ธุรกิจน้ำหอมยังคงเป็นธุรกิจที่มีภาพรวมที่สดใสในปี 2564 ที่จะถึงนี้ครับ ผลสืบเนื่องที่ทำให้ธุรกิจน้ำหอมยังคงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถไปได้นั่นก็เพราะความเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มความสวยความงาม ซึ่งตลาดนี้ไม่ว่าสภาวะของเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็แทบจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดในกลุ่มนี้เลย ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงเห็นผู้เล่นมากมายที่เข้ามาสู่แวดวงของธุรกิจน้ำหอมทั้งการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเองรวมไปถึงการรับแบรนด์น้ำหอมเพื่อจำหน่ายต่อในแต่ละช่องทางครับ แต่กระนั้นหากใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่มีแบรนด์เป็นของตนเองในตลาดน้ำหอมก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อควรระวังบางประการเอาไว้ให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อให้คุณสามารถทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นนั่นเอง ข้อควรระวังในการทำแบรนด์น้ำหอมมีอะไรบ้าง
บทความนี้นำคำแนะนำดีๆ จาก คุณ ฤทัยรัตน์ ประสมทรัพย์ เจ้าของแบรนด์น้ำหอมกัลยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำแบรนด์น้ำหอม มาบอกถึงข้อควรรู้ควรระวังในการทำแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเอง
1. น้ำหอมคือเครื่องสำอางประเภทหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องจดทะเบียนให้ถูกต้อง
น้ำหอมถือเป็นเครื่องสำอางตามพรบ.เครื่องสำอางปี พ.ศ. 2558 ดังนั้นผู้ที่คิดจะทำแบรนด์น้ำหอมเป็นของตนเองจึงจำเป็นต้องจดแจ้งขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางให้ถูกต้องน้ำหอมที่ถูกต้อง โดยผู้ที่มีหน้าที่ต้องจดแจ้งเลขทะเบียนเครื่องสำอางสำหรับน้ำหอมก็คือผู้ที่เป็นเจ้าของ แลปที่ทำหน้าที่พัฒนากลิ่นหรือตัวโรงงานที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำหอมครับ โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการจดทะเบียนมีดังต่อไปนี้
– ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา: จะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านรวมไปถึงหนังสือยินยอมของผู้ที่เป็นเจ้าของแบรนด์
– ในกรณีที่เป็นห้างร้าน บริษัท นิติบุคคล: จะต้องเตรียมหนังสือรับรองของคณะกรรมการที่มีหรือไม่มีตราประทับก็ได้ รวมไปถึงสำเนาบัตรประชาชนของคณะกรรมการและสำเนาเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการตามที่ต้องใช้ในการจดทะเบียน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแผนที่ของสำนักงาน บริษัทที่ตั้งและหนังสือยินยอมเพื่อให้โรงงานหรือแลปไปขอจดแจ้งที่องค์การอาหารและยา
โดยการจดแจ้งนั้นสามารถจดแจ้ง 1 เลขทะเบียนต่อ 1 แบรนด์แต่สามารถใช้กับหลายกลิ่นที่แบรนด์นั้นครอบครองหรือบางที่อาจยื่นจด 1 เลขโดยใช้ได้กับ 1 กลิ่นที่ผลิตเท่านั้นซึ่งก็เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างแบรนด์กับแลปหรือโรงงาน
2. ต้องเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย
หน้าที่ในการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองชาวไทยและผู้ประกอบกิจการในราบอาณาจักรทุกคนครับ สำหรับธุรกิจแบรนด์น้ำหอมเองไม่ได้เป็นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นในการเสียภาษีดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นต้องยื่นเสียภาษีตามที่ทางกฎหมทยกำหนด สำหรับภาษีที่ต้องยื่นสำหรับแบรนด์น้ำหอมมีดังต่อไปนี้
– ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา: หากคุณไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเป็นบริษัทห้างร้าน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือภาษีที่คุณจำเป็นต้องเสียในแต่ละปีภาษีครับ แต่กระนั้นก็มีหลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีมากมายที่คุณต้องศึกษาเพื่อลดหย่อยภาษีได้เช่นกัน
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม: ในกรณีที่คุณมียอดขายสินค้าเกินกว่า 1.8 ล้านบาท/ปี คุณมีหน้าที่ต้องจดแจ้งเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มครับ
– ภาษีสรรพสามิตร: ธุรกิจน้ำหอมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทางกฎหมายกำหนดเอาไว้ให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตร ซึ่งคุณไม่ควรละเลยในจุดนี้อย่างเด็ดขาดเพราะจะมีความผิดตามที่กฎหมายกำหนดครับ
3. ระวังการโฆษณาเกินจริง
การโฆษณาเกินจริงมีความผิดตามกฎหมายครับ เช่นหากโฆษณาว่ากลิ่นหอมของน้ำหอมติดทนนานแต่ภายหลังกลับพบว่าสิ่งที่โฆษณาไม่เป็นไปตามที่บอก ดังนั้นคุณจำเป็นต้องแจ้งตามความเป็นจริงเสมอ แต่หากคุณอยากให้น้ำหอมของคุณมีกลิ่นที่ติดทนนานคุณอาจต้องเพิ่มปริมาณของหัวเชื้อน้ำหอมที่ใช้ในการผสมน้ำหอมครับ
4. ห้ามบอกว่าน้ำหอมของคุณไม่ทำให้เกิดการแพ้
เพราะการแพ้น้ำหอมหรือเครื่องสำอางทุกประเภทจะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิวและความทนทานของแต่ละคน ดังนั้นคุณห้ามอวดอ้างว่าน้ำหอมของคุณไม่ก่อให้เกิดการแพ้อย่างเด็ดขาด และไม่ควรดึงดันเสนอที่จะขายสินค้าทั้ง ๆที่รู้ว่าลูกค้าอาจจะแพ้ แต่ต้องให้ลูกค้าได้ลองเทสก์ก่อนและให้เขาเป็นผู้ตัดสินใจซื้อในภายหลังครับ
5. อย่าโกหกลูกค้าโดยเด็ดขาด
ธุรกิจใดที่เริ่มต้นด้วยคำโกหก ท้ายที่สุดธุรกิจนั้นก็จะไปไม่รอด ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราขายน้ำหอมได้อย่างต่อเนื่องเราต้องพูดความจริงกับลูกค้าครับ เพราะคำพูดของเราคือคำมั่นสัญญาต่อลูกค้า ลูกค้าจะเชื่อถือคำพูดของเจ้าของแบรนด์หรือผู้ขายหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเราบอกความจริงกับลูกค้าหรือเปล่า หากเราพูดแต่ความจริงและลูกค้ารับรู้ความจริงผ่านสินค้าท้ายที่สุดพวกเขาก็จะเชื่อมั่นและพัฒนาจนกลายเป็นความภักดีต่อแบรนด์ได้ในที่สุด
6. ภาพรวมของแบรนด์เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสินค้าที่จะออกมา
โลโก้ สี กลิ่น แพคเกจ คือภาพรวมของแบรนด์ที่จะปรากฏต่อสายตาของลูกค้า เราต้องจินตนาการถึงภาพของแบรนด์ออกมาให้ได้ว่าเราต้องการให้แบรนด์เป็นไปในทิศทางใด เช่นถ้าเปรียบภาพแบรนด์เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย 1 คน เราต้องทำให้ออกมาเป็นเช่นนั้นให้ได้แล้วทดสอบว่ากลิ่นที่เราเลือกนั้นตรงกับภาพที่เราจินตนาการออกมาหรือเปล่า เราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาต้องมาซื้อน้ำหอมของเราเพราะภาพรวมของแบรนด์นั้นตอบโจทย์ของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นกลิ่น แพคเกจ รูปแบบขวดก็ตาม สิ่งเหล่านี้เราต้องทำแบรนด์ดีไซน์ออกมาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุดครับ
ทั้ง 6 ข้อนี้ก็คือข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ต้องการทำแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเองต้องคำนึงถึงก่อนเสมอหากคิดจะทำแบรนด์น้ำหอมเป็นของตนเองครับ หากคุณระมัดระวังทุกข้อแล้วแบรนด์น้ำหอมที่คุณสร้างก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
สำหรับท่านที่ต้องการมีแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามปรึกษาเพิ่มเติม คุณ ฤทัยรัตน์ ประสมทรัพย์ เจ้าของแบรนด์น้ำหอมกัลยา ได้ที่นี่
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME