เมื่อเอ่ยถึง Samsung เชื่อว่าทุกคนรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดี หลายคนเลือกใช้ Samsung ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ และการที่ Samsung มีประวัติมายาวนานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ย่อมเป็นเครื่องหมายการันตีถึงคุณภาพ นวัตกรรม ความน่าเชื่อถือ ความมีชื่อเสียงและอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาพบกับเรื่องราวและแนวคิดดี ๆ ของ Samsung เพื่อต่อยอดธุรกิจกันครับ
ในช่วงปี 1980-1990 นั้น บริษัท ซัมซุง ก็เป็นบริษัทเกาหลีธรรมดา ๆ บริษัทหนึ่ง พอเวลาผ่านไป Samsung ก็ค้นพบว่าตนเองเป็นบริษัทที่ขาดพัฒนาการเป็นอย่างมาก สินค้าของบริษัทก็เป็นสินค้าพื้น ๆ ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นหรือน่าค้นหาแต่อย่างใด ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อสินค้าไม่มีความแตกต่างซัมซุงก็ต้องมาสู้กันที่ราคา ใช้ราคาที่ถูกกว่าเป็นแรงดึงดูดลูกค้า จึงทำให้กำไรของสินค้าต่อชิ้นน้อยมาก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันด้านราคา
ในเรื่องนี้ Samsung มิได้นิ่งนอนใจในปีค.ศ. 1993 ซึ่งเป็นปีที่ประธานบริษัท Lee Kun-Hee ได้ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางในการทำธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ จากการเป็นบริษัทท้องถิ่นให้มาเป็นบริษัทระดับโลกให้จงได้…น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ ถ้าอย่างนั้น เรามาดูกันว่าจะเปลี่ยนด้วยวิธีไหนทำอย่างไรจาก 15 แนวคิดพลิกธุรกิจของ Samsung กันครับ
1.โฟกัสไปที่ผู้บริหาร
Lee Kun-Hee ได้มองว่าผู้บริหารธุรกิจที่มีความรู้ความสามารถย่อมทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและดีเยี่ยม ด้วยความคิดแบบนี้ เขาจึงนำผู้บริหารจากโลกตะวันตกเข้ามาทำงานในบริษัท
2.เปลี่ยนวิธีการในการบริหารบุคคล
จากเดิมจะเน้นให้ความสำคัญกับระบบอาวุโส ซึ่งไม่เป็นไปตามต้องการหรือทำให้บริษัทพัฒนาเท่าที่ควร Lee Kun-Hee จึงมุ่งเน้นที่ฝีมือและคุณภาพของพนักงาน โดยมีแรงจูงใจพนักงานด้วยการขึ้นเงินเดือน ปรับตำแหน่ง โดยหลักสำคัญอยู่ที่คุณภาพมากกว่าวุฒิการศึกษา
3.พนักงานต้องมีฝีมือและคุณภาพ
พนักงานที่มีฝีมือและมีคุณภาพย่อมพาองค์กรพัฒนาก้าวหน้าไม่ล้าหลัง Lee Kun-Hee ให้ความสำคัญกับจุดนี้และถ้าพนักงานคนใดไม่ผ่านจริง ๆ ประมาณว่าฝีมือไม่ดี ไม่มีฝีมือ ก็ต้องขอเชิญออกกันล่ะงานนี้
4.ให้ความสำคัญกับการลงทุนเฉพาะด้าน
โดยเฉพาะด้าน Research & Development ที่ Lee Kun-Hee ให้ความสำคัญมาก ๆ โดยการทุ่มทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาลเพื่อการพัฒนาด้านนี้ เพื่อยกระดับ Sumsung ให้มาเป็นบริษัทระดับโลกให้จงได้
5.คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์
เมื่อ Lee Kun-Hee เกิดแนวคิดในการพัฒนา จึงส่งผลให้พนักงาน 25% ของพนักงาน Sumsung ให้ความสำคัญของการทำ Research & Development พูดง่าย ๆ ก็คือมีคนจำนวน 50,000 คนของ Sumsung ที่พวกเขาต้องคิดค้นสิ่ง ใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ทุก ๆ วัน ….ถ้าเป็นเช่นนี้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซัมซุงถึงโตเอา ๆ ครับ…
6.แบ่งสัดส่วนเงินลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา
การให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาย่อมส่งผลให้ Sumsung ขึ้นมายืนในระดับโลก ซึ่งสัดส่วนเงินเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้บริษัทจะอยู่ที่ 9% ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ Lee Kun-Hee ยอมทุ่มสุดตัว เพื่อให้ตัวเองเข้าไปในตลาดโลกสามารถแข่งขันกับสินค้าของโลกตะวันตกได้
7.มองการณ์ไกล
สิ่งนี้ต้องถือว่าเป็นการมองการณ์ไกลที่น่ายกย่องมากชนิดที่แทบจะไม่มีผู้บริหารคนใดจะกล้าทำของ Lee Kun-Hee คือการคัดเลือกชายหญิงที่เป็นดาวรุ่งของบริษัท จำนวน 4,700 คน แล้วส่งคนเหล่านี้ไปอยู่ในประเทศต่าง ๆ รวม 80 ประเทศ โดยให้คนเหล่านี้ไปอยู่ในแต่ละประเทศเป็นเวลา 15 เดือน …หลายคนคงจะสงสัยว่าเขาส่งชายหญิงเหล่านี้ไปทำไมกัน
มาติดตามข้อต่อไปเลยครับ
8.มีการวางแผน เตรียมความพร้อม
ในช่วง 3 เดือนแรกดาวรุ่งชายหญิงของบริษัทจะถูกส่งให้เข้าไปในค่ายของประเทศเกาหลี เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องของภาษา วัฒนธรรมและประเพณีข้อปฏิบัติของแต่ละประเทศ พวกเขาต้องเรียนรู้หลายอย่างตั้งแต่ตื่นเวลา 05.50 น. เพื่อออกวิ่ง นั่งสมาธิ เรียนรู้มารยาทในการรับประทานอาหารของแต่ละประเทศ การเต้นรำและแม้แต่วิธีเข้าสังคม
9.ทุกสิ่งล้วนมีเหตุผล
จากนั้นดาวรุ่งชายหญิงจะถูกส่งออกไปประจำทั่วทุกมุมโลกในแต่ละประเทศอีกเป็นเวลา 12 เดือน หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ซัมซุงอยากจะครองโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่าได้เจาะตลาดในทุกประเทศบนโลกนี้
และไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายหญิงที่ถูกคัดเลือกมาต้องเสียสละความสุขส่วนตัวทั้งหมด เพราะพวกเขาต้องเดินทางไปคนเดียวไม่สามารถนำครอบครัวไปด้วยได้
10.รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
หลายคนสงสัยว่าพวกเขาเหล่านี้ไปทำอะไรภายในเวลา 12 เดือน โดยที่พวกเขาไม่ต้องทำงาน แต่มีหน้าที่ไปใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นคนท้องถิ่นในประเทศนั้น ๆ เพื่อซึมซับวิถีการดำเนินชีวิต เข้าใจวิธีคิดของผู้คน เรียนรู้พฤติกรรมทุกอย่างของคนในแต่ละประเทศซึ่งมีความแตกต่างกัน และไปพบปะผู้คนเพื่อสร้าง Connection แล้วทำรายงานส่งกลับไปให้สำนักงานใหญ่ที่เกาหลีด้วย
11.สร้าง Personal connection
อีกเหตุผลที่ Lee Kun-Hee ส่งชายหญิงออกไปทั่วโลกก็เพื่อสร้าง Personal connection ในการเจาะตลาดของแต่ละประเทศ ซึ่งซัมซุงรู้ดีกว่าไม่สามารถสร้าง Personal connection ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น อย่างน้อยก็ใช้เวลา 1 ปี
12.เจาะตลาดด้วยยุทธศาสตร์ Actlocal,think global
การที่ Lee Kun-Hee ส่งคนของเขาไปอยู่ในแต่ละประเทศที่นานพอ มีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจผู้ใช้สินค้าในแต่ละประเทศ พวกเขาจะเข้าใจคำว่ามีน้ำใจของคนไทยว่าคืออะไร รายละเอียดเหล่านี้ที่เป็นการเจาะตลาดด้วยยุทธศาสตร์ Actlocal,think global
13.ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล
หลายคนเห็นตัวเลขสำหรับการส่งชายหญิงดาวรุ่งออกไปในแต่ละประเทศแล้วก็ตกใจไม่น้อย เพราะเป็นตัวเลขที่บริษัทต้องลงทุนถึง 470 ล้านเหรียญ โดยยังมองไม่เห็นเลยว่าผลตอบแทนที่จับต้องได้จะออกมาในรูปแบบไหน นอกจากนี้การส่งดาวรุ่งชายหญิงออกไปทำให้ที่สำนักงานใหญ่ที่เกาหลีของซัมซุง ต้องขาดคนหนุ่มสาวมาช่วยขับเคลื่อนบริษัท แต่ก็ต้องถือว่าโครงการนี้เป็นสุดยอดวิธีคิดในการสร้างซัมซุงให้เป็น Global player ที่พวกเขายอมลงทุนด้วยเงินมหาศาลสำหรับฝึกคนและสร้างคนที่กินเวลาแรมปี
14.กล้าเสี่ยงเพื่ออนาคต
ต้องถือว่าโครงการส่งดาวรุ่งชายหญิงออกไปมีความไม่แน่นอนมาก แต่ Lee Kun-Hee ก็กล้าเสี่ยงและมีความอดทนยินดีให้พวกเขามีความพร้อมและเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาถูกส่งกลับไปยังประเทศของตน คนเหล่านี้จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารเพื่อนำผลิตภัณฑ์ซัมซุงออกลุยตลาด
15.ไม่ยึดติดกับกรอบหรือความคิดของตัวเอง
Lee Kun-Hee เป็นผู้นำที่ไม่ยึดติดกรอบหรือความคิดของตัวเอง แต่เขาเชื่อในพลังของทีม เขาเชื่อในมันสมองของคนที่มีความเก่งกล้าสามารถ ความเชื่อเช่นนี้ทำให้เขาสามารถพัฒนาและนำพาซัมซุงก้าวเป็นผู้นำสมาร์ทดีไวซ์ Consumer Electronics ได้อย่างมั่นคง
ได้เห็นแนวคิดของ Lee Kun-Hee แล้วต้องยอมรับว่าบางข้อถึงกลับอึ้งเลยทีเดียว อย่างเช่นการส่งชายหญิงดาวรุ่งของบริษัทออกไปยังประเทศต่าง ๆ ให้ไปซึมซับการใช้ชีวิตและทำรายงานกลับมา นับเป็นแนวคิดที่ไม่เหมือนใครและต้องมีความกล้าที่จะลงทุนในจำนวนเงินมหาศาลด้วย ผมเชื่อว่าSMEs ก็สามารถนำแนวคิดของผู้บริหารซัมซุงไปต่อยอดในธุรกิจของตน ที่สำคัญต้องมีเป้าหมายที่ใหญ่จากนั้นวิธีการจะมา ผมเชื่อว่าถ้ามีแนวคิดแบบนี้ก็สามารถนำพาธุรกิจของเราไปถึงระดับแนวหน้าได้เช่นกันครับ
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME