มีใครไม่ใช้ Line แอพพลิเคชั่นกันบ้างคะ ยกมือขึ้น… ถ้ามี คงจะส่วนน้อยจริง ๆ ว่าไหมค่ะ (แต่ถ้าเป็นคุณลุงคุณป้า หรือคุณปู่คุณย่า อันนี้พอเข้าใจได้เราไม่ว่ากัน) แล้วเมื่อคนส่วนใหญ่เขาใช้กัน เราจะทำอะไรกับ Line แอพพลิเคชั่นได้บ้าง เพื่อให้เกิดเม็ดเงิน เรามีตัวอย่างของคำตอบ ไอเดียเล็ก ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเก่งอะไรมากมาย เทคโนโลยีก็ไม่ต้องเริด เราไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องของ Line แอพพลิเคชั่นใด ๆ เอาที่เราเล่นเป็นแค่นั้นพอค่ะ ขอแค่ความขยันและซื่อสัตย์ มา…มะ เรามาเริ่มกันเลย

1.ขายอาหารตามสั่งผ่าน Line Group (Line กลุ่ม)

อันนี้เหมาะมาก สำหรับใครที่มีแม่ที่ทำอาหารอร่อย อาหารคาวต่าง ๆ พวกน้ำพริก แกงต่าง ๆ ของหวานและขนมต่าง ๆ หรือจะเป็นเพื่อนบ้านก็ได้นะ เอาที่เราสะดวกในการรับสินค้า แต่ใช่ว่าจะจำกัดอยู่แค่คนที่มีคนใกล้ตัวทำอาหารอร่อยเท่านั้น เพราะถ้าเราไม่มีจริง ๆ เราอาจจะมีแหล่งหรือร้านที่เรากินประจำและอร่อย ยิ่งเป็นร้านดังมีชื่อเสียง เรายิ่งจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าในไลน์แน่นอน เน้นของใช้ไปกินหมด ของที่ต้องสั่งกันเรื่อย ๆ หรือทุกอาทิตย์ แต่อาหารเป็นอะไรที่จับต้องได้ง่าย แต่ไม่ค่อยมีคนทำ ทุกคนจะมองกันไปที่ของหรู แบรนด์ดัง ของใช้จ่ายไกลตัว แต่ไม่ยักกะมีคนคิดถึงของง่าย ๆ ใกล้ตัวกันสักคน เฮ้ย!!!

สำหรับบางคนที่อาศัยอยู่คอนโด ห้องพัก บางครั้งจะไม่ค่อยสะดวกในการทำกับข้าว แม้จะมีร้านอาหารใกล้ ๆ บ้าน แต่ก็อาจจะเบื่ออาหารเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ใคร ๆ ก็อยากกินของแปลกใหม่อยู่เรื่อย ๆ ดังนั้น ช่องทางการมีรายได้จากจุดนี้ก็ไม่ได้ยากเลย เพราะเราไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหารใด ๆ เราแค่ซื้ออาหารตามที่ลูกค้าสั่ง ทุกครั้งเราจะส่งออเดอร์เข้าในไลน์กลุ่มว่าวันนี้เราสะดวกที่จะนำเสนออาหารอะไร

เริ่มแรก ตั้ง Line กลุ่มขึ้นมา เน้นเฉพาะคนที่เราสนิทหรือเชื่อใจได้ (หลังจากนั้น เพื่อนในกลุ่มของเรามักจะชักชวนเพื่อน ๆ ของเขาเข้ามาในกลุ่มอีกที เราก็จะได้ลูกค้าเพิ่มโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรมาก) การเลือกคนที่เรารู้จักหรือสนิท อย่างน้อย ๆ เราก็จะได้มั่นใจว่า ถ้าสั่งของกับเราแล้วเขาจะจ่ายเงิน เพราะเราต้องสำรองจ่ายก่อน (เลือกให้ดี ๆ ถูกคนด้วยนะคะ) เน้นการสั่งก่อนและค่อยทำ ทำตามจำนวนที่ลูกค้าสั่งเท่านั้น อาจจะเผื่อไว้เกินได้นิดหน่อย เราจะได้ไม่แบกรับต้นทุนจนเกินไป เอาเวลาที่เราสะดวกในการส่งของ ทำอาทิตย์ละครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบงานประจำ ทำต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนหมุนเวียน ให้เกิดความแตกต่าง ลูกค้าจะได้ไม่เบื่อ และสั่งกินได้เรื่อย ๆ

การทำ Line กลุ่มแบบนี้ เพื่อน ๆ สามารถประยุกต์ปรับให้เหมาะสมกับเราก็ได้นะ บางคนชอบต้นไม้ ชอบไปเดินตลาดต้นไม้ มีรถขนส่งเราก็อาจจะตั้งกลุ่มต้นไม้ และถามเพื่อนในกลุ่มว่ามีใครสนใจบ้าง บวกราคาพร้อมส่ง เราก็ได้ค่าต้นไม้ฟรีก็เป็นได้ และถ้ามีคนสนใจมากพอ ทริปการเดินเที่ยวของเราในวันนั้นอาจจะสร้างรายได้ให้เรามากกว่าการที่เรานั่งทำงานในออฟฟิศอีกน๊าาาา หรือถ้ายังหาไม่ได้จริง ๆ อีกก็ไม่เป็นไร สักวันเราคงจะได้ไปเที่ยว ไปตลาด ไปที่ไหนสักที่ ที่เราไปเจออาหารการกินที่อร่อย ของขึ้นชื่อตามแหล่งที่เราไปเที่ยว ปกติจะมีการซื้อมาฝากบ้าง แต่ถ้าเรามีการตั้งไลน์กลุ่มซื้อขายอาหารของกินขึ้นมา แทนที่เราจะต้องซื้อมาฝาก เราก็เปลี่ยนเป็นซื้อมาขายต่อ คิดในราคาพร้อมส่งอีกนิดหน่อย ยิ่งถ้าเราซื้อเยอะ รับรองขอต่อราคาแม่ค้าได้แน่ๆ ทีนี้ทริปเที่ยวของเรา ก็กลายเป็นทริปทำมาค้าขายไปด้วยในตัว แถมด้วยได้ค่าเดินทางอีกต่างหาก

คิดว่าไงกันบ้างค่ะ น่าสนใจใช่ไหมหละ รอไรหละ ลองเล๊ย !!

2.เป็นนายหน้าขายบ้าน หรือบ้านเช่า บ้านพักตากอากาศ

สิ่งที่เราต้องทำ เราแค่ต้องหาบริษัทที่ให้ค่านายหน้าหากเราแนะนำลูกค้าให้เขาได้ เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เราต้องเช็คให้มั่นใจก่อนที่เราจะทำการแชร์ให้เพื่อนใน Line ทุกคนมีเพื่อนหลากหลาย บางครั้งเราอาจจะได้ลูกค้าจากเพื่อนของเพื่อนอีกต่อ แชร์และอัพเดทเป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนรู้จักเราและรู้ว่าเราทำอะไร หากมีใครสนใจจะได้เกิดการบอกต่อ

เทรนการท่องเที่ยว พักผ่อนตามรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ราคาไม่แพงมาก บรรยากาศดี ๆ เป็นที่นิยมในช่วงวันหยุดยาว เราอาจจะติดต่อโดยตรงกับรีสอร์ทและตกลงคุยราคาค่าแนะนำ เพื่อเป็นตัวกลางในการจัดหาที่พักให้กับเพื่อน ๆ ตามแต่ความต้องการ เมื่อเรามีการบริการที่ประทับใจ เชื่อเถอะค่ะ ว่าจะต้องมีการบอกต่อ แค่นี้เราก็มีรายได้จากการแนะนำแล้ว โดยที่การบริการแบบนี้ เราไม่จำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายใด ๆ แถมเราสามารถทำควบคู่ไปกับงานอื่น ๆ ได้ตลอดเวลา

โดยส่วนมากการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เราจะได้ค่านายหน้าอยู่ที่ 3% ซึ่งมองดูอาจจะน้อยนิด แต่เราอย่าลืมว่าราคาค่าบ้าน ที่ดินต่าง ๆ ราคาซื้อขายจะอยู่สูงมาก เป็นหลักล้าน

เพราะฉะนั้น 3% ของ 1 ล้าน จะอยู่ที่ 30,000 บาท หรือแม้แต่ค่าเช่าที่พักในช่วงเทศกาล ทุกที่จะมีการปรับราคาขึ้น ถ้าหากเราได้ 3% ของราคาจ่ายจริง ราคาค่าเช่า 10,000 บาทต่อหนึ่งคืน เราจะได้ที่ 300 บาท โดยปกติลูกค้าต้องเช่าอย่างน้อย 2 คืนขึ้นไป ดังนั้นเราจะได้ 600 บาท เห็นไหมคะว่าถ้าเราขยัน หนทางรวยก็ไม่ไกลเกินไปนะ

3.หานักเรียนหรือลูกค้าให้กับเอเจ้นท์ซี่

หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับธุรกิจแบบนี้ ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากมาเรียนต่อต่างประเทศ จะด้วยเหตุผลอะไร ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจคะ ธุรกิจการบริการด้านการศึกษามีการแข่งขันที่สูง ทุกบริษัทต้องการจำนวนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ลูกค้าต้องการที่จะใช้บริการจากบริษัทที่คนรู้จักแนะนำ ถ้าเรามีการแชร์ในไลน์ของเราที่ส่วนใหญ่คือคนที่เรารู้จัก ลูกค้าจะเกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น และเกิดการแนะนำบอกต่อ

หน้าที่เราคือ ทำการศึกษาหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ติดต่อบริษัทที่เราสนใจและทำข้อตกลงให้ชัดเจนว่าเราจะได้ค่าแนะนำที่ราคาเท่าไหร่ต่อลูกค้าหนึ่งคน หากเป็นวีซ่านักเรียนที่เรียนยาวต่อเนื่องหลายปี ส่วนใหญ่ก็จะให้ค่าแนะนำไม่น้อยกว่า 3,000-5,000 บาทต่อลูกค้าหนึ่งคน หลังจากวีซ่าผ่าน คิดเล่น ๆ กันดูว่า ถ้าในหนึ่งเดือนเราแนะนำลูกค้า 3 คน และผ่านทั้งหมด เราจะได้เงินค่าขนมโดยที่เราไม่ต้องทำงานเหนื่อยมาก เป็นเงิน 9,000-15,000 บาท โอ้ยยยยย ฟินคะ แต่คะแต่ อย่าลืมขยันนะคะ

งานขายเป็นอะไรที่ใคร ๆ ก็ขายได้ ขอแค่ความรับผิดชอบ ความเชื่อสัตย์ เริ่มจากการขายอาหารก่อนเลย กลุ่มคนน้อย เราเลือกสมาชิกได้ว่าจะมีใครบ้าง ว่าแล้วเริ่ม… ลองกลับไปเปิดหน้าจอ Line แล้วลองไล่ดูสิค่ะ ว่ามีใครบ้างที่เรารู้จัก สนิทสนม และอยู่ใกล้ ๆ กัน อาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนข้างบ้าน หรือแม้แต่ลูกค้าที่เราติดต่องาน เลือกมาสัก 10-20 คนพอค่ะ อย่าเลือกเยอะ เดี๋ยวเราจะงงเองน๊าาา รวยแล้วอย่าลืมบอกต่อนะคะ

“รวยได้จาก Line แอพพลิเคชั่น ทุกครั้งที่เรากดไลค์กดแชร์”


บทความโดย ผู้เข้ารับการอบรมโครงการ “เปลี่ยน Content ให้เป็นเงิน รุ่น 1

คุณ นฤมล ชนะภัย (เหมียว)

www.facebook.com/AussieLivingLiveAsAussie