ผมมีโครงการหนึ่งได้ประกาศในหน้าเพจส่วนตัวผม ต้องการค้นหา “นักศึกษาที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” นำเรื่องราวความเป็นมาของชีวิต เหตุผลในการทำธุรกิจ ตลอดจนวิธีบริหารจัดการเวลา

เพราะผมเชื่อว่าเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวของชีวิตคนเรา แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญพอสมควรในการฟูมฟักคนให้เป็นคนที่มีความรู้เพื่อนำมาพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

มหาวิทยาลัย ไม่ได้สอนทุกอย่าง !!! และที่สำคัญก็ไม่จำเป็นต้องสอนทุกอย่างครับ ทำได้แค่เพียง บอกแนวทางในการที่เราจะนำไปปรับใช้ในชีวิต

คนที่พัฒนาไม่ได้ พอออกจากรั้วมหาลัยแล้วเอาตัวไม่รอด ทำงานไม่ได้ กลับมาฟูมฟายว่า “มหาลัยไม่ได้สอน” บอกได้เลยครับ คุณเรียนได้แค่ “ใบกระดาษ” แต่คุณไม่ได้ “การศึกษา” อะไรเลยครับ !!

น้องต้นกล้า เป็นนักศึกษาปี 3 มหาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้ส่งข้อมูลมาบอกเล่าการทำธุรกิจของเขาในช่วงที่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย

การเรียนไม่เสีย แถมยังมีเวลาทำธุรกิจด้วย เขาทำอย่างไร อยากให้น้อง ๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้แล้วมีฝันต้องการเป็นเจ้าของกิจการลองนำไปปรับใช้ครับ

บอกได้เลยครับ !!! ความคิดน้องต้นกล้า “แข็งแกร่ง” มากครับ !!!

น้องต้นกล้า แนะนำตัวกับพี่ ๆ เถ้าแก่ใหม่หน่อยครับ

Tonkhla

สวัสดีครับ ผมชื่อต้นกล้า  วิรภูมิ หงส์ศุภางคพันธ์ ตอนนี้เป็นนิสิตคณะประมง ขึ้นปี 3 ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ม.เกษตรศาสตร์  ธุรกิจที่ผมทำควบคู่ไปกับการเรียนคือ ขายปลาหางนกยูงสวยงามที่สวนจตุจักรครับ  ลูกค้าผมมีทั้งในและต่างประเทศครับ

ชีวิตในรั้วมหาลัยเป็นอย่างไรบ้าง

ผมเป็นนิสิตธรรมดาที่เรียนค่อนข้างดี รู้สึกว่าการเรียนอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์จึงเริ่มทำกิจกรรมอาสา งานด้านพัฒนาตัวเอง ทั้งในรั้วโรงเรียนและนอกโรงเรียน ทำกิจกรรมจนได้รับการรู้จักและถูกเลือกให้เป็นประธานสภานักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์

อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของการอยากทำธุรกิจ

จุดเริ่มต้นมาจากการไปค่ายพัฒนาเยาวชนค่ายหนึ่งชื่อว่าปลาดาว fill up your life วิทยากรบรรยายสอบถามว่ามีใครอยากเป็นเจ้าของธุรกิจบ้างทุกคนในค่ายยกมือกันเกือบทั้งหมด แต่พอถามว่ามีใครเป็นอยู่แล้วบ้างไม่รวมที่พึ่งบารมีของพ่อแม่ ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่คนเดียวยกมือ ภาพในตอนนั้นยังประทับตาผมอยู่จนทุกวันนี้ที่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ทำไมเราปล่อยให้ความอยากมันเป็นแค่ความอยาก แล้วก็ได้แต่ฝันว่ามันจะเป็นจริงโดยที่ไม่เริ่มทำอะไร

สิ่งที่ตอกย้ำเพิ่มขึ้นคือค่ายได้ให้เราลองฝึกหาเงินเองในเวลาที่จำกัด  ผมเข้าใจได้ในวันนั้นทันทีว่าเงินหาไม่ง่ายถ้าไม่เริ่มสักทีผมจึงตั้งเป้าหมายกับตัวเองในวันนั้นทันทีว่า

ผมจะเลิกขอค่าขนมเงินพ่อแม่ (เฉพาะค่าขนมนะครับ) ตอนอายุ 18 ตอนนั้นอายุ 17 ใจเด็ดมากครับยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไร 5555

ทำไมเลือกที่จะขายปลาหางนกยูง

Tonkhla7

จำได้ว่ามีคนพูดเสมอว่า ให้ทำธุรกิจจากสิ่งที่เราชอบเรารัก  ก็กลับมาถามตัวเองว่า

“เรามีอะไรที่รักที่ชอบ แล้วจะเปลี่ยนให้มันหาเงินให้เราได้อย่างไร?” (เอาวะเราชอบเลี้ยงปลาลองเลี้ยงปลาขายดูละกัน!!)

สิ่งต่อมาที่คิดคือปลาอะไรดีหละบ้านเราก็เล็กนิดเดียว ถ้าทำบ่อเลี้ยงอะไรใหญ่โตคงลำบาก ที่ก็ไม่มีเงินก็ไม่มาก คงต้องลองหาปลาอะไรบ้างที่ตัวเล็กและมีราคาสามารขายไม่ใช่ปริมาณมากแต่มีผลกำไรที่พอคุ้มกับค่าการเลี้ยงดู ผมจึงเลือกเป็นปลาหางนกยูง สายพันธ์ที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาดเล็กน้อย

รู้หละว่าจะขายอะไร คราวนี้ก็มาหาเงิน เมื่อผมตัดสินใจที่จะทำธุรกิจ ผมก็ยินดีที่จะประหยัดเงินค่าขนมนำมาสะสมเป็นเงินลงทุน เก็บเล็กผสมน้อยจากค่าขนม เงินอั่งเปาตรุษจีนบ้าง เงินที่เก็บในธนาคารที่พอมีตามประสานักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองตัดสินใจที่จะถอนเงินมารวบรวมลงทุน

คิดว่า เงินเราเก็บไว้ในธนาคารเฉยๆ ก็ไม่งอกนอกจากดอกเบี้ยอันน้อยนิดเอามาลองทำธุรกิจอาจจะงอกก็ได้ ลงทุนซื้อพ่อแม่พันธุปลามา 2 คู่ + ค่าอุปกรณ์เป็นเงินประมาณ 2000 กว่าบาท นั่นคือการตัดสินใจครั้งแรกครับ

เริ่มธุรกิจใหม่ เจอปัญหาอะไรบ้าง ?

โอ้ยพี่ !!! เจอเยอะมากครับ ผมมือใหม่หัดขาย ไม่มีความรู้อะไรเลยจะปรึกษาใครก็ไม่มีครับ เจอปัญหาในการเลี้ยงการดูแลต่างผมก็ถามใน  google บ้าง  facebook บ้าง และ พ่อค้าขายปลาบ้าง ปัญหาแก้ได้ด้วยการถาม ถาม ถาม คนที่เข้าเอ็นดูเราเข้าก็ให้ความรู้ แนะนำ ช่วยเหลือครับ

แรกๆ ผมลองผิดลองถูกจากสิ่งที่เราเข้าใจว่ามันน่าจะถูกต้อง ซื้อตู้มาเล็กเกิน ทำให้คุมอุณหภูมิน้ำยาก

ซื้อปลามาได้สองวันปลาเริ่มป่วยวันที่สามตาย ! เงินที่ลงทุนเริ่มปลิวหายไป ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรเราซื้อมาเผื่ออยู่ซื้อมาตั้งสองคู่ เดี๋ยวมันต้องออกลูกแน่อีกตัว เลี้ยงผิดๆถูกๆตายบ้าง แต่ไม่ท้อเพราะชอบอยู่แล้ว

พอตั้งสติได้ก็ทิ้งอีโก้ว่าเรียนประมงรู้เรื่องปลาดี เริ่มใหม่ทำตัวเป็นคนที่กระหายความรู้ ถามจากสารพัดครูออนไลน์ที่กล่าวมาจนเริ่มมีผลผลิตเป็นลูกปลาออกมา

ปัญหาทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ความรู้กับทักษะเป็นสิ่งที่ต้องมีคู่กัน

มีความรู้แต่ไม่นำไปใช้ก็ไม่เกิดทักษะ ความชำนาญ แต่ถ้าทำมาก ๆ เป็นทักษะแต่ขาดความรู้อาจเป็นทักษะที่ผิดลู่ผิดทางก็ได้ เช่นเดียวกับที่ผมเรียนประมงความรู้มี แต่ช่วงรั้วมหลาลัยคงให้ทักษะอะไรผมได้ไม่มากนัก หากผมไม่ขวนขวายที่จะหามันมาเพิ่มด้วยการลงมือทำ เจอปัญหาก็ทำให้เรานำความรู้มาแก้ไข บางอย่างใช้หลักทฤษฏีตรง ๆ ไม่ได้ต้องนำความรู้ด้านอื่นเข้ามาเสริม เป็นเรื่องที่สนุกมากครับ

ได้ลูกปลาออกมาแล้ว คราวนี้ขายอย่างไร เข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร

Tonkhla6

ผมเริ่มหาตลาดจากในออนไลน์ ผมขอเข้าร่วมกลุ่มใน Facebook ที่เกี่ยวกับหางนกยูงและโพสขายบ่อยมากไม่มีใครซื้อแต่ก็ยังคงโพสๆๆๆๆ ซ้ำๆๆๆๆและสามารถขายได้ในที่สุดครับ

ผมไม่โพสเยอะแต่เน้นความสม่ำเสมอให้คนเริ่มเห็นว่าเรามีตัวตนในตลาด ทำให้คนรู้เห็นหน้าเราต้องนึกและรู้ว่าเราขายปลา

ศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตลอดเพื่อให้คนเริ่มเห็นว่าเรามีเอกลักษณ์คือ ต้นกล้านะขายปลาหางนกยูง ถ้าทำแบบนี้แสดงว่าเราเริ่มมาถูกทางละครับที่เหลือคือทำสม่ำเสมอและมุ่งมั่น

ตอนนี้มีปลาหางนกยูงกี่พันธุ์ มีขายอะไรเพิ่มด้วยหรือเปล่า

ตอนนี้มีปลาหางนกยูง ประมาณ 32 สายพันธุ์ครับ และผมก็เริ่มนำอาหารปลาหางนกยูงมาขายควบคู่กับไปด้วยเป็นการเพิ่มรายได้

จุดเด่นของธุรกิจการขายปลาหางนกยูง ในสายตาน้องต้นกล้าคืออะไร

จุดเด่นของธุรกิจนี้คือ สามารถคุมรายจ่ายบางอย่างได้ เพราะปลาสามารถออกลูกได้เรื่อยๆ ทำให้เราสามารถผลิตได้โดยไม่ต้องไปง้อผู้ผลิต สินค้าของเราเอง เว้นเสียว่ามีการซื้อข้ามสายปลาในบางกรณีค่าอาหารที่คุมได้จากการช้อนลูกไรจากคลอง

ทำธุรกิจคนเดียว หรือมีพนักงานมาช่วยครับ บริหารงานคนอย่างไร

Tonkhla3

ในตอนแรกมีคุณพ่อมาช่วยแต่จ่ายค่าแรงเพราะเราคิดแบบผู้ประกอบการว่าหากมีคนมาช่วยเราจริงๆเราจะต้องมีค่าจ้างพนักงานไม่งั้นจะเป็นการหลอกบัญชี เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าธุรกิจเรากระแสเงินสดหมุนเวียนเป็น + จริงหรือไม่ เน้นการคุยกันลองผิดลองถูก ต่างๆครับ

วางแผนอนาคตสำหรับ ธุรกิจปลาหางนกยูงสวยงามไว้อย่างไร

พัฒนาไปเรื่อย ๆ และจัดการเรื่องการบริการให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้นเน้นที่ระบบและผลงานก่อนกำไร ครับ

สินค้าต้องมีคุณภาพ บริการต้องชั้นยอด จะนำมาซึ่งผลประกอบการ กำไรที่สวยงาม ผมเชื่ออย่างนี้ครับ

น้องต้นกล้า มีความคิดเห็นอย่างไรกับคำว่า “รากหญ้า Marketing”

ผมมองว่าเป็นการเริ่มจากสิ่งที่เรามีเล็กๆค่อยๆทำอย่างสม่ำเสมอ โฟกัสให้ความสำคัญจนมันเริ่มเติบโตขึ้น

ค่อยๆแก้ไปทีละอุปสรรค แม้จะเล็กแต่ก็ยังดีกว่าการไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย จนมันแข็งแกร่งได้ บางคนบอกว่าต้องรอนั่นรอนี่ก็

ผมคิดอีกแบบครับ

สิ่งเดียวที่ต้องรอคือใจคนนั้นหละครับพร้อมลงมือหรือยัง คำนี้คำเดียวจริงๆครับทำให้ได้เริ่มต้น

 โอกาสในการเติบโตของธุรกิจมองไว้อย่างไร

Tonkhla9

คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเพราะเห็นว่าสามารถทำกำไรได้จะอยู่ได้ไม่นาน ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องปลาจริง ๆ  ต้องมีความรักและเลี้ยงดูอย่างใส่ใจ ถึงจะทำให้ปลาออกมามีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดได้ รักก่อนพอรักแล้วจึงเลี้ยงได้สวยงามจากนั้นจึงค่อยคิดว่าจะขายที่ไหน

ในตลาด AEC ปลาเหล่านนี้นิยมมากหากเลือกถูกตลาด จะสามารถได้ธุรกิจเป็นเภทนี้อาจไม่หวือหวาแต่ถ้ามีปลาตลอดสามารถสร้างรายรับอย่างมั่นคงได้

หากเพื่อน ๆ อ่านแล้วสนใจธุรกิจนี้ ต้องลงทุนอย่างไร เตรียมตัวอะไรบ้าง

ธุรกิจเกือบทุกรูปแบบในตอนเริ่มยอดจะดิ่งลงเรื่อยๆๆๆ ก่อนและถ้าเราไม่พร้อมที่จะพัฒนาแข่งขันจะจบที่การเจ๊ง เราต้องหาทางทำทุกวิธีที่จะทราบได้ว่าทำยังไงของเราทุกจะดีได้ เลี้ยงอย่างไรให้รอด รอดเสร็จเลี้ยงยังไงให้สวย สวยเสร็จทำไงถึงจะมีตลาดปล่อยของได้ ถามผมในรายละเอียดอีกทียินดีที่จะแบ่งปันครับ

กุญแจสำคัญที่ทำให้น้องต้นมาถึงทุกวันนี้ครับ

Tonkhla5

Focus ทำราวกับเราสำเร็จแล้ว

เชื่อว่าเราจะทำมันได้ใจสำคัญมากที่จะบันดาลแรงให้กระทำสิ่งต่างๆครับ

ฝากข้อคิด ให้กับเพื่อน ๆ ที่ทำงานไปเรียนไปด้วยครับ

ปัญหาเป็นเรื่องปกติของทุกธุรกิจ บอกกับตัวเองว่าอีกนิดนึงเราจะผ่านไปได้

ท้อได้แต่อย่าถอยเพราะถ้าปลายทางเราคือความสำเร็จ ยังไงคุณก็จะสำเร็จในสักวัน

สำเร็จเร็วไม่ได้แปลว่าสำเร็จกว่า สำเร็จช้าไม่ได้แปลว่าไม่สำเร็จ

ถ้าเพื่อน ๆ ที่อ่านเรื่องราวจาก Taokaemai แวะไปที่ร้านมีโปรโมชั่นอะไรให้เพื่อน ๆ บ้างครับ

ยินดีมากเลยครับ หากเพื่อนท่านไหวแวะมาหาปลาสวยงามไปเลี้ยง แล้วบอกว่ารู้มาจากเว็บ Taokaemai.com ซื้อปลา 2 คู่ขึ้นไปลดทันที 100 บาทครับ

ร้านอยู่ที่ไหน ติดต่ออย่างไร

Tonkhla-1

facebook Tonkla Hongsupangpan

โทร 083-607-6623

ร้านครับ ร้านขายปลาหางหน้าร้าน นกยูง โดยเฉพาะ ที่จตุจักร ตลาดศรีสมรัตน์ ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์เด็ก ซอย 2 (มีเซเว่นอยู่ด้านหน้า ติดร้านปลาโต๊ะแดง) ล๊อค B20

เชิญมาชม พูดคุย เรื่องปลาหางนกยูงกันได้นะคร้าบ ><

เถ้าแก่ใหม่วิเคราะห์ธุรกิจ

Tonkhla8

ผมลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจปลาสวยงาม พบว่ามูลค่าตลาดปลาสวยงามกว่าหมื่นล้านบาท มีการซื้อขายกันในประเทศกว่า 80% และส่งออกอีกกว่า 20% และมีอัตราที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

ยังพบอีกว่าประเทศไทยมีการส่งออกปลาสวยงามเป็นอันดับที่ 7 ของโลก ธุรกิจนี้น่าสนใจมิใช่น้อยเลยทีเดียวครับ

จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของน้องต้นกล้าในวันนี้ ด้วยวัยเพียงแค่นี้อนาคตยังไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก (ถ้าไม่ทิ้งความฝัน ความรักนี้ไปเสียก่อน)

ด้วย ความคิด ความรู้ และ ทักษะที่ไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนา จะทำให้ธุรกิจของน้องต้นกล้าเติบโตไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอนครับ ผมมั่นใจ

ไม่แน่นะครับอีก 5 ปีข้างหน้าอาจจะได้ยินชื่อน้องต้นกล้าเป็นนักธุรกิจปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็เป็นได้