ในโลกปัจจุบัน มีเครื่องมือทางการตลาดหลายอย่าง อาทิ 4P, 5P, 6P, 7P, 8P, SWOT, STP และอื่นๆอีกมากมาย ที่เข้ามาคอยสนับสนุนนักการตลาด ให้หยิบจับมาใช้ได้ตลอด โดยทุกๆเครื่องมือนั้นมีจุดประสงค์ในการวิเคราะห์อะไรบางสิ่งบางอย่างต่างกัน เพื่อการวางแผนอะไรบางอย่างต่อ แต่ทั้งหมดก็เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นผลกำไร, การประชาสัมพันธ์, การได้ช่วยเหลือสังคม หรือ อีกหลายๆวัตถุประสงค์

.

แต่ก็นั่นแหละครับ กว่าจะทำให้คนๆนึง รู้จักสินค้าหรือบริการของคุณนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะพากลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นผ่านกระบวนการทางการตลาดหลายๆอย่าง ทั้งการให้ข้อมูลบริษัท สินค้าหรือบริการ ความแตกต่างของแบรนด์ ตอกย้ำบ่อยๆ จนกลุ่มเป้าหมายเริ่มที่จะสนใจ แต่ก็ยังอีกไกลครับ กว่าเขาเหล่านั้นจะเริ่มตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการคุณ
.
วันนี้ผมมีอะไรมาเล่าให้ฟังในส่วนของ Marketing HourGlass โดยมี 7 ขั้นตอนสำคัญดังนี้

1.Know > ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย รู้จัก สินค้าหรือบริการของท่าน
2.Like > ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ชอบ สินค้าหรือบริการของท่าน
3.Trust > ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เชื่อ สินค้าหรือบริการของท่าน
4.Try > ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทดลองใช้ สินค้าหรือบริการของท่าน
5.Buy > ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซื้อ สินค้าหรือบริการของท่าน
6.Repeat > ทำให้ลูกค้าที่เคย ซื้อ สินค้าหรือบริการของท่าน กลับมา ซื้อซ้ำ
7.Refer > ทำให้ลูกค้าที่เคย ซื้อ สินค้าหรือบริการของท่าน บอกต่อ สินค้าหรือบริการของท่านให้

.

ถ้าลองวิเคราะห์กันดูดีๆ หลายๆแบรนด์ที่เราเลือกใช้ เราเคยรู้สึกแบบนี้บ้างไหมครับ แรกๆก็ยังไม่รู้จัก อาจจะเจอตามป้ายโฆษณา ตามทีวี ตามอินเตอร์เน็ต แล้วเราก็มาหาข้อมูลต่อ ถามเพื่อนบ้าง หาทางอินเตอร์เน็ตบ้าง พอเริ่มดูว่าอืม เข้าท่านะแบรนด์นี้ น่าลองก็เข้าไปทดสอบสินค้า ลองสินค้า แล้วถูกใจ เลยตัดสินใจซื้อ ใช้ไปเรื่อยๆ ถ้าสินค้าตอบโจทย์คุณ หรือช่วยคุณแก้ปัญหาบางสิ่งบางอย่างของคุณได้ คุณก็กลับมาซื้อซ้ำ จริงไหมครับ ยังไม่พอ เวลามีเพื่อนๆมาถามคุณ คุณยังทำตัวเองเป็นตัวแทนขายให้แบรนด์นั้นๆซะงั้น ทั้งๆที่ไม่ได้เงินจากการแนะนำสักบาท แต่ก็ยินดีจะแนะนำสิ่งดีๆที่ตัวเองได้ทดลองใช้แล้ว ให้เพื่อนๆเราได้ใช้เช่นกัน จริงไหมครับ

.
ดังน้น ถ้าแบรนด์ไหน ทำการตลาดจนมาถึงคุณแล้ว ผ่านกระบวนการไปเรื่อยๆแล้วคุณบอกต่อสินค้านั้น เท่ากับว่าแบรนด์นั้นทำการตลาดได้สำเร็จดีเยี่ยมครับ และกระบวนการที่แบรนด์นั้นใช้ มักสอดคล้องกับ Concept นี้เช่นกัน

ผมขอแบ่งเป็น 3 ส่วนนะครับ ในส่วนของ Brand Awareness, Brand Consideration และ Brand Loyalty

.

Brand Awareness นั้น ทำ 2 อย่างหลักๆ (Know and Like) คือ การทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รู้จักสินค้า และชอบสินค้า

Brand Consideration นั้น ทำ 3 อย่างหลักๆ (Trust, Try and Buy) คือ การทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เริ่มเชื่อมั่นในตัวสินค้า สนใจทดลองใช้สินค้า และ ตัดสินใจซื้อสินค้า

Brand Loyalty นั้น ทำ 2 อย่างหลักๆ (Repeat and Refer) คือ การทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลับมาซื้อสินค้าซ้ำ และเป็นกระบอกเสียงให้ท่าน ที่ช่วยบอกต่อสินค้าหรือบริการของท่าน ให้กับคนที่เขารู้จัก

สินค้าที่ว่าดีแล้ว แต่ถ้าขาดการกระบวนการทางการตลาดที่ดี ก็ยากที่จะสำเร็จครับ ยิ่งในยุคปัจจุบันด้วยแล้ว เราอาจไม่ได้แข่งขันกันแค่ในประเทศ อาจต้องมองเกมส์ยาวๆ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อให้แข่งขันในตลาดโลกได้

เริ่มเห็นความสำคัญของการวาง Content ที่ดีไหมครับ ไม่ว่าจะสื่อสารในรูปของบทความ รูปภาพ วีดีโอ หรือสื่อการตลาดอื่นๆนั้นล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของลุกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณทั้งสิ้น ดังนั้น คิดให้ครอบคลุมนะครับ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คิดถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณให้เยอะๆครับ ว่าเขาเป็นใคร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร การศึกษาระดับไหน มีปัญหาด้านใด สินค้าคุณช่วยแก้ปัญหาอะไรให้กลุ่มลูกค้าเหล่านั้นได้บ้าง แล้วทำไมลูกค้าต้องซื้อแบรนด์คุณล่ะ อะไรคือจุดต่างของแบรนด์คุณที่ดีหรือเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดนั้นๆบ้าง รบในกระดาษให้ชนะก่อนนะครับ สำเร็จในกระดาษก่อนออกตลาดจริง

ถ้าหากสินค้าหรือบริการของท่านยังไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็ควรวิเคราะห์หาสาเหตุ แล้วปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆนะครับ เป้าหมายไม่ควรเปลี่ยน แต่วิธีการปรับเปลี่ยนได้เสมอครับ แต่ถ้ายังหาสาเหตุไม่เจอล่ะก็ แนะนำว่าควรปรึกษากับนักการตลาดผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนกลยุทธนะครับ

.
ก่อนจากกันในบทความนี้ ฝากไว้อีกหนึ่งประโยคครับ

Building Brand is not just an advertising

.
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของท่านได้นะครับ

บุญรักษาครับ ^__^
.

เชน ธัญนนทร์ จันท์รัฐมณี
#ที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธการตลาด
#สำเร็จในกระดาษก่อนออกตลาดจริง