การทำธุรกิจถ้าไม่มีคนรู้จักสินค้าหรือบริการของเราก็ค่อนข้างลำบาก พอเจอกับวิกฤตโควิด-19 เข้าไป การจัดงานหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมากเป็นอันต้องยกเลิกไป เจ้าของกิจการที่ฝากความหวังไว้กับการออกงานอีเว้นต์หรือรอให้ศูนย์การค้า ตลาดนัดเปิดทำการ ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงรอไม่ได้อีกต่อไป เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็รอไม่ได้เช่นกัน ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น การไลฟ์สด หรือ Facebook  Live  เป็นวิธีที่นิยมอย่างมากในการขายออนไลน์ ผู้ขายกับลูกค้าได้พูดคุยกันแบบ Real time มาดูกันว่า มีเทคนิคใดบ้างที่จะช่วยให้การไลฟ์สดมีความน่าสนใจ และช่วยเพิ่มยอดขายออนไลน์ บทสรุปจากการสัมภาษณ์สดคุณเอ พศวัต เหลืองวิไล  วิทยากร นักการตลาด และ นักแสดง

 Facebook  Live  ช่วยเพิ่มยอดขายของออนไลน์ได้อย่างไร

การนำเสนอเพียงแค่รูปภาพกับตัวอักษร อาจไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับการขายของออนไลน์ เพราะธรรมชาติของคนเรา เมื่อต้องการซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง ก็ต้องการที่จะเห็นสินค้าจริง  อยากลองสัมผัสสินค้า เปรียบเทียบขนาด  สีของสินค้า และฟังก์ชั่นการใช้งาน นี่จึงเป็นข้อจำกัดของการนำเสนอขายสินค้าออนไลน์ผ่านทางภาพถ่ายและข้อความที่ปรากฏ จะเกิดอะไรขึ้น? หากรูปสินค้าไม่ดึงดูดความสนใจ คอนเทนต์ที่นำเสนอไม่โดนใจ มีคนคลิ๊กเข้ามาดูแล้วเลื่อนผ่านไป โดยไม่กลับเข้ามาดูซ้ำอีก การไลฟ์สดจึงเป็นช่องทางการขายออนไลน์ที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อ อุดรอยรั่วของข้อจำกัดในการซื้อสินค้าที่ไม่เห็นของจริง ในขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางในการสร้างยอดขายออนไลน์ ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้รู้ว่าลูกค้ามีผลตอบรับเป็นอย่างไร และสามารถเก็บข้อมูลไว้ทำ Facebook  Remarketing ได้ในภายหลัง

มือใหม่หัดไลฟ์สด 6 เทคนิค Facebook Live เพิ่มยอดขายออนไลน์ สร้างรายได้ยุค New Normal

1.Powerful

เมื่อมีคนเข้ามาดูไลฟ์สด สิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจให้ผู้ชมอยู่ต่อ นั่นคือ การสื่อสารอย่างมีพลัง ทั้งการใช้น้ำเสียง จังหวะในการพูด ท่าทาง และใช้สายตา คนพูดต้องมีพลังมากพอ เพื่อที่จะส่งต่อพลังไปยังผู้ชมได้ ดึงดูดให้ผู้ชมเกิดความสนใจในตัวเรา ยิ่งเป็นการพูดผ่านหน้ากล้อง ยิ่งต้องใส่พลังมากขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะเราไม่ได้นั่งอยู่หน้าผู้ชมแบบตัวเป็นๆ แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่หัดไลฟ์สด มักจะตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องควบคุมให้ได้ ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝนอยู่บ่อยๆ หากตัวเราเองไม่มีความน่าสนใจ แล้วใครจะมาสนใจดูเราไลฟ์สด

2.Real

เน้นความเป็นตัวตนของเรา เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย นอกจากสินค้าหรือบริการที่ดีแล้ว บางครั้งตัวตนของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ชมคาดหวังว่า ในโลกออนไลน์กับตัวจริงต้องเป็นแบบเดียวกัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีโอกาสไปเจอลูกค้าเมื่อไหร่ ในขณะที่ไลฟ์ควรสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง สร้างความเป็นเอกลักษณ์ในการไลฟ์ให้น่าติดตาม มีสไตล์การนำเสนอสินค้าที่ไม่ซ้ำใคร มีลูกเล่น สนุกสนาน มีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติถ้าเกิดความผิดพลาดนิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร ปล่อยผ่านไปบ้างก็ได้

3.Emotional

ไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการอะไรก็แล้วแต่ เหตุผลในการตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่ 20% อยู่ที่คุณสมบัติการใช้งาน ส่วนอีก 80% ตัดสินใจซื้อเพราะความรู้สึก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโฆษณาสินค้าหรือบริการที่มีการบอกเล่าเรื่องราว จึงเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมเป็นอย่างมาก และได้รับความสนใจจากคนส่วนใหญ่ เมื่อผู้ชมรู้สึกอินกับการขายหรือรีวิวสินค้าของเรา ก็จะทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ช่วยดึงดูดให้ผู้คนอยากที่จะดูไลฟ์จนจบ ซึ่งก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะชื่นชอบลีลาการไลฟ์สด

4.Trust

ความซื่อสัตย์เป็นจรรยาบรรณของคนขายของ การที่คนจะซื้อสินค้าหรือบริการ ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อใจ อย่างการไลฟ์สด เมื่อลูกค้าเห็นตัวตนของเรามาสักระยะหนึ่ง เห็นว่ามีการซื้อขายเกิดขึ้นจริง เห็นรีวิวของลูกค้าในทิศทางบวก ก็จะเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวสินค้าและคนขาย ในส่วนนี้ต้องใช้เวลาในการสะสมชื่อเสียงและฐานลูกค้า เราแค่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นการรีวิวสินค้า คนดูก็อยากได้ความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมา ตรงนี้ก็เป็นการซื้อใจคนดูให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเรา บางครั้งแทบไม่ต้องเชียร์ขายสินค้า แต่กลับปิดการขายได้อย่างง่ายดาย

5.Time

ไม่ว่าจะทำคลิปหรือไลฟ์สด เรื่องของระยะเวลาก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเช่นกัน ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่อดทนรออะไรนานๆ ไม่ค่อยได้ การใช้เวลาที่นานเกินไปอาจทำให้คนรู้สึกเบื่อ อย่างคลิปรีวิวสินค้าควรอยู่ที่ประมาณ 1.5 – 3 นาที ส่วนไลฟ์สดขายของควรอยู่ที่ 30- 35 นาที ซึ่งช่วงเวลาในการโพสต์ก็มีผลต่อการเข้าถึงผู้ชมเช่นกัน ช่วงเช้าประมาณ 7.00 -8.00  เหมาะแก่การปล่อยคอนเทนต์ ช่วงเวลา 19.00 – 20.00 ก็สามารถไลฟ์สดได้ในช่วงนี้

6.Yummy

การไลฟ์ที่ดีต้องมีความกลมกล่อม ไม่ต่างจากรสชาติของอาหารที่ทานแล้วอร่อย จนอยากที่จะทานต่อเรื่อยๆ  คอนเทนต์ดีมีสาระ แต่นำเสนอได้น่าเบื่อ บางทีคนเข้ามาดูแค่ครั้งเดียวก็ไม่กลับมาอีกเลย แต่ถ้ามีสีสัน สนุกสนาน ก็จะเข้าดึงให้คนอยู่ได้นานขึ้น ในช่วงที่รอจังหวะหรือไม่รู้จะเล่าอะไรต่อดี ลองหยิบเอาเรื่องใกล้ตัวมาเล่า หลีกเลี่ยงการพาดพิงบุคคลอื่น หากจะพูดเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแส ก็อย่าให้กระทบกระเทือนผู้อื่น อย่าลืมว่าเราต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ในการไลฟ์สดควรนำเสนอคอนเทนต์ที่ดี มีประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็สอดแทรกความบันเทิง ควรใช้รูปแบบกึ่งวาไรตี้ เพื่อไม่ให้ดูเหมือนตั้งใจขายสินค้าเพียงอย่างเดียว

สำหรับการขายของออนไลน์ แค่คอนเทนต์ดีอย่างเดียวอาจไม่พอ คอนเนคก็ต้องดีด้วยเช่นกัน ถ้าเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ก็จะมีแนวทางในการเล่าเรื่องได้ตรงกับกลุ่มผู้ชม ทำให้ขายสินค้าหรือบริการได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น อย่างการไลฟ์สด ก็ต้องอาศัยทักษะการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเทคนิคที่สามารถดึงดูดให้คนติดตาม เพราะจำนวนผู้เข้าชมมาก นั่นหมายถึงโอกาสที่จะปิดการขาย เพิ่มยอดขายออนไลน์ได้มากขึ้นตามไปด้วย

บริการอบรม ให้คำปรึกษา การทำให้สินค้าค้นหาเจอบน Google การทำ Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัวมือใหม่หัดไลฟ์สด