ลุงโฉลกมีความเห็นว่ายังไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะตัวของบิทคอยน์เองไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทั้งตัวของ Future และ ETF แม้แต่น้อย และที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผู้ที่เข้ามาลงทุนไม่ได้ถือเหรียญบิทคอยน์โดยตรงดังนั้นผู้ที่สนใจจะลงทุนในบิทคอยน์จริง ๆ จะไม่สนใจทั้ง 2 สิ่งนี้เลยแต่จะเข้าไปถือครองเหรียญบิทคอยน์โดยตรงมากกว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ทั้งสองนั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่รู้เรื่องของบิทคอยน์
เงินเฟ้อจะมีผลกระทบกับบิทคอยน์อย่างไร
เงินเฟ้อเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากที่รัฐมีอำนาจในการกำหนดการพิมพ์ธนบัตรของสกุลเงินต่าง ๆ ออกมาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ค่าเงินต่าง ๆ มีมูลค่าลดลงแต่สำหรับบิทคอยน์นั้นมีความเป็นอิสระที่ไม่ขึ้นอยู่กับองค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือประเทศใดประเทศหนึ่งและที่สำคัญคือไม่สามารถผลิตเพิ่มออกมาได้เพราะอัลกอริธึ่มได้กำหนดปริมาณบิทคอยน์ที่แน่นอนเอาไว้แล้ว มูลค่าที่แท้จริงของบิทคอยน์จึงไม่อาจอ้างอิงกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นได้เลย
Mind set การลงทุนในสไตล์ของลุงโฉลก
ในท้ายที่สุดนี้ลุงโฉลกได้ฝากแนวความคิดในการลงทุนบิทคอยน์ในสไตล์ของตัวเองที่น่าสนใจดังนี้
- ต้องกำจัดความโลภและความกลัวให้ได้: เพราะความโลภและความกลัวเป็นอุปสรรคใหญ่ของนักลงทุน เราจะกำจัดมันได้เราต้องรู้จักว่าความโลภและความกลัวคืออะไร ถ้าเราไม่รู้จักมันเป็นอย่างดีเราย่อมไม่มีทางเอาชนะศัตรูที่ร้ายกาจในการลงทุนนี้ได้อย่างแน่นอน
- เมื่อเรากำจัดความโลภความกลัวได้แล้วเราต้องทำตามแผนการลงทุนที่วางแผนเอาไว้: เมื่อเรารู้จักความโลภและความกลัวได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการวางแผนการลงทุนของเราอย่างเป็นระบบและทำตามแผนการที่วางไว้อย่างเคร่งครัดโดยไม่เปลี่ยนกลับไปกลับมาให้เสียระบบ เราควรจะต้องวางแผนการลงทุนโดยมองจิตวิทยาของตลาดผ่านกราฟซึ่งจะสะท้อนกลไกความโลภและความกลัวที่เกิดขึ้นของนักลงทุนรายอื่น ๆ ในตลาด หากเราเข้าใจกลไกเหล่านี้เราจะวางแผนและทำตามแผนการที่วางไว้ได้ดีขึ้น และทำให้เราเป็นผู้หนึ่งที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนบิทคอยน์
ราคาบิทคอยน์ที่ขึ้นทะยานถึง 2 ล้านบาทนั้นยังคงมีแนวโน้มที่สดใสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้อยู่ เพียงแต่คุณต้องมีความรู้ที่แน่นพอทั้งในเรื่องของข่าวสาร การดูกราฟเทคนิครวมถึงวิธีการจัดการอารมณ์ของตนเองในสภาวะต่าง ๆ หากคุณเตรียมพร้อมในเรื่องเหล่านี้แล้วการลงทุนในบิทคอยน์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกำลังของคุณอย่างแน่นอน
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME
