นักศึกษาจบใหม่ หางานยังไง ไม่มีประสบการณ์ สมัครงานที่ไหนดี ควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ ฯ   กับอีกหลายความกังวลใจของนักศึกษาจบใหม่ในการที่ต้องออกมาเผชิญกับโลกการแข่งขันนอกรั้วมหาลัย

บัณฑิตป้ายแดงเปี่ยมพลังทะยานจากรั้วการศึกษาสู่โลกการทำงานเต็มตัวด้วยความหวังประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่ยอมรับของสังคม พัฒนาองค์กรให้มีความก้าวหน้า และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว จึงตระเวนสมัครงานตามสายอาชีพที่ร่ำเรียนมา

แน่ล่ะ โลกแห่งความจริง ผู้แข่งขันไม่ได้มีแค่เพื่อน ๆ ในห้องเรียนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงนับร้อยที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองแถมยังมีรุ่นพี่เก๋าเกมส์สงสนามประลองด้วย แม้ภายนอกดูห้าวหาญแต่ในใจลึก ๆ นักศึกษาจบใหม่ก็ยังหวั่นด้วยประสบการณ์ไม่มี หลายคนสมัครงานหลายสิบบริษัทยังไม่มีแม้แต่โทรนัดสัมภาษณ์ เริ่มถอดใจ เสียกำลังใจ ความเครียดรุมเร้า

หากเป็นแบบนี้นาน ๆ แย่แน่ ต้องมีบางอย่างผิดพลาดทำให้ถูกมองข้ามและเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในการสมัครงานครั้งต่อไป น้อง ๆ ลองวิเคราะห์ปัญหาเพื่อลบข้อด้อย เติมจุดเด่นจนเป็นที่เตะตาของบริษัท ตามแนวทางของบทความนี้

1.นักศึกษาจบใหม่ หางานยังไง  อย่างแรกเตรียมตัวให้พร้อม

ชีวิตก้าวหน้าเริ่มจากการวางแผนที่ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นเรือลอยเคว้งในมหาสมุทรโดนกระแสคลื่น ลมพายุพัดอย่างไร้จุดหมาย แต่ควรเป็นคนขับรถสปอร์ตเครื่องแรงตามทางที่คิดไว้อย่างมั่นใจ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โลกทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • ค้นหาศักยภาพแท้จริงให้เจอด้วยการวิเคราะห์จุดเด่นที่ต้องส่งเสริม จุดด้อยควรปรับปรุง กิจกรรมที่ชอบ งานที่ใฝ่ฝันและกิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ
  • รู้เป้าหมาย ท้าทายตัวเอง กำหนดเป้าหมายสูงสุดของชีวิตให้ชัดเจน กระชับ เลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง วางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว อย่างท้าทายเพื่อเป็นแรงกระตุ้นไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างทรงพลัง
  • ประเมินศักยภาพให้ถี่ถ้วน ศึกษา เรียนรู้ พัฒนาเพิ่มเติมในสิ่งที่ขาด ลบจุดอ่อน สร้างจุดแข็งใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับงานที่อยากทำ และคู่ควรกับบริษัทรับเข้าทำงาน
  • สร้างทัศนคติที่ถูกต้อง การสมัครงานเป็นสถานการณ์ WIN-WIN บริษัทเลือกพนักงานที่เหมาะสม ผู้จบใหม่เลือกงานที่ใช่สำหรับสร้างเป้าหมายให้เป็นจริง แต่ละฝ่ายก็ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้รับการคัดเลือกแสดงว่างานนี้ยังไม่ใช่สำหรับเรา แต่หากทุกอย่างลงตัวทุกฝ่ายก็แฮปปี้

2. เอกสารครบถ้วนถูกต้อง

นักศึกษาจบใหม่ หางานยังไง เอกสารต้องพร้อมเสมอ การเตรียมเอกสารให้พร้อมเป็นเรื่องของความใส่ใจต่อสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มีผลกระทบมหาศาลเพราะบริษัททราบทันทีว่าผู้ใดมีความรอบคอบ ตั้งใจ พร้อมทำงานด้วยความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ดังนั้นน้อง ๆ บัณฑิตควรเซ็นต์สำเนาถูกต้องให้เสร็จตั้งแต่อยู่ที่บ้านและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ดังนี้

  • รูปถ่าย เตรียมไว้หลายขนาด
  • ใบรับรองผลการศึกษา
  • หนังสือรับรองการฝึกงาน
  • หนังสือรับรองผลสอบวัดระดับภาษา
  • สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน
  • เอกสารอื่น ๆ ถ้ามี เช่น สำเนาใบผ่านเกณฑ์ทหาร สำเนาใบขับขี่ สำเนาเปลี่ยนชื่อ นามสกุล สำเนาจดทะเบียนสมรส

3. เลือกตำแหน่งงานเหมาะสมกับความสามารถ

ในมุมมองบริษัทต้องการได้พนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ ศักยภาพเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ บริษัทจึงต้องเฟ้นคนที่คุณสมบัติครบจริง ๆ การที่น้อง ๆ เหวี่ยงแห สมัครงานหลายตำแหน่งเผื่อฟลุ๊ค ทำให้เสียเวลา เสียพลังงาน เสียความมั่นใจ และแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ คือ โฟกัสงานที่เหมาะกับความสามารถและสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะในขั้นตอนการเขียน Resume หรือ Cover Letter น้อง ๆ สามารถนำเสนอจุดแข็งของตัวเองได้อย่างเต็มที่อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้บรัทสนใจ เกิดความประทับใจจนเรียกตัวไปสอบข้อเขียนหรือสัมภาษณ์ทันที

4. เข้าใจบริษัทเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ น้อง ๆ ต้องทำความรู้จักบริษัทเป็นใคร ทำธุรกิจอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน วิสัยทัศน์ พันธกิจคืออะไร เข้าใจความเชื่อและวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเป็นข้อมูลพิจารณาเบื้องต้น เลือกสมัครงานกับบริษัทที่มีความเชื่อใกล้เคียงกัน การนำเสนอข้อมูลที่ตรงความเชื่อของบริษัทเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน พร้อมเดินทางไปสู่เป้าหมายด้วยกัน เพิ่มความน่าสนใจส่งเสริมแรงดึงดูดอยากชวนมาร่วมงาน

การเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะน้อง ๆ สามารถเลือกสมัครงานกับบริษัทที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ ด้วยบรรยากาศที่เหมาะสม อยู่ในสังคมที่พอดี ไม่ต้องปรับตัวมาก เป็นตัวของตัวเองได้ การทำงานก็มีความสุข

5. เขียน Resume ให้สั้น กระชับ เรียบร้อย ดูดี

ถึงขั้นตอนสำคัญของการนำเสนอตัวเองให้ว่าที่นายจ้างรู้จักตัวตนอย่างชัดเจนด้วยการเขียน Resume อย่างถูกต้อง

  • ใช้รูปถ่ายที่เหมาะสม ถ่ายหน้าตรง เห็นใบหน้าชัดเจน แต่งกายสุภาพ ใช้ขนาดรูปภาพตามที่บริษัทกำหนด
  • ความยาวไม่ควรเกิน 1 – 2 หน้ากระดาษ ใส่คีย์เวิร์ดสำคัญ ๆ เท่านั้น เขียนลงมาเป็นข้อ ๆ เพื่ออ่านง่าย
  • ใช้ภาษาเขียน ถ้อยคำสุภาพ
  • ใส่ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ – นามสกุล ประวัติการศึกษา เบอร์โทรศัพท์และอีเมลติดต่อให้ครบ ถูกต้อง อีเมลต้องเป็นชื่อทางการแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
  • เพิ่มจุดเด่นด้วยทักษะ ความสามารถที่ตรงกับตำแหน่งงาน
  • จุดมุ่งหมายในอาชีพที่ชัดเจนทั้งระยะสั้นและระยะยาวสอดคล้องกับตำแหน่งที่สมัครและความเชื่อขององค์กร
  • ตั้งชื่อไฟล์ชัดเจน เป็นทางการ ควรตั้งชื่อเป็นตำแหน่งงานพ่วงด้วยชื่อของน้อง ๆ เช่น Resume_ตำแหน่ง_ชื่อ-นามสกุล และควร Save ไฟล์เป็น .pdf ป้องกันรูปแบบเอกสารคาดเคลื่อน

6. เขียน Cover Letter เล่าประสบการณ์ดึงดุดความสนใจ

น้อง ๆ ไม่ควรพลาดเขียนจดหมายสมัครงานเพื่อบอกประสบการณ์ การฝึกงานที่ผ่านมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่บริษัทนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ

  • ขึ้นต้นด้วยการระบุผู้รับเสมอ
  • แนะนำตัวเล็กน้อย บอกวัตุประสงค์ให้ชัดเจน
  • บอกทักษะ ความสามารถที่ตรงกับตำแหน่งงานและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง
  • แสดงถึงความเข้าใจองค์กร บอกทัศนคติ ความเชื่อ และความคาดหวัง พร้อมมุ่งหน้าสู่ป้าหมายเดียวกัน
  • ลงท้ายอย่างมืออาชีพ

7. สัมภาษณ์

เมื่อบริษัทติดต่อน้อง ๆ ให้เข้าสัมภาษณ์ ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็ต้องแสดงศักยภาพต่อหน้าผู้สัมภาษณ์ให้ดีที่สุด

  • เตรียมเอกสาร ผลงานไปให้พร้อม
  • เข้าใจขอบเขตข้อมูลตำแหน่งงาน ข้อมูลบริษัท ความเชื่อ วัฒนธรรมองค์กรอย่างถ่องแท้
  • ให้เกียรติองค์กรด้วยการแต่งกายสุภาพ เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องเหมาะสม
  • ยิ้มแย้ม แจ่มใส ตอบคำถามอย่างฉะฉาน สำรวม

สำหรับบัณฑิตจบใหม่ ประสบการณ์เป็นเรื่องรอง บริษัทคาดหวังเจอคนที่มีความกระตือรือร้น พร้อมเรียนรู้ มีพลังท้าทายตัวเอง รู้จักขอบเขตงานเป็นอย่างดี เข้าใจความเชื่อ วัฒนธรรมองค์กร สามารถปรับตัวได้ง่าย เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเป็นพนักงานที่ดี เป็นกำลังหลักสร้างองค์กรให้ก้าวหน้า สำเร็จตามเป้าหมาย

น้อง ๆ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม สอดคล้องกับความต้องการของบริษัทตามแนวทางที่กล่าวมาและที่ขาดไม่ได้ต้องเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริงด้วย ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย มีความสุข แล้วการเตรียมตัวที่ดีบวกกับสิ่งดี ๆ เหล่านี้จะ ดึงดูดงานที่ใช่กับบริษัทที่ชอบ โคจรมาพบกันอย่างลงตัว

ถึงคิวคุณแล้วหละ !!! มาเริ่มสมัครงาน สร้างสร้าง Resume เป็นจุดเริ่มต้นของการหางานกัน