เป็นเวลากว่า 78 ปีที่ใบกระท่อมถูกควบคุมและถูกตราไว้ในบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ปลูก ซื้อขายรวมไปถึงการใช้ใบกระท่อมในรูปแบบต่าง ๆ มีความผิดตามกฎหมาย แต่ภายหลังที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 8 พ.ศ. 2564 ในวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาเพื่อปลดล็อกใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ส่งผลให้คนไทยสามารถปลูก ครอบครอง ซื้อขายและบริโภคได้อย่างเสรี จึงมีการคาดการณ์กันว่ากระท่อมกำลังจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนเริ่มมีแนวคิดที่จะพัฒนาธุรกิจโดยการนำกระท่อมมาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งหากสำเร็จก็สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้อย่างมหาศาลเพราะกระท่อมมีตลาดทั้งในและนอกประเทศรองรับโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาหรือแม้กระทั่งในฟากฝั่งของยุโรปเอง ในบทความนี้เราจึงทำการรวบรวมข้อมูลของธุรกิจที่มีความเป็นไปได้สูงหลังการปลดล็อกกระท่อมเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้พิจารณาและนำไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง

ทำความรู้จักกับกระท่อม พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่หลายคนกำลังจับตามอง

กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง ที่พบได้ในบางส่วนของภาคกลางแต่จะพบได้มากในพื้นที่ภาคใต้ของไทย โดยในสมัยโบราณกระท่อมถูกนำมาใช้ในตำรับยาแก้ท้องเสีย ท้องเฟ้อ ท้องร่วง แก้อาการปวดเมื่อย ทำให้นอนหลับและมีฤทธิ์ในการระงับประสาท โดยวิธีการใช้ที่ชาวบ้านนิยมมากที่สุดคือการนำใบสดมาเคี้ยวเพื่อทำให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกหิว และกดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงานได้ ทำให้ผู้ที่เคี้ยวใบกระท่อมสามารถทำงานได้นานและทนแดดได้มากขึ้น

เมื่อนำกระท่อมมาวิจัยเพื่อหาสารออกฤทธิ์ในทางเภสัชศาสตร์เราพบว่า กระท่อมมีสารสำคัญที่เรียกว่า ไมทราไจนีน และ 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน ซึ่งมีฤทธิ์ระงับปวด รักษาอาการท้องเสีย ช่วยลดน้ำหนัก ต้านการอักเสบ ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ต้านอาการซึมเศร้าและช่วยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งนับได้ว่ากระท่อมเป็นอีกหนึ่งพืชที่มีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ในต่างประเทศเองก็มีการนำกระท่อมไปใช้เพื่อบำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยกระท่อมสามารถช่วยยับยั้งกลุ่มอาการถอนยาจากเอทานอล ลดอาการวิตกกังวลจากผู้ที่ถอนยาในกลุ่มของสารฝิ่นเป็นต้น

แม้จะปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดแต่ ขายกระท่อมถูกกฎหมาย ก็ยังถูกจำกัดในบางเรื่อง

แม้ว่าจะมีมติปลดล็อกกระท่อมออกมาทำให้สามารถซื้อขาย ปลูก ครอบครองกันอย่างเสรีแล้วก็ตาม แต่ทว่าก็กระท่อมก็ยังไม่ได้เสรีไปเสียทุกอย่างเพราะยังมีสิ่งที่กฎหมายเองยังห้ามเอาไว้อยู่ดังนี้

– หากจะนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562

– การจำหน่ายในลักษณะของการแปรรูปเป็นน้ำต้ม หรือนำไปประกอบอาหารหรือเป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆยังทำไม่ได้เพราะยังคงผิด พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522

– ยิ่งไปกว่านั้นหากนำกระท่อมไปเป็นส่วนผสมของสารเสพติดอื่น ๆ ก็ยังต้องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในอนาคตก็กำลังจะมีการไปแก้กฎหมายเพื่อให้ใบกระท่อมสามารถนำไปแปรรูปในเชิงธุรกิจในอนาคตต่อไป

8 ธุรกิจ ขายกระท่อมถูกกฎหมาย ที่น่าสนใจเมื่อทุกอย่างเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นในอนาคต

1. จำหน่ายใบสดและใบแห้ง

การจำหน่ายใบสดและใบแห้งเป็นรูปแบบธุรกิจดั้งเดิมที่ผู้ที่ปลูกกระท่อมรายย่อยสามารถทำได้เพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจนำกระท่อมไปแปรรูปเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อบริโภคในครัวเรือน ซึ่งการจำหน่ายใบสดหรือใบแห้งนี้ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูกเป็นอย่างมาก โดยมีการคาดคะเนกันว่ารายได้จากการปลูกและจำหน่ายใบกระท่อมนั้นสูงกว่าการปลูกและจำหน่ายยางพารานับสิบเท่า นอกจากนี้ชาวสวนกระท่อมยังสามารถปลูกระท่อมเพื่อส่งให้กับบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้แปรรูปกระท่อมเพื่อการส่งออกซึ่งได้ราคาดีและสร้างรายได้ให้กับชาวสวนอย่างมากเช่นกัน

2. เพาะเมล็ดและต้นกล้าเพื่อวางจำหน่าย

เมื่อกระท่อมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทำให้อีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตตามมาก็คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขยายพันธุ์และเพาะพันธุ์กระท่อมจำหน่ายทั้งในรูปแบบของเมล็ดพันธุ์และต้นอ่อน จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจในช่วงเวลาหลังการปลดล็อกกระท่อมใหม่ ๆ เช่นในช่วงนี้ ติดต่อซื้อ เม็ดกระท่อม ต้นกล้ากระท่อม ได้ที่นี่

3. แปรรูปเป็นน้ำกระท่อมพร้อมดื่มและเป็นวัตถุดิบในอาหาร

การแปรรูปน้ำกระท่อมเป็นเครื่องดื่มเพื่อจำหน่ายยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ แต่มีแนวโน้มว่าเมื่อกฎหมายในส่วนนี้ได้รับการปลดล็อก ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากใบกระท่อมเองก็จะได้รับความนิยมเช่นกันเพราะความต้องการบริโภคน้ำกระท่อมที่มากในกลุ่มผู้นิยมบริโภคกระท่อมนั่นเอง

เช่นเดียวกับการประกอบอาหารที่ทำจากใบกระท่อมหรือมีส่วนประกอบของกระท่อมเองที่แม้ว่าจะยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการแต่ก็เชื่อได้ว่าหากเมื่อไรที่มีการปลดล็อกในส่วนนี้ อาหารที่ทำจากกระท่อมหรือมีกระท่อมเป็นส่วนประกอบก็จะได้รับความสนใจไม่แพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของใบกัญชาหรือกัญชงอย่างแน่นอน

4. แปรรูปเป็นอาหารเสริม

ด้วยสรรพคุณบางอย่างของกระท่อมทำให้ในอนาคตเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระท่อมได้รับการปลดล็อกทั้งหมด การแปรรูปกระท่อมเป็นอาหารเสริมก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่สามารถส่งออกเป็นสินค้าส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่ต้องการอาหารเสริมจากกระท่อม

5. ผลิตเป็นยา

กระท่อมมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคอยู่หลายโรค ซ้ำยังเป็นพืชที่สามารถนำไปบำบัดอาการของผู้ที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดได้ ในอนาคตกระท่อมจึงมีโอกาสเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของยาที่ออกฤทธิ์ในการรักษาโรคได้ แต่ทั้งนี้กระท่อมก็ยังต้องได้รับการวิจัยอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต

6. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร

เช่นเดียวกับการนำไปผลิตเป็นยารักษาโรคแผนปัจจุบัน กระท่อมเองมีสรรพคุณและถูกนำมาใช้ในฐานะของพืชสมุนไพรมาก่อนที่จะถูกควบคุมด้วยบัญชียาเสพติด เมื่อปลดล็อกแล้วจึงเป็นโอกาสที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลติภัณฑ์สมุนไพรจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่แต่กระนั้นก็ยังคงต้องอยู่ภายใต้การขออนุญาตและภายใต้ พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562

7. กระท่อมผงและชากระท่อม

ในต่างประเทศมีการแปรรูปกระท่อมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้งานหรือนำไปบริโภคได้ง่ายขึ้นเช่นการสกัดเป็นผงกระท่อมหรือการนำไปสกัดเป็นชากระท่อมชงพร้อมดื่ม ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถนำกระท่อมไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดังกล่าวเพื่อส่งออกเป็นสินค้าส่งออกเพื่อสร้างรายได้กลับเข้ามาในประเทศได้ แต่ทั้งนี้ยังต้องอยู่ภายใต้การขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน

8. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

มีการคาดการณ์กันว่ากระท่อมสามารถเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่สามารถไปอยู่ในการทำแบรน์เครื่องสำอางได้ในอนาคต ซึ่งหากมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกระท่อมก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้มาก

แม้กระท่อมเองจะได้รับการปลดล็อกและเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจในอนาคตอันใกล้นี้ แต่เราก็ต้องย้ำเตือนกันอีกครั้งว่าผู้ประกอบการที่สนใจจะพัฒนากระท่อมไปในรูปแบบต่าง ๆ ยังคงต้องปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อนเพราะในช่วงแรกของการปลดล็อกนี้ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการอยู่เช่นกัน แต่ในอนาคตนั้นเมื่อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกระท่อมได้รับการแก้ไขทั้งหมดแล้ว ว่าที่พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่นี้เองจะสามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ที่มองเห็นและเริ่มลงมือทำได้อย่างแน่นอน