เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกับแพลตฟอร์มที่ถูกเรียกว่า Marketplace หรือแหล่งรวบรวมพ่อค้าแม่ค้าในโลกออนไลน์กันมาแล้ว แพลตฟอร์มในลักษณะนี้เปรียบเสมือนสื่อกลางที่ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้มาเจอกันนั่นเอง แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งที่โซเชียลแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Facebook ก็เริ่มผันตัวเองมาเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Marketplace กับเขาด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ดีครับ การจะสร้างยอดขายให้ปังบนแพลตฟอร์ม marketplace อย่าง Facebook มีเทคนิคอย่างไร มีคำแนะนำดีจากบทสัมภาษณ์ คุณมนัญชัย จิตรชื่น (ชัยชิค) มาแบ่งปันกับทุกท่าน

Facebook Marketplace คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร

หากจะพูดถึงสาเหตุโดยตรงที่ทำให้ facebook ผันตัวเองมาเป็น marketplace ก็คงต้องบอกว่าสาเหตุหนึ่งมาจากที่การค้าออนไลน์ในปัจจุบันมีการขยายตัวมากขึ้นจนอาจจะเรียกได้ว่าโลกของเราเข้าสู่วงการการค้าออนไลน์อย่างแทบจะเต็มตัวครับ จริงอยู่ที่ว่าการค้าออฟไลน์ของหน้าร้านยังคงมีอยู่ แต่การซื้อสินค้าออนไลน์กลับเพิ่มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อีกปัจจัยหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญก็คือในระยะหลังหลาย ๆระบบปฏิบัติการต่างมองถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น การแชร์ข้อมูลและการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปทำบางสิ่งบางอย่างนั้นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนครับ ซึ่งโมเดลธุรกิจของ Facebook เองต้องพึ่งพาอาศัยข้อมูลเหล่านี้ไม่น้อย เมื่อนโยบายความเป็นส่วนตัวมีความเข้มข้นขึ้น ทาง facebook จึงเริ่มพัฒนาให้โซเชียลแพลตฟอร์มของตนให้กลายเป็น Marketplace เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ facebook ในการทำธุรกิจออนไลน์ครับ

เหตุใด Facebook marketplace จึงมีความน่าสนใจ

สาเหตุหลัก ๆที่ทำให้ facebook marketplace มีความน่าสนใจย่อมหนีไม่พ้นจากการที่โซเชียลแพลตฟอร์มชนิดนี้เป็นช่องทางที่มีผู้ใช้งานเป็นอันดับ 1 ของโลกซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จากข้อมูลพบว่าคนไทยเองใช้งาน facebook ในแต่ละวันสูงเป็นอันดับ 1 ตลอดมาโดยที่ยังไม่มีช่องทางโซเชียลอื่นใดจะสามารถล้มสถิติได้ นอกเหนือจากจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากแล้วอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ facebook marketplace มีความน่าสนใจมากอีกอย่างหนึ่งก็คือข้อมูลที่ว่าประเทศไทยมีมูลค่าการค้าออนไลน์ที่สูงถึงกว่า 6 แสนล้านบาทซึ่งเฉพาะใน social commerce ก็มีมูลค่าถึงกว่า 3 แสนล้านบาทครับ นอกจากนี้อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจก็คือคนไทยมีสัดส่วนของการซื้อสินค้าออนไลน์สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกถึง 74%

แม้จะอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่การค้าออนไลน์ยังคงเป็นอาชีพที่น่าสนใจ

แม้ว่าในขณะนี้ประเทศไทยยังคงอยู่ในวิกฤติของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ค้าออนไลน์เองก็ได้รับผลกระทบไปด้วยจนทำให้หลายคนเริ่มมองไปว่า การขายของออนไลน์อาจจะไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนตอนที่เกิดการระบาดในระลอกแรกอีกต่อไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสินค้าที่ได้รับผลกระทบจริง ๆมักจะเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยครับ แต่สินค้าที่อยู่ในกลุ่มของสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตยังคงขายได้ครับ ดังนั้นเราจึงพอสรุปได้ว่าด้วยสถานการณ์เช่นนี้คนจะเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นโดยจะหลีกเลี่ยงสินค้าที่คิดว่าไม่จำเป็นก่อนเพื่อเก็บเงินและจะซื้อหาแต่สินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น

4 ขั้นตอนขายของใน Marketplace Facebook ให้ยอดขายโต

1.ต้องสร้างความแตกต่างตั้งแต่การเลือกสินค้า

จุดอ่อนหนึ่งของการทำการค้าออนไลน์ที่ทำให้ผู้ขายมักจะไม่ประสบความสำเร็จก็คือ เรามักจะเลือกสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาดมาขาย การเลือกสินค้าเช่นนี้จะยิ่งทำให้เราต้องเจอกับคู่แข่งขันที่เยอะมากและทำให้การค้าของเราไม่ประสบความสำเร็จครับ ในทางกลับกันหากคุณเลือกสินค้าที่มีความแตกต่าง มีความเฉพาะกลุ่มมากขึ้นหรือมีคู่แข่งน้อย จะทำให้สินค้าของคุณขายได้ นอกจากนี้คุณอาจจะปรับเปลี่ยนวิธีการขาย วิธีการนำเสนอเช่นจัดขายเป็นชุด หรือพ่วงคำแนะนำบางอย่างก็จะทำให้สินค้าของคุณมีโอกาสขายได้เช่นกันเพราะลูกค้าจะไม่ได้ซื้อแต่สินค้าแต่จะมองหาการบริการจากคุณครับ

นอกจากนี้คุณอาจเลือกหาสินค้าที่เป็นกระแสมาขายได้เช่นกัน แต่วิธีการนี้คุณจำเป็นต้องเช็คกระแสอยู่เสมอว่าตลาดต้องการสินค้าประเภทไหนและตัวสินค้าที่คุณกำลังขายอยู่มีแนวโน้มเป็นเช่นไร ซึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณมองหาสินค้าได้ง่ายขึ้นก็เช่น Google trend รวมไปถึง Ubersuggest ที่จะให้คุณมองหาเทรนด์ของสินค้าที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น

ขณะเดียวกันคุณจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรม ความชอบของกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มต่าง ๆครับ เพราะสินค้าที่ขายดีในแพลตฟอร์มหนึ่งก็อาจจะขายไม่ได้ในอีกแพลตฟอร์มเลย เพราะพฤติกรรมความชอบของผู้ใช้ในแต่ละแพลตฟอร์มไม่เหมือนกันนั่นเอง อย่างเช่นในแพลตฟอร์ม marketplace ลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไปในกลุ่มวัยทำงานและสินค้าในกลุ่มของใช้จะขายดีกว่าสินค้าแฟชั่นครับ

2.ข้อเสนอต้องโดนใจที่ไม่ใช่การตัดราคา

ข้อเสนอที่โดนใจต้องไม่ใช่การตัดราคาขายแข่งกับคู่แข่งครับ เพราะนอกจากจะทำให้ราคาสินค้าโดยรวมแย่ลง ในระยะยาวจะทำให้ทั้งคุณและคู่แข่งอยู่ไม่ได้ พึงระลึกไว้เสมอครับว่าสินค้าที่ดีไม่จำเป็นต้องขายถูกเสมอไป แต่เราต้องเสนอความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของเรามีความคุ้มค่าหรือช่วยตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการจัดเซ็ทของสินค้าที่เข้าพวกกัน การยื่นข้อเสนอเช่นการจัดส่งฟรี การรับประกันความพึงพอใจ การยินดีคืนเงินหรือบริการเก็บเงินปลายทางครับ การยื่นข้อเสนอที่โดนใจให้แก่ลูกค้าท้ายที่สุดเมื่อเขาเห็นว่าสินค้าของเรามีความคุ้มค่า คุ้มราคาที่เขาต้องจ่ายพวกเขาก็จะไม่มองเรื่องราคามาเป็นสิ่งเปรียบเทียบครับ

3.อย่าขายสินค้าให้เป็นสินค้า แต่จงทำให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้าของเราช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้

วิธีการขายสินค้าที่เป็นความผิดพลาดมากที่สุดก็คือการขายโดยการระบุแต่สเปคของสินค้าเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจปัญหาของลูกค้าเลย การขายสินค้าในลักษณะนี้แทบไม่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าครับ เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจเลยว่าสินค้าของคุณจะมีสเปคเทพขนาดไหน หรือผลิตมาจากอะไร มีกรรมวิธีการผลิตอย่างไร แต่พวกเขาจะให้ความสนใจต่อสินค้าที่บอกกับพวกเขาได้ว่าสินค้านี้ช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไร หากคุณชี้ให้เห็นได้ว่าเหตุผลอะไรที่ลูกค้าต้องซื้อสินค้าชิ้นนี้ และมันตอบโจทย์พวกเขาอะไรบ้าง ลูกค้าก็ยินดีที่จะจ่ายเพื่อซื้อวิธีการแก้ปัญหาจากคุณครับ

4.ทำรูปภาพให้น่าสนใจ

ในการซื้อขายสินค้าบนช่องทาง marketplace สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างแรก ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจเข้ามาดูรายละเอียดภายในก็คือ รูปภาพประกอบสินค้า เพราะในช่องทางการค้าออนไลน์รูปภาพคือตัวแทนของสินค้าครับ คุณจำเป็นต้องลงรายละเอียดที่สำคัญให้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น สินค้านี้คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับสินค้าของเจ้าอื่น ๆ คุณมีข้อเสนออะไรบ้างและที่สำคัญคือราคาเท่าไหร่ หากคุณสามารถระบุรายละเอียดเช่นนี้ได้ในรูปสินค้า ก็มีโอกาสสูงมากที่ลูกค้าจะเข้ามาดูรายละเอียดของสินค้าของคุณครับ

ขายของใน Marketplace Facebook ยังคงเปิดกว้างและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ค้ารายย่อยครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะรายใหญ่ยังมีข้อจำกัดหลายประการที่จะลงมาเล่นในสมรภูมินี้ แต่สิ่งที่ผู้ค้ารายย่อยยังคงต้องปรับจะอยู่ในเรื่องของ การสร้างคอนเทนต์ที่จะทำอย่างไรจึงจะดึงดูดใจลูกค้า หากรายย่อยสามารถปรับในเรื่องของการทำคอนเทนต์ได้ คุณจะมีโอกาสสร้างรายได้มหาศาลบนแพลตฟอร์ม Facebook marketplace ได้อย่างแน่นอน