เทคนิคขายแบบไม่ขาย เพิ่มยอดขาย 10x แค่เข้าใจสิ่งนี้

มีวลีหนึ่งที่นักขายทุกคนจำเป็นต้องตระหนักถึงเกี่ยวกับลูกค้าให้มากก็คือลูกค้าทุกคนนั้นอยากจะซื้อสินค้าแต่พวกเขาไม่อยากจะถูกขายสินค้า ด้วยวลีนี้จึงทำให้นักขายที่เข้าหาลูกค้าด้วยการนำเสนอขายสินค้าโดยตรงจึงมักจะไม่ประสบความสำเร็จในการขายและไม่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างที่ตนต้องการแต่สำหรับนักขายที่มีประสบการณ์สูงพวกเขาเหล่านั้นมักจะสร้างยอดขายจำนวนมากโดยที่แทบไม่ต้องนำเสนอการขายสินค้าแม้แต่ชิ้นเดียว อะไรคือวิธีการที่พวกเขาใช้ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้ด้วยกัน

อะไรคือข้อแตกต่างที่ทำให้นักขายหน้าใหม่ปิดการขายสินค้าไม่สำเร็จ

หนึ่งในแพทเทิร์นสำคัญที่นักขายมือใหม่มักจะใช้สำหรับความพยายามในการปิดการขายกับลูกค้าคือการพยายามบรรยายสรรพคุณของสินค้าให้ลูกค้าทราบว่าสินค้าของตนมีประโยชน์อย่างไรโดยไม่ได้คำนึงถึงว่าลูกค้าต้องการที่จะทราบประโยชน์ของสินค้าเหล่านั้นหรือไม่ วิธีการดังกล่าวนี้อาจกล่าวโดยสรุปว่าเป็นความพยายามในการนำเสนอสินค้าในมุมมองของผู้ขายโดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเลยแม้แต่น้อย หากนักขายมือใหม่ยังคงใช้วิธีการนี้ในการขายสินค้าอยู่ก็เชื่อได้เลยว่านักขายคนนั้นจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการขายสินค้าอย่างแน่นอนแต่สำหรับนักขายมือเก๋าที่เชี่ยวชาญในด้านการขายพวกเขาจะใช้วิธีการที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ่งที่เขาขายนั้นไม่ใช่การนำเสนอสินค้าโดยตรงแต่ลูกค้าแต่เป็นการนำเสนอไอเดียมุมมองและความคิดให้ลูกค้ารู้สึกอินไปกับมันซึ่งเรียกกันว่าเป็นการขายแนวความคิดให้กับลูกค้า

เทคนิคขายแบบไม่ขาย ด้วยการขายไอเดีย ขายความคิด

การขายไอเดียหรือการขายความคิดเกี่ยวกับสินค้าคือการแชร์ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น ตัวอย่างเช่นสินค้าเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างไรโดยเป็นการแชร์ไอเดียหรือแนวความคิดผ่านมุมมองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญซึ่งนักขายที่เก๋าเกมมักจะมองออกว่าอะไรคือ pain point ที่ลูกค้าคนนั้นต้องการที่จะได้รับการแก้ปัญหา พวกเขาจะใช้วิธีการขยี้ไปที่ pain point โดยตรงโดยดึงเอาประสบการณ์ที่ไม่ดีของลูกค้ามาตีแผ่ในเชิงที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวของนักขายเข้าอกเข้าใจพวกเขาเป็นอย่างยิ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวของนักขายเป็นพวกเดียวกันกับเขานั่นเองนอกเหนือไปจากประโยชน์หรือวิธีการแก้ปัญหาที่ลูกค้าจะได้รับบางครั้งนักขายก็อาจจะแชร์ไอเดียหรือขายแนวความคิดที่เป็นประโยชน์แฝงจากตัวของสินค้าทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านั้นมีความน่าสนใจจนนำไปสู่การปิดการขายได้สำเร็จ

แล้วนักขายจะเริ่มต้นขายไอเดีย ขายความคิดของลูกค้าได้อย่างไร

หากนักขายหน้าใหม่ต้องการที่จะพัฒนาการขายของตนเองไปสู่แนวทางของการขายแนวความคิดขายไอเดียแทนการขายสินค้าโดยตรงสิ่งแรกที่นักขายหน้าใหม่จะต้องทำความเข้าใจก็คือคุณจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรคือปัญหาหรือ pain point ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเจ็บปวดอยู่เสมอเมื่อมีใครหรืออะไรก็ตามไปสะกิดถึงมันจากนั้นให้คุณทำความเข้าใจตัวของสินค้าอย่างละเอียดว่าสินค้าที่คุณมีจะช่วยแก้ไขปัญหาหรือแก้ pian pointให้กับลูกค้าได้อย่างไรบ้าง เมื่อคุณเข้าใจ สินค้าโดยละเอียดและรู้ว่าอะไรคือปัญหาหลักของ ลูกค้าการเข้าหาลูกค้าคุณจะต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจพร้อมกับนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาให้กับตัวของลูกค้าโดยไม่ให้พยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อสินค้าโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณกำลังเข้าหาพวกเขาด้วยการหวังผลประโยชน์จากพวกเขา คุณควรที่จะรับฟังว่าปัญหาของลูกค้ามีอะไรบ้างโดยให้ลูกค้าเป็นผู้เล่ารายละเอียดของปัญหาให้คุณฟังจากนั้นให้คุณพยายามช่วยลูกค้าแก้ปัญหาโดยวิธีการที่ทำให้เห็นว่าสินค้าของคุณสามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างไร วิธีการนี้จะแตกต่างจากความพยายามยัดเยียดสรรพคุณหรือประโยชน์ของสินค้าโดยที่ไม่พยายามรับฟังปัญหาของลูกค้าเลย หากนักขายใช้วิธีการนี้ก็มีโอกาสที่จะทำให้การขายของคุณสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น

การขายไอเดีย ขายแนวความคิดคือการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า

หากจะให้นิยามการขายไอเดียหรือการขายแนวความคิดให้กับลูกค้าออกมาให้สั้นและกระชับที่สุดก็คือเป็นการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้านั่นเองคำกล่าวนี้ดูจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะลูกค้าที่มีปัญหาพวกเขาต้องการแนวทางการแก้ปัญหาที่จะสามารถช่วยพวกเขาได้จริง หากคุณสามารถทำให้พวกเขาเห็นว่าสินค้าหรือบริการของคุณสามารถแก้ปัญหาหนักอกหนักใจของพวกเขาได้สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาก็คือความสุขและความหวังที่ว่าปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขและคลี่คลายออกไปและมีโอกาสที่ลูกค้าคนนั้นก็จะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณโดยที่คุณไม่ต้องพยายามในการบรรยายสรรพคุณสินค้าออกมาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการขายไอเดียหรือการขายแนวความคิดก็คือศาสตร์ที่ทำให้คู่สนทนา คล้อยตามและทำตามในสิ่งที่คุณต้องการหลังจากที่ฟังการบรรยายหรือการพูดคุยกับคุณแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้ในส่วนของการใช้ชีวิตประจำวันคุณก็ยังสามารถนำเอาศาสตร์ของการขายไอเดียและการขายความคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเห็นผลในหลายหลายกรณีเช่นกัน

หากนักขายอยากจะปิดการขายสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่าคุณจำเป็นต้องศึกษาศาสตร์ของการขายไอเดียและการขายความคิดแทนการขายสินค้าโดยตรงเพราะหากคุณบรรลุถึงศาสตร์นี้และใช้งานมันได้อย่างช่ำชองคุณจะกลายเป็นนักขายที่อยู่ในแถวหน้าของวงการและสามารถขายอะไรก็ตามที่อยู่ในโลกใบนี้โดยที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของสินค้าเลยแม้แต่คำพูดเดียว

อ้างอิง:

https://vt.tiktok.com/ZSLkJpyJc/

https://vt.tiktok.com/ZSLkJotQ1/

หลักสูตรเทคนิคการขายและการให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพ

( หลักสูตร 1 วัน )

แนวความคิดของหลักสูตร

  • องค์กรที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าด้วยความจริงใจ และสร้างมาตรฐานงานบริการให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นทุกองค์กรจึงมีแผนการพัฒนาพนักงานขายให้มีมาตรฐานรองรับความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การเป็นพนักงานขายผู้เชี่ยวชาญในสินค้าและบริการ เป็นต้นทุนที่มากพอกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าต้องการเป็นผู้ตัดใจเองดังนั้นสิ่งที่คาดหวังจากพนักงานขายคือ สามารถให้คำปรึกษา และแนะนำได้อย่างมืออาชีพ
  • พนักงานขายยุคปัจจุบันจึงควรพัฒนาตัวเองให้สามารถเป็นที่ปรึกษาได้อย่างครบเครื่อง ทั้งเรื่องแนวความคิด สินค้า เทคนิค และการให้บริการ ในแบบฉบับของตัวเองที่สามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับลูกค้าได้อย่างตรงใจ ซึ่งเป็นที่มาของความประทับใจในการทำงานขายงานบริการของนักขายที่มีการเตรียมตัวเป็นนักขายที่ตอ
  • ประเด็นสำคัญที่พนักงานขายควรคำนึง คือ ความต้องการของลูกค้า , ผู้มีอำนาจตัดสินใจ, ขั้นตอนการตัดสินใจและ บทบาทของนักขายที่ควรเลือกให้เหมาะสม เน้นพิเศษในการเป็นนักขายเชิงที่ปรึกษา

วิทยากรการตลาดออนไลน์