เมื่อไม่กี่วันมานี้เกิดเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ฟ้าถล่มสำหรับนักลงทุนคริบโตเคอเรนซีจนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงต่อเนื่องหลายวันกับเหตุการณ์ที่เหรียญคริบโตที่กำลังทำระดับราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รุนแรงและรวดเร็วถึง 3 เหรียญกลับมีราคาที่ดิ่งลงเหวมากกว่า 60 % เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดปรากฎการณ์หนีตายกันจ้าละหวั่น และเป็นฝันร้ายสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่หลายรายที่ออกมาไม่ทันและต้องขาดทุนกันถ้วนหน้า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเริ่มมีผู้ที่ตั้งคำถามว่าเกิดสิ่งที่เรียกว่าฟองสบู่เหรียญ Altcoin แตกหรือไม่และถ้าแตกจริง ๆ เรามีวิธีการเอาตัวรอดอย่างไร ในบทความนี้เราจะไปฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคุณศุภกฤษณ์ @Bitcast และคุณพิริยะ สัมพันธารักษ์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ขอบคุณข้อมูลจากช่อง ถามอีก กับอิก TAM-EIG
อย่าลงทุนด้วยหู ควรลงทุนด้วยความคิด
ฟองสบู่เหรียญ Altcoin แตกแล้วจริงหรือ
คำถามแรกก็คือเหรียญ Altcoin เกิดภาวะฟองสบู่แตกแล้วจริง ๆ หรือในทัศนะคติของคุณศุภกฤษณ์ @Bitcast และคุณพิริยะ สัมพันธารักษ์กลับมองว่าไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนมากนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือภาวะฟองสบู่แตกจริงหรือไม่ แต่สัญญาณหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจนก็คือในช่วงก่อนหน้านี้มีคนที่เข้ามาในตลาดนี้มากขึ้นกว่าเดิมและส่วนมากก็มักจะเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้และความเข้าใจที่มากพอ ซึ่งคนกลุ่มนี้เองคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงขาดทุนมากที่สุดแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงที่เกิดฟองสบู่แตกก็ตามและตลาดคริปโตปัจจุบันมีการแยกเป็นเซกเตอร์ต่าง ๆ มากกว่าในอดีตเราจึงเห็นฟองสบู่แตกเป็นรายเซกเตอร์มากกว่าที่จะเกิดขึ้นกับทั้งระบบ ซึ่งแม้ว่าภาวะฟองสบู่แตกจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งตลาดและนักลงทุนก็ตามแต่ในระยะยาวแล้วตลาดจะมีการป้องกันความเสี่ยงได้ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นได้สิ่งที่ควรจะต้องทำก่อนก็คือการทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาดมีความรู้ที่มากขึ้นและบางครั้งก็อาจจำเป็นต้องให้พวกเขาเรียนรู้จากประสบการณ์ความผิดพลาดของตนเอง
เมื่อเกิดเหตุฟ้าถล่ม ราคาร่วงดิ่งเหว หรือ พุ่งขึ้นเป็นจรวด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเริ่มต้นที่จะมองหาแนวทางป้องกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทาง ก.ล.ต.เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะส่งผลเสียต่อนักลงทุนในระยะยาว โดยเริ่มมีการมองถึงมาตรการเช่นการกำหนด Ceiling/floor เหมือนที่ใช้กับตลาดหุ้น ซึ่งแนวทางนี้คุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะเองก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าใดนัก เพราะเหมือนกับทางก.ล.ต.พยายามเข้าไปแทรกแซงตลาดซึ่งแม้ว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ในตลาดในไทยได้แต่เมื่อใดที่นักลงทุนออกไปลงทุนในตลาดต่างประเทศก็มีโอกาสที่จะเสียหายได้เช่นกัน และทั้งคุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ก.ล.ต. ควรที่จะปล่อยให้นักลงทุนได้เรียนรู้ความผิดพลาดนี้ด้วยตนเอง แม้ว่าอาจจะดูใจร้ายไปสักนิดแต่ในระยะยาวจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนมากกว่า
Market manipulation หรือการปั่นตลาดอาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ฟ้าถล่มที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
คุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะเห็นว่าการปั่นตลาดอาจทั้งที่ตั้งใจและในบางกรณีก็อาจไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็ไม่อยากให้มองไปที่เกิดจากการปั่นตลาดสักเท่าใดนัก แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดกลไกกติกาที่ยุติธรรมและมีความชัดเจนมากกว่าว่ามีการใช้กฎเกณฑ์ที่นอกเหนือกลไกตลาดหรือไม่ เช่นการมองไปที่โอกาสในการเข้าถึงเงินทุนของนักลงทุนใหญ่ ๆ ที่แรงซื้อขายของคนกลุ่มนี้จะมากระทบกับตลาดไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกระดาน เอเจนซี่รัฐที่กู้ยืมเงินจากรัฐได้ง่าย หรือเป็นสถาบันการเงินที่เข้าถึงเงินได้ง่าย รวมถึงพวกวงในทั้งหลายว่าจะทำอย่างไรดีให้ตลาดเป็นไปตามกลไกตลาดได้ดีขึ้น
อีกหนึ่งวิธีการแก้ปัญหาที่น่าสนใจก็คือการพยายามผลักดันให้เหรียญของไทยออกสู่ตลาดโลกให้ได้ เพราะหากมีการซื้อขายในตลาดภายในประเทศอย่างเดียว Volume ที่เกิดขึ้นมันไม่มากพอที่จะทำให้ตลาดเสถียรและจะเกิดความผันผวนได้ง่าย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมุมนักลงทุนคือสิ่งที่ควรจะต้องเรียนรู้
สิ่งสำคัญในการลงทุนคือการบริหารใจของตนเอง ก่อนที่คุณจะถามถึงผลกำไรคุณต้องถามตัวเองก่อนเสมอว่า “คุณพร้อมที่จะรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน คุณรับผลการขาดทุนได้มากขนาดไหน” คุณต้องคิดไว้แต่แรกว่าจะยอมเสียเงินได้เท่าไหร่ในทุกการลงทุน ตราบใดที่คุณยังไม่เสียเกินเป้าที่วางไว้ คุณจะยังอยู่ในเกมส์และยังควบคุมทุกอย่างได้อยู่ เมื่อคุณตั้งเป้าไว้แบบนี้ก็จะเริ่มวางแผนการลงทุนได้ดีขึ้น
เมื่อเกิดความผิดพลาดนักลงทุนบางส่วนจะเริ่มโทษสินทรัพย์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง คุณต้องโทษตัวเองยิ่งคุณโทษตัวเองเท่าไหร่คุณจะกลับมาพัฒนาแนวคิดการลงทุนแล้วคุณจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ การได้เรียนรู้จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
ท้ายที่สุดนี้คุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะให้กำลังใจนักลงทุนหน้าใหม่เอาไว้ว่า เมื่อนักลงทุนมือใหม่พลาดไปแล้วให้ถือเป็นโอกาสในการปรับปรุงตัว ทุกคนล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการเรียนรู้มาแล้วทั้งสิ้น ต้องพยายามกลับมาดูตัวเองว่ากลยุทธ์ที่เราใช้คืออะไร การที่เราจะรวยในช่วงข้ามคืนมันมีแต่โอกาสมันเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด สิ่งสำคัญของนักลงทุนคือการพยายามรักษาเงินต้นเอาไว้และรู้จักการบริหารใจของตนเองไปพร้อม ๆ กับการบริหารความเสี่ยงแล้วคุณจะสามารถลงทุนได้อย่างมีความสุข
คุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะแนะนำวิธีเลือกเหรียญ altcoin ทำอย่างไรไม่ให้ต้องเจ็บตัว
เหรียญดิจิทัลดี ๆในมุมมองของคุณศุภกฤษณ์และคุณพิริยะซึ่งเห็นพ้องต้องกันว่ามักจะไม่ค่อยหวือหวาแต่ก็มีบ้างที่ราคาอาจมีการขึ้นลงบ้าง โดยสามารถแบ่งเหรียญได้เป็น 2 ทางก็คือบิทคอยน์และ altcoin ซึ่งจะมีรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับการเลือกเหรียญ altcoin มีแนวทางดังนี้
- ดูที่ผู้ออกเหรียญหรือพาร์ทเนอร์ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด มีโปรเจกต์ดี ๆ ขนาดไหน ให้ลองพิจารณาที่ venture cap ใหญ่ ๆ เป็นทางเลือกแรกสุด
- ดูที่ผลงานที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร แม้ว่าผลงานในอดีตอาจจะไม่ได้ส่งผลถึงอนาคตแต่คุณสามารถนำมาช่วยพิจารณาดูว่าเหรียญนั้นมีความน่าลงทุนมากน้อยเพียงใดได้เช่นกัน
ความผิดพลาดในการลงทุนเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ชนิดใดก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ทั้งสิ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายแล้วอย่าได้มองหาเหตุผลจากปัจจัยภายนอกแต่ให้ย้อนกลับมาดูว่าคุณมีจุดอ่อนอยู่ตรงไหนและจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะปิดจุดอ่อนนั้นไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์ใหม่ การเรียนรู้การลงทุนให้มากขึ้น การรู้จักบริหารใจและบริหารความเสี่ยงเมื่อคุณพัฒนาตนเองขึ้นมาคุณจะกลายเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME