มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปั้นเพจให้มีแสน Like แบบธรรมชาติในเวลาแค่ 1 เดือน หากไม่ได้มีการวางแผนและศึกษามาเป็นอย่างดีคงต้องบอกว่า “เหนื่อย”

ยิ่งเป็นเพจที่ไม่ใช่เป็นแค่ Community แต่เป็นเพจที่วางแผนไว้สำหรับการขายสินค้าอะไรบางอย่างด้วยแล้วต้องบอกว่ายิ่งใช้ความรู้และทักษะเพิ่มเข้าไปอีก

วันนี้ผมได้มีโอกาส “แกะรอยความคิด” ของเพจที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือเพจ “ย้อนวัยไปจ๊าบ” ซึ่งเจ้าของเพจนี้ผมเองก็รู้จัก และแฟนคลับเถ้าแก่ใหม่ก็อาจจะรู้จักนะครับ สำหรับคุณ เอิร์ หรือ คุณ สรรเสริญ จตุรภัทร ซึ่งผมได้มีโอกาสนำเรื่องราวของคุณเอิร์มาบอกเล่าให้พวกเราได้รู้จักแล้วในเว็บ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักลองอ่านประวัติคุณเอิร์ ครับ

นอกจากเขาทำเรื่องของธุรกิจอาหารเสริมแล้ว ตอนนี้เขายังเปิดบริษัทรับทำการตลาดผ่าน Content Marketing ครบวงจรอีกด้วย

มาดูแนวคิดเพจ ย้อนวัยไปจ๊าบ กันดีกว่าครับว่า เพจนี้สร้างกระแสได้อย่างไร และสินค้าที่ถูกนำมาทำการตลาด ขายในเพจนี้เป็นกลุ่มไหน

 

1.โจทย์ของสินค้า

การทำเพจขายสินค้าให้เป็น Community นั้นเราต้องตีโจทย์ให้ได้ก่อนว่าสินค้าเป็นอะไร ลักษณะเป็นอย่างไร คุณประโยชน์แบบไหน แพ็คเก็จ ราคา ฯ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเพจ

2.ลูกค้ากลุ่มไหน

เมื่อรู้แล้วว่าสินค้าเราเป็นแนวโบราณ ๆ ย้อนยุคอยู่พอสมควร เราก็มาเลือกลุ่มลูกค้ากันต่อว่าเขาอยู่กลุ่มไหน โจทย์นี้จะแปรผันตามสินค้า อย่างของเพจ ย้อนวัยไปจ๊าบ กลุ่มลูกค้าคือคนอายุ 30-45 ปีเป็นช่วง Gen X ตอนท้าย อยู่ในช่วงปี 90 มีทั้งดนตรี กิจกรรมอะไรต่าง ๆ ที่เป็นของคนกลุ่มนี้

3.ค้นหาจุดร่วม

เรารู้สินค้า กลุ่มลูกค้า เข้าสู่แนวคิดที่สำคัญของการสร้าง Content คือ อะไรหละคือจุดร่วมของกลุ่มคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเรา อะไรหละที่จะเป็นมุมให้เราสอดแทรกสินค้าเข้าไปในชุมชนแห่งนี้ ทุกอย่างต้องวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เราหาจุดร่วมแล้วค่อย ๆ สร้างชุมชนขึ้นมาโดยที่ยังไม่ต้องมีการขายสินค้าอะไรก่อนเลย

4.เจาะใจด้วยเรื่องอารมณ์

จุดร่วมที่สำคัญคือพยายามเจาะใจเข้าไปที่เรื่องของอารมณ์ด้านใดด้านหนึ่งไม่ว่าจะเป็น ความรัก ความสนุก ความเศร้า ความกลัว ความฮาฯ ยิ่งเราเจาะเข้าถึงมากเท่าไหร่โอกาสที่จะเกิดการแชร์ การ like การบอกต่อยิ่งมีมากขึ้น พยายามอย่าใส่เรื่อง “ความเครียด” เข้าไปในเพจ เพราะมันจะทำให้บรรยากาศในเพจเสียไป

5.สร้างความเป็นกันเอง มีชีวิตชีวา

คำว่าชุมชนมันต้องมีความเป็นกันเอง คำพูดที่โพสเพื่อเสนอ Content ต้องแสดงถึงความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นภาษาที่เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับหรือลูกเพจ ยิ่งเป็นกันเองมากเท่าไหร่คนก็ยิ่งเข้ามาร่วมพูดคุย คิดเหมือนกับว่าเรากำลังนั่งล้อมวงเล่าเรื่องตลก ๆ กันนั่นแหละ คิดเหมือนเวลานั่งคุยกับเพื่อน ๆ สบายๆ

6.ใช้รูปภาพ คลิป VDO พูดแทน Admin

เลือกที่จะใช้ Media ในการสื่อสารพูดคุยกับลูกเพจ อย่างเพจย้อนวัยไปจ๊าบ เลือกที่จะใช้รูป และคลิป VDO เพื่อสื่อสารกับลูกเพจ แทนคำพูดของ Admin แฟนคลับเขาสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยในช่วงวัยที่เขาเป็นเด็กหรือวัยรุ่น จึงเกิดการแชร์บอกต่อกันอย่างรวดเร็ว

7.สม่ำเสมอและชัดเจนในสิ่งที่ทำ

ให้เวลาตัวเองในการสร้างธุรกิจ และสม่ำเสมอในสิ่งที่ทำ เราโพสทุกวัน ค้นหาคลิป ค้นหาเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่กลุ่มแฟนคลับเราคุ้นเคยมานำเสนอในเพจ เรื่องนี้ต้องใช้ความพยายามและอดทนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมันจะเกิดเป็นชุมชนในอนาคต

1 คลิปแทนคำพูดกว่าหมื่นกว่าแสนคำ แต่กว่าจะได้มาแต่ละคลิปเราต้องทีโจทย์เป็นร้อยครั้งเช่นกัน นี่คืองานเบื้องหลังที่ยากและต้องใช้ความพยายาม

8.การมีส่วนร่วมคือการลดค่าโฆษณา

            การทำธุรกิจตอนแรก ๆ คือต้องมองประเด็นของต้นทุนเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งปัจจุบันเฟสบุ๊คมีอัตราการมองเห็นที่น้อยมาก หากต้องการให้คนเห็นมากขึ้นก็ต้องลงโฆษณาซึ่งนับว่าเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงในตอนเริ่มหากเราไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ก็ไปต่อค่อนข้างยาก

เราสามารถประหยัดต้นทุนการโฆษณาลงได้มากกว่า 50-80% หากเรามีการวางแผนละทำ Content ดี ๆ สักตัวขึ้นมา อย่างเพจย้อนวัยไปจ๊าบ หากให้ได้แสน Like โดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง Content แต่ใช้วิธีการซี้อโฆษณาเพียงอย่างเดียว อาจจะต้องใช้เงิน 2-3 แสนเป็นอย่างน้อยเพื่อให้ได้ Like ขนาดนี้

แต่การสร้างชุมชนด้วย Content สร้างการมีส่วนร่วมเราแทบไม่ต้องจ่ายเงินโฆษณาเลย ทำเพียงการจ่ายเวลาในการค้นหา Content สร้าง Content ดี  ๆ ให้กับลูกค้าเพียงแค่นั้น

9.เปิดตัวสินค้าในเวลาที่เหมาะสม

เพราะเราวางแผนที่จะสร้างชุมชนเพื่อปล่อยสินค้าของเราลงไปในชุมชนที่เราสร้างดังนั้น การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการ “ปล่อยของ” จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและสำคัญ ยกตัวอย่าง หากเราตั้งเป้าว่าจะสร้างชุมชนให้มีคน Like ก่อนสัก 1 หมื่น Like แล้วค่อย ๆ ปล่อยสินค้าหรือบริการ เราก็คงต้องรอให้ถึง แต่ที่สำคัญกว่าจำนวน Like คือเรื่องของ “อารมณ์” ของลูกเพจด้วยว่าเป็นประมาณไหน เขามีความต้องการไหม หากไม่ได้ต้องการการเปิดตัวสินค้าออกไปก็อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมก็เป็นได้

คีย์สำคัญคือเราต้อง วางเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ จำนวน Like,จำนวน Reach หรือจำนวน Engage เป็นตัวตั้งต้นก่อนแล้วมาดูเรื่องอารมณ์ต่าง ๆ ประกอบเมื่อตัวเลขมันถึง KPIs ที่เรากำหนดไว้เบื้องต้น

10.วางแผนบริหารปฏิกิริยาตอบโต้จากลูกเพจ

แน่นอว่าการที่เราทำชุมชนขึ้นมาในวันที่เราเปิดตัวสินค้าที่วางแผนไว้มีทั้งปฏิกิริยาตอบรับในทางที่เห็นดีเห็นงามด้วย กับคนที่ไม่ชอบตอบโต้โดยการ unlike หรือ Comment ต่อว่าดัดพ้อ 2 สิ่งนี้เกิดข้นอย่างแน่นอน

เราต้องมีแผนในการดำเนินการตอบคอมเมนต์ ทำความเข้าใจให้ลูกเพจเข้าใจ และยินดีจะไปต่อกับเพจ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราเปิดตัวสินค้าเราแล้วนั้น เราก็คงไม่ได้แค่เพียงขายสินค้าตลอด Way เราเองก็ยังต้องนำเสนอสิ่งต่างตามที่เคยนำเสนอมา รักษามาตรฐานการโพสไว้ การขายสินค้าเป็นเพียงแค่จุดเล็ก  ๆ ที่เราสร้างขึ้นมาในเพจเท่านั้น

 


หลักสูตร SME CONTENT SELF MADE การทำการตลาด CONTENT MARKETING สำหรับธุรกิจ SMES

เรียนรู้การทำ Content Marketing แบบจับมือทำ 7 วัน 7 workshopพร้อมระบบการติดตามการทำงาน 30 วัน เต็มๆ

รายเอียดหลักสูตร >>SMEs Content Self Madeการทำการตลาด Content Marketing สำหรับธุรกิจ SMEs