หลาย ๆ คนคงน่าจะพอได้ยินคำว่า “เลือกงานที่ใช่ ทำอะไรที่เรารัก” อะไรทำนองนี้มาบ้างใช่ไหมครับ แต่หลายคนก็มักติดปัญหาว่า
ไม่รู้ชอบอะไรนี่สิ !!!
หรือบางคนก็เรียนจบมาแล้ว
แต่ที่เรียนมาก็ไม่ได้ใช่ว่าจะชอบเรียน แต่อยากทำให้พ่อแม่สบายใจ
พอมาทำงานก็ “ไม่มีความสุข หมดสนุกกับงาน เบื่อหน่ายชีวิต”
ผมว่าคนที่ “เจอตัวเอง” เร็วนี่เขาโชคดีมากเลยทีเดียวครับ เพราะไม่ต้องเสียอะไรหลาย ๆ อย่างเช่น
ไม่ต้องเสียเวลาเรียน ทั้งเรียนหลัก และ เรียนพิเศษ
ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทดลอง ทำโน่น ทำนี่ หาว่าใช่ตัวเองหรือเปล่า
ไม่ต้องเสีย “ความสุข” ที่ต้องพยายามค้นหาแต่มันไม่ใช่เสียที
อย่างผมเองก็มีประสบการณ์นี้เช่นกันครับ ผมชอบเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี วิศกรรม เลยเลือกเรียนทางด้านวิศวอิเล็กทรอนิกส์ จบมาก็มีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องนะครับ คือทำเรื่องออกแบบระบบควบคุมเครื่องจักรใช้ความรู้เต็ม ๆ แต่ทำได้สัก 2 ปีก็กลับมารู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบ ไม่ใช่เสียแล้ว !!! เพราะการที่ต้องนั่งเขียนโปรแกรมอยู่เป็นวัน ๆ ไม่ได้หลับได้นอนนี่รู้สึกว่าไม่ใช่ชีวิตหละ
ที่หนักไปกว่านั้นคือ เราเขียนโปรแกรมบ่อยครั้งมากที่ Loop (คือวิธีคิดอะไรบางอย่างเพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์) ของการเขียนโปรแกรมมันไม่จบ มันค้างอยู่ในหัว วันไหนนอนหลับถึงกับฝันเพ้อไปก็มี
บางคืนนอนหลับตาแต่สมองยังทำงาน คิดได้ว่าต้องแก้ปัญหา Loop นี้อย่างไรต้องรีบลุกขึ้นมาเขียนโปรแกรมนั้นเพื่อให้ได้ ถ้ามันได้ก็โชคดี ถ้าไม่จบก็นอนไม่หลับอีก
ผมไม่ได้บอกว่าการเป็นโปรแกรมเมอร์ไม่ดีนะ ดีมากครับ เพราะทำให้เราได้คิดอะไรเยอะแยะมากมาย ได้สร้างสรรค์ผลงานอะไรให้พวกเราใช่กัน
พอเรารู้ตัวว่าไม่น่าจะใช่…มันก็มักจะเกือบสายไปทุกที ! จะหางานใหม่ในงานอื่นก็ยาก จะลุกมาลุยธุรกิจเหมือนตอนนี้อะไรมันก็ไม่เอื้ออำนวย ก็คงต้องซวยก้มหน้าก้มตาทำงานและค้นหาสิ่งที่ใช่กว่าสำหรับตัวเองครับ แต่สุดท้ายผมก็เจอในสิ่งที่ผมคิดว่าใช่ (สำหรับตอนนี้) แล้วนะครับ
ผมถึงบอกไงครับว่าใครที่ “เจอตัวเองเร็ว” คนนั้นโชคดีมากครับ
จะทำอย่างไรให้เรามีโอกาสค้นหาศักยรูป หรือ ศักยภาพในตัวเราแต่เนิ่น ๆ
จะทำอย่างไรให้เราได้เข้าใกล้สิ่งที่เรารัก ตั้งแต่เรายังพอมีเวลาปรับตัวเรื่องการเรียน การทำงาน
เรื่องเหล่านี้มีการศึกษากันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ในการใช้คำถามเชิงจิตวิทยา เพื่อพยายามเค้นคำตอบจากตัวเราแล้วนำมาประมวนว่าเราน่าจะเป็นตนแบบไหน และน่าจะทำมาหากินอะไรให้ได้ผล มีจุดดีจุดด้อยอะไรที่ควรแก้ไข
นอกจากนี้ยังมีการแบ่งประเภทคนตามวันเกิด ตามธาตุเกิด ตามราศี กรุ๊ปเลือด ฯ ซึ่งก็พอจะอนุมานได้ว่ามีการเก็บสติแล้วถ่ายทอดเป็นตำรา ๆ ต่อกันมา ข้อมูลที่ได้เมื่อนำมาเปรียบเทียบและไกด์ให้เบื้องต้นว่าแต่ละคนที่อยู่ตามวันเกิด ธาตุเกิด หรือ กรุ๊ปเลือด มีนิสัยอะไรอย่างไร และควรเรียนอะไร ทำอาชีพอะไร เรื่องพวกนี้ส่วนตัวผมเองพยายามพอเป็นเรื่องของหลักวิทยาศาสตร์ สถิติ มากกว่าการมองเป็นเรื่องของการเป็นหมอดู หมอเดาที่นั่งใต้ต้นมะขาม ทั่วๆไปครับ
ยังมีอีกศาสตร์ที่น่าสนใจทีเดียว ตัวผมเองก็ได้ลองพิสูจน์กับตัวเอง และนำลูก ๆ ไปใช้บริการ ซึ่งสิ่งที่ผมพูดถึงก็คือการ “สแกนวิเคราะห์ลายนิ้วมือ”
ต้องบอกว่าก่อนที่ผมจะใช้บริการ “วิเคราะห์ลายนิ้วมือ” ผมทำการบ้านพอสมควรครับ เพราะผมพยายามมองเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ งานทางด้านวิศวกรรมอย่างที่บอกนะครับ ความถูกต้องแม่นยำในเรื่องพวกนี้ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลที่มากพอจึงจะพอทำนายได้ว่าคนที่มาวิเคราะห์นั้นน่าจะเป็นคนประเภทไหน ความชอบความถนัดเขาเป็นอย่างไร
หลังจากมั่นใจผมพาลูกไป “สแกนวิเคราะห์ลายนิ้วมือ” และฟังคำวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์โดยที่ผมพยายามตั้งป้อมไว้ก่อนเพื่อที่จะดูสิว่าสิ่งที่นักวิเคราะห์นั้นเขา ได้ผลการสแกนลายนิ้วมือของลูกผมไปดูแล้วเขารู้จักลูกผมเหมือนที่ผมรู้จักหรือเปล่า
เวลาร่วม 3-5 ชั่วโมงกับการนั่งคุยเรื่องของลูก 3 คนปรากฏว่า กว่า 80% ที่นักวิเคราะห์พูดถึงความถนัดพื้นฐานลูกผมแต่ละคนโดยอาศัยปัจจัยการสแกนลายนิ้วมือที่มีส่วนเชื่อมโยงกับระบบประสาทและสมองของคนเราทั้ง 10 นิ้วมาตีแผ่ออกมา แล้วใช้คอมพิวเตอร์คำนวณออกมาเป็นตัวเลขปัจจัยค่าต่างๆ นั้นเป็นเรื่องของ “พื้นฐานลูกผมจริงๆ”
เมื่อได้ผลการวิเคราะห์ของลูก ๆ ผมก็ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูลูกครับ ปกติผมเลี้ยงลูกโดยใช้มาตรฐาน “ไม้บรรทัด” เดียวกัน ให้เหมือนกัน สิทธิ์เหมือนกัน ทุกอย่างเท่ากันเป็นไม้บรรทัด แต่สิ่งที่ประสบคือ ยิ่งเราให้เหมือนกันเท่าไหร่ลูกค้าดูอึดอัดมากเท่านั้น เราเองก็พลอยเครียดไปด้วย
หลังจากวันนั้นผมใช้วิธีแทนที่จะใช้ “ไม้บรรทัด” อันเดียวจากผม ก็เปลี่ยนเป็น “ลูกแต่ละคน” มีไม้บรรทัดเป็นของตัวเอง เขามีพื้นฐานพัฒนาการและศักยภาพเบื้องต้นเป็นของเขาหน้าที่เราคือ “ส่งเสริม” ในชุดที่เขาแข็งแรง ลูกคนไหนเขาชอบอะไรผมใส่ให้เขาเต็มที่ ชอบร้องเพลงก็ส่งเสริมให้ร้องเพลง คนไหนชอบรำก็ให้รำ คนไหนชอบศิลปะก็ให้เรียนให้เล่นศิลปะ ลูกมีความสนุกและมีความสุขมากขึ้น เราเองก็เลยสบายใจมากขึ้นทีเดียว
ที่ผมเล่ามานี้อยากจะบอกน้อง ๆ ในวัยเรียนที่กำลัง “ครุ่นคิด” ว่าตัวเองชอบอะไร แบบไหน หากหาคำตอบไม่ได้ผมว่าการใช้ “วิทยาศาสตร์” เข้ามาช่วยอาจจะทำให้เราเจอ คำตอบอะไรบางอย่างโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาจนเกินไปนะครับ
ส่วนพ่อแม่ที่มีลูก ๆ ผมเชื่อว่าความสุขของพวกเราย่อมเกิดจากความสุขของลูก ๆ เป็นสำคัญ ถ้าการบังคับลูกให้เรียน ให้ติว ให้เป็นโน่นเป็นนี่ อย่างที่เราอยากให้เป็น ผมไม่รู้ว่าความสุขนี้มันเป็นของเราหรือของลูกนะครับ การวางสิ่งที่เราอยากให้เขาเป็น ลองมาตั้งคำถามว่า “ลูกอยากเป็น” ผมเชื่อว่าความสนุกและความสุขมันเกิดขึ้นในครอบครัวอย่างแน่นอน การลอง “สแกนลายนิ้วมือ” เพื่อมาช่วยลูก ๆ ค้นหาสิ่งที่เขา “ควรจะเป็น” แล้วเรารีบส่งเสริมเขาตั้งแต่เรายังมีแรงน่าจะเป็นอีก 1 ทางเลือกนะครับ
ผมเชื่อว่าหลายคนอ่านบทความนี้แล้ว เฮ่ย !!! งมงายหรือเปล่า ผมอยากให้เพื่อน ๆ ลองคิดดูเรื่องเทคโนโลยีให้มากๆ นะครับ เดี๋ยวนี้อะไรต่อมิอะไรมันทำแทนเราได้แทบทุกอย่างนะครับ แม้แต่มือถือที่คุณถืออ่านบทความนี้อยู่เมื่อก่อนความสามารถมันขนาดไหน แล้วตอนนี้มันไปขนาดไหนแล้ว บางคน lock เครื่องโดยใช้ลายนิ้วมือสแกนนะครับ ทำไมระบบมันถึงรู้ว่าลายนี้ของใคร…
แล้วทำไมการสแกนลายนิ้วมือ จึงเป็นเรื่องงมงายสำหรับคุณหละครับ !!! แต่ผมจะไม่ขุดประเด็นนี้ขึ้นมาถกเถียงกันนะครับ แค่อยากให้ลองหาข้อมูลและลองจินตนาการตามที่ผมได้เกริ่นนำไปเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีขั้นต้นครับ
มาถึงตอนนี้ อาชีพหรือธุรกิจไหนที่เหมาะกับตัวเรา ? คงจะยังไม่ใช่คำตอบว่าทำอะไรแล้วรวยร้อยล้านพันล้านหละครับ ผมว่าการที่เราได้ “ค้นพบศักยภาพ” เราได้ “ค้นหาความถนัด” และทำให้เราได้มีโอกาสพบ “สิ่งที่เรารัก” น่าจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ “อาชีพที่เหมาะสม” สำหรับเราครับ
อาชีพอะไรที่เราทำแล้วมีความสุข น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ถูกทางของ “การใช้ชีวิต” ครับ
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME