ในชีวิต ทุกคนเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนหลายครั้ง ตั้งแต่เด็กเปลี่ยนจากชั้นประถมศึกษาไปมัธยมศึกษา สู่เรียนมหาวิทยาลัย ก้าวเป็นผู้ใหญ่เปลี่ยนไปทำงานตามถนัด

จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ เป็นวัฏจักรที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้และด้วยความเปลี่ยนแปลงทั้งดีและแย่มีผลทำให้หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนงาน

เชื่อว่าคุณผู้อ่านเคยสงสัย เมื่อไหร่มนุษย์เงินเดือนควรเปลี่ยนงานใหม่ สมัครงานใหม่? กันแน่ บทความนี้ Taikaemai.com แนะนำ  3 ปัจจัยเหมาะสมไขข้อสงสัยนี้

1. ปัจจัยส่วนตัว สมัครงานใหม่โอกาสใฝ่คว้าความสำเร็จ

กราฟชีวิตการทำงานของทุกคนคล้าย ๆ กันคืออยู่ในลักษณะของ S-Curve เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้อย่างหนัก ค่อยไต่ระดับสู่ความก้าวหน้าและอยู่ตัวในที่สุด แต่ละช่วงมีทั้งเรื่องดีและแย่ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ

  • อยู่ในช่วงผลงานดี

ช่วงพีคสุด กราฟการทำงานพุ่งฉิว ถือเป็นช่วงที่ควรเปลี่ยนงาน สมัครงานใหม่มากที่สุดเพราะผลงานที่ทำสำเร็จเป็นตัวการันตีอย่างดีในการเลือกสถานที่ใหม่ ทำงานในตำแหน่งสูงขึ้น มีรายได้เยอะขึ้นหลายเท่าตัว

  • ก้าวทันเพื่อนร่วมรุ่น

ช่วงพีค ๆ บางครั้งยังพีคไม่สุด ที่ทำงานเดิมอาจก้าวหน้าช้าไปหน่อย เทียบกับเพื่อนร่วมรุ่นแล้วห่างกันหลายก้าว เกิดช่องว่างเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนงานใหม่ สมัครงานที่ก้าวหน้าเร็วกว่าเดิมเพื่อลดช่องว่างเดินเกี่ยวก้อยเพื่อร่วมรุ่นเป็นสิ่งควรทำอย่างยิ่ง

  • ช่วงวัยเรียนรู้

ช่วงอายุก่อนถึงเลข 3 เป็นช่วงค้นหาตัวเอง หากทำงาน 2 ปีแล้วรู้สึกไม่ชอบ ไม่ใช่ ควรเปลี่ยนงานใหม่ สมัครงานเพื่อได้งานที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่ก็อย่าชะล่าใจเพราะระยะเวลาหลังจากจบการศึกษาก่อนถึงเลข 3 สั้นนิดเดียว สามารถเปลี่ยนงานได้ 2 – 3 ครั้งเท่านั้น ทางที่ดี ควรทำงานที่ใช่ให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างฐานมั่นคงไว ๆ

  • อยากได้เวลาส่วนตัวกลับคืน

ตลอดช่วง S-Curve หากภาระงานกินเวลาส่วนตัว เวลาครอบครัวหมด ไม่มีเวลาพักผ่อนทำให้สุขภาพย่ำแย่ ความสัมพันธ์คนรอบข้างร้าวฉาน ควรถึงเวลาเปลี่ยนงาน สมัครงานเพื่อปรับสมดุลชีวิตลงตัว เติมความสุขแก่ชีวิต สร้างครอบครัวอบอุ่น มีเวลาเป็นของตนเอง ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงดังเดิม

  • งานไม่สอดคล้องเป้าหมาย

งานบางอย่างแม้ผ่านช่วงอยู่ตัวของ S-Curve  แล้วก็ตามแต่เหมาะกับเป้าหมายระยะสั้นเท่านั้น เมื่อถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยนงานใหม่ สมัครงานที่ใหญ่ขึ้น ก้าวหน้าเร็วขึ้นตอบสนองต่อเป้าหมายอย่างเหมาะสมในเวลานั้น ๆ เพื่อประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้อย่างเป็นขั้นตอน

2. ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ปัญหาฝังรากลึก

สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดการเปลี่ยนงาน สมัครงานอย่างสูงเพราะมีผลกระทบต่อการทำงานโดยตรง ทำให้เกิดบรรยากาศไม่เอื้อต่อการทำงาน

  • ขัดแย้งอย่างหนัก

เหตุผลยอดฮิตของการเปลี่ยนงาน สมัครงานไม่ว่าจะขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือผู้บริหาร สิ่งเหล่านี้บั่นทอนกำลังใจ บรรยากาศการทำงานอย่างมาก ถ้าขัดแย้งรุนแรง เครียด กดดัน ส่งผลต่อสุขภาพจิต ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วง S-Curve  การเดินออกเป็นหนทางหนึ่งแก้ปัญหาได้

  • งานหนัก เบื่อ เงิน เดือนไม่ขึ้น

ใคร ๆ ก็อยากมีผลงานจึงทำงานตลอดช่วง S-Curve  อย่างเต็มที่เพื่อโอกาสได้รับการโปรโมท เลื่อนตำแหน่ง เพิ่มเงินเดือน ไฟล้นปรี่บวกความรู้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการแต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มค่า ทำงานหนักไม่ได้หลับไม่ได้นอนกลับถูกเพิกเฉย หมดกำลังใจ เบื่องาน เบื่อสภาพแวดล้อม หากทนไม่ไหวเปลี่ยนงาน สมัครงานใหม่ดีกว่า

  • ไม่ปลื้มวัฒนธรรมองค์กร

ทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรเพื่อทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข พึ่งพาอาศัยกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของทีมและองค์กร แต่หลาย ๆ กรณีเป็นอุปสรรคต่อการทำงานอย่างมาก เช่นคนในองค์กรมีอีโก้สูงเกินไปไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น พนักงานทำงานโดยขาดแรงกระตุ้น ต่างคนต่างทำงาน ไม่ปรึกษากัน ทัศนคติแย่ จู้จี้ขี้บ่น โกหกหลอกลวงไม่จริงใจ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้แก้ยากมาก ถึงจุดหนึ่งที่ต้องยอมรับความจริง การเปลี่ยนงาน สมัครงานอยู่กับองค์กรวัฒนธรรมใหม่ เป็นทางออกหนึ่ง

3. ปัจจัยองค์กร ไม่เอื้อต่อการเติบโต

การเลือกองค์กรทำงานด้วยเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ องค์กรที่ทำงานด้วยแล้ว สามารถเจริญก้าวหน้าในอาชีพมีตำแหน่งสูง เงินเดือนดี สวัสดิการเยี่ยม นโยบาย วิสันทัศน์ชัดเจนองค์กรเหล่านี้เป็นที่หมายตาของทุกคน แต่ถ้าอยู่แล้วไม่ก้าวหน้า ไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย ก็เสี่ยงอย่างมาก

  • เพื่อความก้าวหน้า

ส่วนใหญ่การเปลี่ยนงาน สมัครงานเกิดขึ้นจากทำงานองค์กรเดิมก้าวหน้าช้า เปลี่ยนงานแต่ละครั้งชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีตำแหน่งสูงขึ้น เงินเดือนเพิ่มขึ้นหลายเท่าและสวัสดีการยอดเยี่ยม หลายคนนิยมใช้วิธีนี้เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตและบรรลุเป้าหมาย มีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เตรียมพร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ ที่เข้ามา

  • เปลี่ยนนโยบายบ่อยเกินไป

องค์กรที่เปลี่ยนผู้บริหาร ปรับนโยบายบ่อย ขาดวิสัยทัศน์ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลเสียต่อการทำงานโดยรวม อีกทั้งพนักงานไม่มั่นใจ ปรับตัวไม่ทัน ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน หลายคนจำต้องเปลี่ยนงาน สมัคงานเพื่อความมั่นคงกว่าเดิม

  • องค์กรอยู่ในช่วงขาลง

การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่มีผลกระทบต่อองค์กรอย่างมาก ในรอบ 10 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หากองค์กรไม่เตรียมพร้อม ปรับตัว รับมือการเปลี่ยนแปลงอาจประสบปัญหาหนักทำให้ธุรกิจทรุด ผลประกอบการตกวูบติดต่อกันเป็นเวลานาน พนักงานเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่อยากทำงานกับองค์กรมีความเสี่ยงสูง จึงต้องเปลี่ยนงานใหม่ สมัครงานอยู่กับองค์กรทันสมัย มั่นคงกว่า

การเปลี่ยนแปลงของโลกในหลายมิติกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ และคนทำงาน การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเจริญก้าวหน้า แต่หากเปลี่ยนแปลงทางแย่ทุกภาคส่วนต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี

หากคุณผู้อ่านเข้าใจวัฏจักรเหล่านี้ รู้จักศักยภาพของตัวเองเป็นอย่างดี ประเมินสิ่งแวดล้อมในองค์กรถูกต้อง เข้าใจสถานการณ์ขององค์กรแจ่มชัด ทำให้สามารถวางแผนอนาคต ปรับตัวได้ทัน หาโอกาสที่เหมาะสมให้กับชีวิต เปลี่ยนงานสมัครงานใหม่เพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น บรรลุเป้าหมาย ประสบความสำเร็จ ไม่ตกหล่มอยู่กับปัญหากวนใจ

เปลี่ยนงานใหม่