มีโอกาสได้ร่วมงานกันทำสัมมนาเกี่ยวกับการเริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งเราทั้งสองก็นำประสบการณ์ ล้มเหลวมาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ได้ศึกษาพร้อมทั้งบอกแนวทางทำอย่างไรไม่ไห้พลาดกับการคิดเริ่มต้น
คุณบอยผ่านธุรกิจมามากครับ สำหรับธุรกิจ “ข้าวเกรียบปลา ปัตตานี” ถือว่าเป็นธุรกิจที่พลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส เปลี่ยนสินค้าพื้นบ้านให้เป็นสินค้าออนไลน์ ที่ยอดขายเดือนละหลาย ๆ ตันทีเดียวครับ
ได้เวลามาเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้ชายคนนี้แล้วครับ… บอย ข้าวเกรียบปลาปัตตานี
คุณบอยเชิญครับ จัดเลย
สวัสดีครับ ผม บอย ฐานทัพ อินทอง ปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอ็นไอ อินเตอร์ไลท จำกัดทำธุรกิจค้าส่งแผ่นข้าวเกรียบดิบ ข้าวเกรียบปลาปัตตานี และผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบเพื่อสุขภาพ
ทราบว่าเคยอยู่วงการบันเทิง….
ก็ประมาณนั้นครับ เมื่อก่อนทำงานอยู่ในงานสายสื่อสารมวลชน เคยเป็นบรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการ นักข่าว นักเขียน คอลัมนิสต์ ให้กับองค์กรของรัฐ และเอกชนหลายแห่ง รวมถึงงานด้านบริหารโปรเจ็กต์ต่างๆ
เรียกว่าคุ้นเคยทั้งภาครัฐและเอกชน พอสมควร ทำให้เห็นช่องทางธุรกิจ ช่องว่างอะไรต่อมิอะไรมากมาย
เมื่อเดินมาถึง “ทางตัน” ของตำแหน่งงานจึงเริ่มคิด
จุดเปลี่ยนคงเรียกได้ว่าเราเดินทางมาสู่จุดสูงสุดในสายงานของเราแล้ว การที่เราจะเดินไปต่อหรือจะย่ำอยู่กับที่ มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจ เราจะอยู่เพื่อสร้างองค์กรเดิมของเราให้แข็งแกร่ง หรือจะออกมาสร้างอาณาจักรของเราเอง
ออกมาสร้าง “อาณาจักร” ใหม่ที่ออกแบบ และทำมันเองกับมือ
แรกเริ่มเดิมที การเริ่มต้นออกมาสร้างอาณาจักรและองค์กรของตัวเองนั้น ผมเริ่มต้นจากสิ่งที่ใกล้ตัว ความคุ้นเคย สิ่งที่ตัวเองรักและถนัดที่จะทำมัน งานแรกที่เริ่มออกมาคือ งานสื่อสิ่งพิมพ์ งานสื่อสารมวลชน และงานเขียนต่างๆ เป็นงานที่ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาในการต่อยอดธุรกิจ
การเริ่มต้นของธุรกิจไปได้สวย แต่เอาเข้าจริง หนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เราเจอผลกระทบจากวิกฤตการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่าน ปี 2550 – 2553
ความไม่แน่นอนในระบบการเมือง ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ องค์กรเล็กๆ หลายแห่งต่างบอบช้ำ หลังจากยังไม่ฟื้นตัวดี ยังถูกซ้ำด้วยวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ซึ่งครั้งนี้ทำให้ธุรกิจของเราจมไปกับสายน้ำทันที
ทุกอย่างจบ โปรเจ็กต์ทุกอย่างหยุดชะงัก
หลังจากภาวะน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงภาพความเสียหาย กับหายนะทางหนี้สินที่เข้ามา… คิดอะไร ทำไมถึงเลือกธุรกิจนี้? เพราะเรามองว่า เรื่องของอาหาร ธุรกิจอาหารไม่มีวันตาย คนต้องกินอาหาร เราเลยโฟกัสไปที่ธุรกิจอาหาร แต่ก็ยังแยกย่อยลงไป ในเรื่องของอาหาร จำพวกที่เป็นอาหารหลัก อาหารรอง หรือ จำพวกอาหารที่เป็นประเภทขนมขบเคี้ยว
ผมมองว่า “สแน็ค” เป็นอะไรที่ผู้คนสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัย ช่องว่างทางการตลาดยังมี
ผมมองไปที่ธุรกิจหลายประเภทที่เป็น “สแน็ค” แต่มาหยุดอยู่ที่ตัว “ข้าวเกรียบ” เหตุผลที่เราเลือกธุรกิจนี้ เพราะเป็นสินค้าที่เรามองว่า มันสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัย ราคาไม่แพง มีความหลากหลาย และยังเป็นสินค้าที่ผู้คนทั่วไปคุ้นเคยเป็นอย่างดี และที่สำคัญลงทุนต่ำ
เงินทุนในช่วงแรกที่หาเข้ามาได้ในการลงทุน คือเงินที่มาจากการเก็บรวมของเงินรายได้จากการขายของที่เราทำสินค้าออกไปขายไม่กี่ร้อยบาท เพราะหนี้สินที่เรามีหลังจากที่เกิดวิกฤต รายจ่ายในแต่ละเดือนร่วมแสนบาทต่อเดือนที่เราต้องหาจ่าย มันเป็นภาระที่หนักมาก เราจึงไม่มีเงินทุนมากมายในการลงทุนธุรกิจที่ต้องใช้ต้นทุนสูงๆ มีเพียง“ธุรกิจข้าวเกรียบปลา” เท่านั้นที่เราสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยเงินไม่กี่ร้อยบาท
น้ำลดได้ธุรกิจปลา แต่นั่นก็มาพร้อมกับ “หนี้สิน” และอุปสรรคอื่น ๆ อีกมากมาย
อุปสรรคและปัญหาที่จะพูดถึงคือเรื่องของการเริ่มต้นธุรกิจ
“การทำธุรกิจไม่ยาก แต่การจะทำให้ธุรกิจไปรอดนั้นยากยิ่งกว่า”
การทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและยอมรับนั้นต้องอาศัยเวลา และการสื่อสาร ให้ความรู้ ความเข้าใจ เมื่อใดที่ลูกค้าพร้อมที่จะยอมรับและเข้าใจในสินค้าเรา เมื่อนั้นลูกค้าก็จะเป็นของเรา
ช่วงแรกของการลงมือทำธุรกิจนั้น ค่อนข้างที่จะประสบปัญหาเยอะ เพราะความไม่พร้อมในด้านต่างๆ เรื่องของ คน บุคลากร สินค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย ฯลฯ การก้าวผ่านไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่มากพอ การลงมือทำธุรกิจส่วนใหญ่เกิดจากความไม่พร้อม เราใช้วิธีเรียนรู้ และแก้ปัญหา มีปัญหาเข้ามาก็รีบแก้ไข
อย่ามองปัญหาและอุปสรรคเป็นเรื่องใหญ่ มองให้เป็นโอกาสที่เราได้เรียนรู้แยกปัญหาออกเป็นส่วน แก้ไขสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนจนถึงสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุดเพราะถ้าเราไม่รู้จักการมองปัญหาให้เป็นโอกาส ปัญหาที่เข้ามาจะดูใหญ่มาก บางครั้งใหญ่ซะจนเรามองไม่เห็นทางออก ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด หรือ เกิดเรื่องที่เลวร้ายในการทำธุรกิจ“ทุกวิกฤตมีโอกาส” และ “ทุกปัญหามีทางออก”
พันธมิตรคือตัวแปรสำคัญ แต่ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าสำคัญกว่า
เราเป็นธุรกิจค้าส่ง ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่าย ปัญหาที่เราเจอคือเรื่องของปัญหาวัตถุดิบที่เรานำมาจำหน่าย การสั่งซื้อและการผูกขาดอยู่กับผู้ส่งรายเดียวมีความเสี่ยงอย่างสูง วันใดที่มีปัญหาเกิดขึ้น หรือเขาไม่สามารถส่งวัตถุดิบให้เราได้ทุกอย่างก็จบ
เราจึงทำการหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องของวัตถุดิบ เราได้พันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ราย แต่ในธุรกิจที่เราทำ “ธุรกิจข้าวเกรียบปลา” เป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นตามสูตรของแต่ละเจ้า แต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องมาตรฐานของสินค้า สินค้าเข้ามาแต่ละครั้ง คุณภาพสินค้าไม่เหมือนกัน บางครั้งมีความแตกต่างกันชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจัดจำหน่าย เราควบคุมเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าไม่ได้ ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากเราไป ขอตีคืนสินค้า ขอเปลี่ยนสินค้าเข้ามามากมาย
ทางเราเองถือเรื่อง “ความจริงใจ” และ “ซื่อสัตย์” เป็นหลัก เราเน้นเรื่องของ “คุณภาพ” สินค้าไม่ดี มีปัญหา เรารับคืนทั้งหมด เราให้ความสำคัญกับคำว่า “ลูกค้า” มากที่สุด เพราะถ้าไม่มีลูกค้า เราก็ขายสินค้าไม่ได้
กลับกันพันธมิตรที่เราหาเพิ่มเข้ามา ไม่มองในมุมมองของเราที่ให้ความสำคัญกับ “ลูกค้า” เป็นหลัก เรารับคืนสินค้าจากลูกค้า แต่เราตีคืนกับต้นทางไม่ได้ เขาไม่รับผิดชอบในเรื่องของสินค้าที่ไม่มีคุณภาพที่เขาผลิต ทั้งที่ในตอนแรกที่คุยกันก่อนจะร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ว่ามีปัญหาอะไรก็ยินดีร่วมกันรับผิดชอบ
เราโชคร้ายที่เจอพันธมิตรทางธุรกิจที่ไม่จริงใจ ไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน ทำให้เราเกิดความเสียหายเกิดขึ้นอย่างมาก แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่เงินหลักแสน ในช่วงที่เรากำลังเริ่มต้นธุรกิจ ในช่วงกำลังลองผิดลองถูก มันช่างดูมากมายนัก เพราะเราเริ่มต้นธุรกิจจากเงินหลักร้อย มาเจอกับปัญหานี้ ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับเรา
เราคืนเงินให้กับลูกค้าของเราทุกคน เราให้ตีคืนสินค้าโดยไม่มีเงื่อนไข บางคนใช้สินค้าไปแล้วบางส่วน เราก็คืนเงินให้เต็มจำนวน เรารีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ไม่มัวรีรอ ไม่มัวจมกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะธุรกิจต้องเดินต่อ เราเริ่มแก้จากปัญหาใหญ่ คือเรื่องของ “ลูกค้า” จบจากลูกค้า ปัญหาที่รองลงมา คือเรื่องของ “สินค้า” เราจะทำอย่างไรกับสินค้าที่ตีคืนมา และจะหา “สินค้าใหม่” ที่มีคุณภาพเข้ามาได้อย่างไร
สรุปได้ว่า “สินค้าที่ตีคืน” เรายอม “ขาดทุน” เราทิ้งสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพทั้งหมด ส่วนการหา “สินค้าใหม่” เราใช้วิธีเจรจากับผู้ส่งวัตถุดิบเดิมของเรา ให้ส่งสินค้าเราให้มากขึ้น เพราะเราเริ่มมีตลาดและฐานลูกค้าที่มากขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับการเป็นพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจร่วมกันมากขึ้น และในที่สุดเขายินดีส่งสินค้าให้เรา โดยมีการเร่งกำลังการผลิตให้เรามากขึ้น
ในส่วนของ “ลูกค้า” เมื่อเราให้ความจริงใจกับลูกค้า ลูกค้าเริ่มมีความไว้ใจและเชื่อใจเรามากขึ้น ลูกค้าเดิมยินดีที่จะรอสินค้าของเรา โดยที่ไม่เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าจากที่อื่น เพราะเชื่อมั่นว่าเราขายแต่สินค้าที่ดีมีคุณภาพเป็นหลักจากการที่เรายอม “ขาดทุน” เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า และชื่อเสียงของเรา สิ่งที่ได้กลับคืนมาของผลในวันนั้น คือการได้ “ใจของลูกค้า” กลับมาเป็น “กำไร” ให้กับธุรกิจของเรา
แนวทางสร้างลูกค้า และ ตัวแทนจำหน่าย
วิธีการเข้าถึงและเลือกกลุ่มลูกค้า สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ “ความชัดเจน” 1. ความชัดเจนในธุรกิจ 2. ความชัดเจนในรูปแบบการขาย 3. ความชัดเจนในผลิตภัณฑ์
เราทำธุรกิจอะไร ประเภทธุรกิจแบบไหน ผลิตภัณฑ์คืออะไร สิ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเรา เราทำ “ธุรกิจข้าวเกรียบ” เป็นธุรกิจประเภทอาหาร / ขนมขบเคี้ยว / อาหารว่างประเภทของธุรกิจ เราเป็น “ธุรกิจค้าส่ง” ผลิตภัณฑ์ของเราเป็น “แผ่นข้าวเกรียบดิบ”
เมื่อเรามีความชัดเจนแล้ว เราจะมองเห็นกลุ่มลูกค้าของเรา เราเป็น “ธุรกิจค้าส่ง” กลุ่มลูกค้าของเราก็ต้องเป็นคนที่ซื้อสินค้าเราไปเพื่อจำหน่ายต่ออีกทีหนึ่ง ไม่นำไปแปรรูปจำหน่าย ไม่ก็นำไปขายส่งต่อ
ใครคือลูกค้าของเรา คนทั่วไปที่ต้องการมีอาชีพ ต้องการมีรายได้ หรือ รายได้เสริม ผลิตภัณฑ์ของเราเป็น “แผ่นข้าวเกรียบดิบ” ที่สามารถนำไปทอดแปรรูป เป็นข้าวเกรียบทอด จำหน่าย หรือจำหน่ายส่งตามร้านค้าปลีก-ร้านค้าส่ง เป็นอาหารประเภทขนมขบเคี้ยว อาหารว่างทานเล่น กินได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้กลุ่มลูกค้าเรากว้าง คือ กลุ่มคนที่ต้องการสร้างรายได้ ก็สามารถเป็นลูกค้าของเราได้
“เราไม่เลือกลูกค้าที่จะซื้อสินค้าเรา แต่เราทำสินค้าของเราให้ลูกค้าต้องเลือก ถ้าอยากจะมีรายได้เสริม ที่ลงทุนต่ำ ต้องเป็นสินค้าของเรา”
รูปแบบธุรกิจตอนนี้เป็นอย่างไร มีสินค้าอะไรบ้าง
ธุรกิจในปัจจุบัน เราค้าส่งแผ่นข้าวเกรียบดิบ ประกอบไปด้วย ข้าวเกรียบปลา / ข้าวเกรียบกุ้ง และกลุ่มข้าวเกรียบเพื่อสุขภาพ ข้าวเกรียบเผือก / ข้าวเกรียบมัน / ข้าวเกรียบฟักทอง / ข้าวเกรียบแครอท และข้าวเกรียบธัญพืช
เราไม่มีหน้าร้าน แต่เรามีออฟฟิศและโกดังเก็บสินค้า เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาติดต่อกับเราได้โดยตรง ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายของเราเราเน้นช่องทางการสื่อสารออนไลน์เป็นหลัก ทั้งในเรื่องของการตลาด การสื่อสาร การประชาสัมพันธ์
เราใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อเป็นการลดต้นทุน ในการสร้าง Business Model รูปแบบที่เรามองคือ การส่งผ่านสินค้าไปให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเราให้ได้มากที่สุดรวดเร็วและประหยัด สังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นหัวใจของเรา
ไม่ว่าจะเป็น Facebook / Google+ / line / line@ / Website / Blog / Webboard หรือพวก Free Website รวมถึงสื่อและเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกออนไลน์
จุดที่ทำให้ “บอยข้าวเกรียบปลาปัตตานี” ข้าวเกรียบภูธร มาเป็นข้าวเกรียบเงินล้านทุกวันนี้
“ความจริงใจ” ซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า คือ Key success ในการทำธุรกิจของเราหรือพูดง่ายๆ ก็คือเราต้องมีจรรยาบรรณต่อลูกค้า และต่อธุรกิจของเรา ความซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจ การขายสินค้าต้องไม่หลอกลวงผู้บริโภค ผู้ซื้อ หรือหลอกลวงสังคม
ต้องจริงใจต่อลูกค้า เสนอสินค้าที่ดีมีคุณภาพได้มาตรฐานให้กับลูกค้าของเราให้ความใส่ใจ เพราะ “ความจริงใจ” จะเป็นสิ่งที่รักษาฐานลูกค้าและสร้างความจงรักภักดีต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้เป็นลูกค้าต่อเนื่องในระยะยาว เป็นการรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต
แนวทางการบริหารธุรกิจ “ครอบครัว”
การบริหารคนในองค์กร ในธุรกิจที่เราทำ เป็นลักษณะธุรกิจกึ่งครอบครัว มีบุคลากรไม่กี่คน เราใช้คนในการขับเคลื่อน 2-3 คนเท่านั้น เพราะปัจจุบันระบบการทำงานที่เล็กและคล่องตัว สามารถปรับตัวได้ดีกว่าระบบองค์กรใหญ่ รูปแบบการทำงาน การตัดสินใจ ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
การบริหารงานส่วนใหญ่ใช้วิธีกระจายออกสู่ภายนอก โดยระบบที่เรียกว่า เอาท์ซอร์ส (Outsource)โดยการจ้างทีมงานมืออาชีพที่มีทักษะการทำงานในด้านนั้นๆ รับผิดชอบไปไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกระบวนการผลิต ระบบการขนส่ง หรือในส่วนของระบบบัญชี ซึ่งมันทำให้การบริหารภายในองค์กรเกิดความคล่องตัวอย่างมาก และเป็นการประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก
อะไรคือ “รากหญ้า” ของบอยข้าวเกรียบปลาปัตตานี
“ประหยัดตรงเป้าหมาย” รากหญ้า Marketing ในมุมของผมคือการทำธุรกิจที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ หยิบจับและจับต้องได้ ไม่ใช่การทำธุรกิจที่ไกลตัว ลงทุนธุรกิจทีเป็นเม็ดเงินจำนวนมากๆ การสร้างธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องใหญ่ สิ่งที่ใหญ่ คือ เป้าหมาย
แนวทางทำธุรกิจแบบรากหญ้า ต้อง “ประหยัดตรงเป้าหมาย” ชัดเจน “ประหยัด” ไม่ใช่ “ขี้เหนียว” แต่เป็นเรื่องของการ “Save Cost” ในเรื่องของการบริหารต้นทุน ทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด ทุกครั้งที่สื่อออกไปต้องชัดเจน “ตรงเป้าหมาย”
วางแผนอนาคตไว้อย่างไร
แผนการตลาดในอนาคต เรามีการวางแผนและปรับปรุงในเรื่องของกระบวนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อขยายตัวรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน AEC รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ
นอกจากนี้เรายังเตรียมการขยายจุดกระจายสินค้าในระบบตัวแทน ให้ครอบคลุมมากขึ้นในจังหวัดใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มโปรดักส์ไลน์ สินค้าใหม่ที่บริษัทฯ จะขยายเพิ่มออกเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป ในกลุ่ม “ข้าวเกรียบทอดปรุงรส” ที่จะขยายตัวจับกลุ่มลูกค้าตลาดภูมิภาค
ให้แรงบันดาลใจเพื่อน ๆ หน่อยครับ
สำหรับการเริ่มธุรกิจนั้นไม่ยาก แต่การที่จะทำธุรกิจให้อยู่รอดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เริ่มธุรกิจทุกคนต้องมีความอดทน บางครั้งการหาธุรกิจที่ตรงเป้า ทำแล้วขายได้ ขายดี มันหากันไม่ได้ง่ายๆ ต้องรู้จักปรับ รู้จักที่จะเปลี่ยน หาธุรกิจและแนวทางที่เหมาะให้เจอ แล้วลงมือทำมันอย่างเต็มที่
บ่อยครั้งที่การเริ่มธุรกิจ เถ้าแก่ใหม่มักมองแต่ความสวยหรู จงเรียนรู้และมองในมุมที่ผิดพลาดบ้าง เพื่อเป็นบทเรียนแนวทางในการป้องกันปัญหา และ ความล้มเหลว ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ามองแต่ “จุดดี” ควรจะมอง “จุดบอด” ในธุรกิจไว้ด้วย
ส่วนธุรกิจที่ประสบปัญหา หรือกำลังเผชิญกับปัญหา อย่างที่บอก “ทุกปัญหามีทางออก”
“คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครไม่เคยล้มเหลว”ใช้สติในการแก้ปัญหา “อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่”
ช่องทางติดต่อ
ท่านสามารถติดต่อเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือติดต่อธุรกิจได้ที่
ฐานทัพ อินทอง โทร. 086-3660157 / line. thantup
FB: ฐานทัพ อินทอง / E-mail : [email protected]
ติดต่อธุรกิจ “ข้าวเกรียบปลาปัตตานี”
บอยข้าวเกรียบปลา
ที่อยู่:ศูนย์ขายส่งข้าวเกรียบ ข้าวเกรียบปลา ข้าวเกรียบปลาปัตตานี 086-3660157 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
E-mail: [email protected]
Tel.: 086-3660157 / line. @fishyboy
FB : www.facebook.com/fishcrackerboy
Website:http://www.pantipmarket.com/mall/fishcracker
เถ้าแก่ใหม่วิเคราะห์ธุรกิจ
ข้าวเกรียบปลาปัตตานี ผมคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ จำได้ว่าตอนเล็ก คุณอาผมก็นำมาทอดแล้วไปฝากร้านโชว์ห่วยขาย ยังจำรสชาติได้ครับ แต่ที่สำคัญคือ น้ำจิ้มสูตรปักษ์ใต้อร่อยมาก เผ็ด หวาน เปรียว กลมกล่อมครับ
ผมไม่คิดครับว่า “ข้าวเกรียบปลาปัตตานี” จะมาเติบโตในโลกออนไลน์ จนเมื่อได้พบคุณบอย นำมาทำตลาด บอกเลยครับ ผมทึ่งในความสามารถครับ ทั้งเรื่องการคัดสรรสินค้า ตลอดจนการทำการตลาด เรียกได้ว่าครบสูตร
ยังมีบางประเด็นที่คุณบอยไม่ได้เล่า แต่ผมจะนำมา “แฉ” คือ
ไอดอลคนหนึ่งของคุณบอยคือ “ข้าวเกรียบมโนราห์” ที่มียอดขายปีละเป็นพันล้าน และเป็นพันล้านที่ “หาคู่แข่ง” แทบไม่มีเลย
นี่ไงหละครับ สินค้าพื้นบ้าน ธรรมดา ๆ ถ้าลองใส่ “การตลาด” เข้าไป มันก็ทำกำไรได้มากมายครับ
ผมเชื่อครับว่า ข้าวเกรียบปลาปัตตานี ยังไปได้ไกลอีกมาก ไม่แน่นะครับ เราอาจจะได้ยินชื่อ “บอยข้าวเกรียบปลาปัตตานี” ในร้านสะดวกซื้อ ในอนาคต และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME