ธุรกิจของดอกบัวคู่เริ่มต้นจากห้างขายยาสมุนไพรเล็กๆ ที่ผลิตและจำหน่ายยาต่างๆ จากตำรับยาสมุนไพรประจำตระกูลที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ต่อมาเริ่มมีการทำวิจัยและพัฒนายาสมุนไพร เพื่อรักษาโรคในช่องปาก

ถ้าพูดถึงยาสีฟันสมุนไพร คงไม่มีใครไม่รู้จักยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่หรือ Twin lotus ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คงความเป็นธรรมชาติ และผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่ครองใจคนไทยมายาวนาน

จากร้านยาสมุนไพรสู่ยาสีฟันพันล้าน

ธุรกิจของดอกบัวคู่เริ่มต้นจากห้างขายยาสมุนไพรเล็กๆ ที่ผลิตและจำหน่ายยาต่างๆ จากตำรับยาสมุนไพรประจำตระกูลที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ต่อมาเริ่มมีการทำวิจัยและพัฒนายาสมุนไพร เพื่อรักษาโรคในช่องปาก โดยผนวกตำรับยาของตระกูลกับความเชื่อที่ว่า ธรรมชาติเต็มไปด้วยสิ่งดีๆมากมาย  จึงทำให้เกิดเป็นยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ ที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรไทยกว่า 10 ชนิด และเริ่มจำหน่ายยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่สู่ตลาดในปี พ.ศ.2532 เป็นครั้งแรก

เริ่มแรกยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ ยังไม่เป็นที่สนใจเนื่องจากสีของยาสีฟันเป็นสีดำ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าใช้ จึงต้องแจกยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ให้ทดลองใช้ เพื่อให้ประสบการณ์ตรงแก่ผู้ใช้ จนกระทั่งยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่เป็นที่แนะนำกันปากต่อปาก จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่เริ่มติดตลาดมากขึ้น ต่อมาจึงทำโฆษณาชุด “ดำแต่ดี” เพื่อเน้นย้ำให้ผู้ใช้รู้ถึงคุณสมบัติที่ดีของตัวสมุนไพรไทยกว่า10ชนิด ที่อยู่ในยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ มากกว่ารูปลักษณ์ของยาสีฟัน หลังจากปล่อยโฆษณาชุดนี้ ทำให้ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่มียอดขายพุ่งกระฉูดอย่างมาก จากนั้นดอกบัวคู่จึงพัฒนายาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่สูตรอื่นๆ เช่น ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่คิดส์กลิ่นส้ม ที่อ่อนโยนและป้องกันฟันผุสำหรับเด็ก หรือยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่เซนซิทีฟ ที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าของดอกบัวคู่

โตแล้วแตก ขยายเพื่อโตต่อ

ต่อมาจึงเริ่มแตกไลน์สินค้าเป็นกลุ่ม Personal care และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ทั้งโลชั่นดอกบัวคู่ที่เป็นกลุ่มดูแลผิว, เจลอาบน้ำดอกบัวคู่, สบู่ดอกบัวคู่ และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมดอกบัวคู่ ยิ่งไปกว่านั้น ดอกบัวคู่ยังต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป รังนกดอกบัวคู่ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “บุญ” ที่นำจุดเด่นของสมุนไพรแต่ละตัวมาเป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์

ดอกบัวคู่มีช่องการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดอกบัวคู่ที่หลากหลาย ทั้ง Modern trade ที่เป็นห้างสรรพสินค้าต่างๆ, Wholesales, Traditional trade รวมทั้งช่องทาง Online และทาง 24catalog กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอีกด้วย ทั้งยังขยายตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่ไปยังต่างประเทศ เช่น จีน, เวียดนาม, ลาว, พม่า, กัมพูชา, กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง, อิตาลี, อังกฤษ และอีกมากมาย ในรูปแบบทั้งการส่งออกและรับจ้างผลิต

มีแล้วแบ่ง มีกำไรแล้วให้ ตอบแทนชุมชน คืนกำไรให้สังคม

ดอกบัวคู่ไม่เพียงแต่ดำเนินธุรกิจเพียงเพื่อผลกำไรของบริษัทอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อคืนกำไรสู่สังคมอีกด้วย เช่น โครงการวิ่ง ก้าวด้วยธรรม ที่เป็นกิจกรรมเพื่อระดมทุนให้กับโรงพยาบาลต่างๆในไทยจำนวน 17 โรงพยาบาล ได้ยอดบริจาคสุทธิกว่าสิบห้าล้านบาท รวมทั้งยังมีกิจกรรม CSR สัญจรประจำเดือน ซึ่งเป็นโครงการคืนประโยชน์สู่สังคมของดอกบัวคู่ อย่างเช่น เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางดอกบัวคู่ได้มอบทุนการศึกษาและผลิตภัณฑ์ดอกบัวคู่กับนักเรียนโรงเรียนปากคลอง อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากวันที่เริ่มต้นเพียงแค่ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ จนมาสู่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่ที่หลายหลาก และกลยุทธ์ต่างๆที่ดอกบัวคู่ได้ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ในวันนี้ดอกบัวคู่เป็นธุรกิจที่มีรายได้กว่าพันล้าน และครองใจคนไทยมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

SME ผู้ที่ทำธุรกิจรายย่อย รวมทั้งคนทั่วไป ได้อะไรจากดอกบัวคู่

1.เปลี่ยนจุดอ่อนของตัวเองให้เป็นจุดแข็ง

จากกรณีสีของยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ที่เป็นสีดำ ซึ่งแลดูไม่น่าใช้ จนทำให้ช่วงแรกๆที่เปิดตัวไม่ได้รับความสนใจนั้น เกือบจะเป็นวิกฤตของดอกบัวคู่ แต่ดอกบัวคู่กลับชุคุณสมบัติความเป็นธรรมชาติ ไม่ฟอกสี และเน้นคุณสมบัติที่ดีของตัวสมุนไพรไทยต่างๆกว่า 10 ชนิดที่อยู่ในยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ มาเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งได้

2.เริ่มต้นจากสิ่งที่ถนัด แล้วค่อยต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่ตัวอื่นๆ

เริ่มต้นธุรกิจจากการทำยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่สูตรดั้งเดิม จนเป็นสินค้าที่ติดตลาด จากนั้นค่อยแตกไปสู่ยาสีฟันดอกบัวคู่สูตรอื่นๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่อื่นๆ

3.มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่หลากหลาย

เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้าถึงตัวผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่ได้ง่าย และสะดวกสบาย

4.มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย

แต่จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน และแตกต่างกันในแต่ละตัวผลิตภัณฑ์

5.มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรดอกบัวคู่อย่างต่อเนื่อง

มีการวิจัยและพัฒนาสม่ำเสมอ เพื่อเติมเต็มความต้องการใหม่ๆของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่เสมอ

6. เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรและคงความเป็นธรรมชาติไว้

จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรของดอกบัวคู่ได้เปรียบผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารเคมี เนื่องจากปัจจุบันผู้คนจำนวนมากหันมารักษาสุขภาพ และตระหนักถึงอันตรายจากสารเคมีมากขึ้น จึงทำให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติกันมากขึ้น

7.ทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม

ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับสังคม จึงทำให้มีโอกาสได้รับการสนับสนุนมากกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำอะไรคืนสู่สังคมเลย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไปต่อดอกบัวคู่ เนื่องจากกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม มีหัวใจหลักคือ รับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าผลประโยชน์ของบริษัท

จากดอกบัวคู่ สู่ธุรกิจเรา

จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเรา ที่จะต้องหาว่าอะไรคือจุดแข็งและจุดด้อยของผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อนำจุดแข็งมาพัฒนาต่อยอดแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์อื่น หรือแม้กระทั่งต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ และจับจุดด้อยมาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าพลิกจุดด้อยให้มาเป็นตัวชูโรงได้อย่างดอกบัวคู่ ก็จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราแข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงจะต้องหา positioning ของผลิตภัณฑ์ให้เจอ เพื่อจะได้ดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของสินค้าอย่างแท้จริง อีกทั้งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่คาดไม่ถึง เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุด และเดินต่อไปได้ เฉกเช่นเดียวกับดอกบัวคู่

ที่มา

https://www.twinlotus.com

https://positioningmag.com/10903

https://www.smartsme.co.th/content/20011

http://www.kriengsak.com/issues/csr

https://mgronline.com/business/detail/9560000032903

http://longtunman.com/7716http://chinathaicham.org/2016/08/01/twin-lotus-group/

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนสร้างรายได้ออนไลน์ รุ่น 3”

คุณ สุชาดา พิชิตปรีชา
พนักงานบริษัท
ฝ่ายจัดซื้อ และวิเคราะห์ข้อมูล