เถ้าแก่ใหม่ : เล่าประวัติตัวเองให้ฟังหน่อย

คุณนนท์ : ถิ่นกำเนิด เป็นชาวนครศรีธรรมราช เป็นคนชอบประดิษฐ์นู้นนี้นั้นใช้เองมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นไปได้ว่าติดเชื่อมาจากคุณแม่ คุณแม่ท่านเป็นครูประถม สอนงานศิลปะ หัตถกรรม ผมจึงคลุกคลีกับงานประเภทนี้มาตั้งแต่เล็กๆ แต่พอโตหน่อยกลับไม่เลือกที่จะเรียนด้านงานศิลป์ หรือจิตกรรมแฮะ สิ่งที่เลือกเรียนกลายเป็นช่างอิเล็คทรอนิกส์ แล้วก็มาต่อด้านคอมพิวเตอร์ ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตภาคใต้สงขลา (ตอนนั้นยังไม่เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัย) ตามยุคครับ

ยุคนั้นคอมพิวเตอร์กำลังมา ใครทำงานด้านนี้ เงินเดือนสูงมากๆ แต่ลืมมองไปว่า จะได้เงินเดือนสูงมากๆ คุณก็ต้องเก่งมากๆด้วย อิอิ แต่ผมมันไปไม่ถึงขั้นนั้นนะซิ….

เอาวะ เลือกใหม่ งั้นเปลี่ยนเป็นแนวสื่อแล้วกัน เช่นกันในช่วงนั้นงานสื่อต่างๆมีบทบาทสูงมาก เลยเฟ้นหาหลักสูตรปริญญาตรีด้านนี้ มาพบเจอกับภาควิชา ครุศาสตร์เทคโนยี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สอบเข้าเรียนได้สมใจหมาย

จบมาไม่นานก็หาทุนร่วมเปิดบริษัทกับรุ่นพี่รุ่นน้องที่มาด้วยกันจากภาคใต้ เป็นบริษัทรับผลิตงานด้านคอมพิวเตอร์ ทั้งเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ วงจรอิเล็คทรอนิค ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครโปรเซสเซอร์ ไปได้สวยครับงานเข้าเยอะแยะ แต่… ชีวิตผมช่วงนั้น มีคำว่าแต่บ่อยมาก (หัวเราะ) ชั้นเชิงทางธุรกิจยังอ่อนนัก เก็บเงินไม่ได้บ้าง แก้งานเกินขอบเขตบ้าง โดนดึงโดนลากโดนดองกันเป็นปีๆ พยายามถูไถไปให้ตลอดรอดฝั่ง

คิดในใจเราต้องหาความรู้ด้านการบริหารธุระกิจเข้ามาเสริมซะแล้ว ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท ด้านบริหารการจัดการ มาเจอหลักสูตร MBAAdvance Programs ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดนใจมากลงเรียนเลยครับ จึงได้มาเจอพี่เกียรติ เกียรติรัตน์ จินดามณี เป็นรุ่นพี่ในโปรแกรมเดียวกัน ช่วยเหลือน้องๆมาตลอด ทั้งชี้ ทั้งแนะ ทั้งนำ นำเอาประสบการณ์มาบอกเล่าให้น้องๆได้ฟังกัน ถือโอกาสขอบคุณพี่เกียรติ พี่ที่น่ารัก ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

หลังจบหลักสูตร MBA ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็กลับมาไปทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มที่ ช้าไปแล้วท่าน ไม่ทันกาลที่จะกอบกู้เอกราชกลับคืนมาได้ เศร้าหนัก เจ็บใจเงินหมด ขอกลับไปพักฟื้น ที่บ้านเกิดเมืองนอนสักระยะดีกว่า เล่ามาถึงตรงนี้ รู้สึกประวัติผมยาวมันจะยาวไปนะ เอาน่า เหลืออีกหน่อย ทนอ่านต่อนะครับ

ช่วงที่กลับไปอยุ่บ้าน ไม่มีงานทำครับ ก็เริ่มใหม่อีกครั้ง คราวนี้เสาะหาธุรกิจออนไลน์ตอนนั้นในสายตาโฟกัสแค่เงินอย่างเดียวจริงๆครับ. ไปเจอธุระกิจออนไลน์อยุ่ชิ้นนึง เขาให้เราหาดาวน์ไลน์ แล้วจะได้เงินเปอร์เซนต์ ยิ่งดาวน์ไลนน์มาก ยิ่งได้เปอร์เซ็นเยอะ โอโห้ !! รีบจับเลยครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสินค้าคืออะไร ทำไปทำมาชักเริ่มเอะใจมันเหมือนการหลอกลวงต่อๆกันเป็นลูกโซ่ แต่กว่าจะรู้ตัว ตอนนั้นเสียเพื่อนไปหลายคนเลยครับ

เลิกเด็ดขาด หางานประจำทำดีกว่า ประจวบเหมาะเพื่อนร่วมรุ่นที่สงขลา แจ้งข่าวว่าโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แถวอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ต้องการเจ้าหน้าที่ IT Support เราก็มีความรู้ด้านนี้ น่าจะทำได้ เผลอๆอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ในใจคิดอย่างนั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ได้สวยหรูเหมือที่วาดไว้ จากที่ผมเล่ามา ผมไม่เคยมีประสบการณ์ การทำงานในบริษัทเลย สังคมการชิงดีชิงเด่น การขโมยผลงาน ก็เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งเป็นอะไรที่รับไม่ได้เอามากๆ ลาออกซิครับ ด้วยเงินเดือนสุดท้ายตอนนั้น 24000 กว่าบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าหลายๆคนในบริษัท

ตอนนี้แหละ เริ่มมาคิดทบทวนว่าจริงๆแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับชีวิต ทำไมมันไม่ประสบความสำเร็จกับการทำงานสักครั้ง.. คิดไปคิดมา คิดออกว่าเราคงไม่เหมาะกับงานที่ผ่านๆมา เป็นเพราะตัวเราเองนี่แหละ.. ถ้าอย่างนั้นทำอย่างไรละ

*** มาวิเคราะห์ตัวเองหาจุดเด่นจุดด้อย ***

ผลสรุปคือ กลับบ้านอีกรอบ รวบรวมทุน ทำธุระกิจของตัวเอง ไม่มีเจ้านาย ไม่มีผู้ร่วมหุ้น ไม่มีลูกน้อง พูดง่ายๆ ก็คือทำตามใจฉัน ได้คำตอบที่ธุระกิจ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่

ทำไมต้องเป็นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ?
ทั้งๆที่น่าจะเป็นขาลงของธุระกิจนี้..

ตอบคือ เพราะเป็นขาลงนี่แหละ ผมเลยสนใจ หลายรายต้องปิดตัวเองลงเนื่องจากการแข่งขันกันทางราคา แต่ไอเดียของผมคือผมไม่แข่งราคากับใคร

*** ผมตั้งราคาในระดับที่มีผลกำไรน่าพอใจ เน้นด้านคุณภาพ

เทคโนโลยี ความสะอาด สินค้าบริการครบครันตามความต้องการลูกค้า ทำไมผมถึงเน้นคุณภาพได้ ก็เพราะผมมีกำไรธุระกิจ ส่วนร้านที่แข่งราคา กำไรเขาน้อย คุณภาพก็ต้องลดลงไป ลองคิดดูครับราคาต่างกันชั่วโมงละไม่กี่บาท แต่คุณภาพ ความสะอาด ความสะดวกสบายต่างกันมาก จะเลือกเข้าใช้บริการร้านไหน นั้นคือหนึ่งธุระกิจ แน่นอนว่าเมื่อร้านอินเตอร์เน็ตเดินไปด้วยตัวของมันเองได้

ทว่ากลยุทธนี้ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร เมื่อไหร่ที่คุ่แข่ง รู้ทันและลอกเลียนแบบได้ เมื่อนั้นส่วนแบ่งทางการตลาดผมจะลดลงทันที เพราะฉนั้นอย่าหยุดอยู่กับที่ ต้องหาอะไรใหม่ๆเข้ามาสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอยู่เสมอ และลอกเลียนแบบได้ยากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อนั้นคุณจะรักษาอันดับหนึ่งไว้ได้ตลอด..

จากประสบการณ์ทำให้ผมเรียนรู้วิธีการสร้างธุรกิจ เห็นทุกอย่างเป็นโอกาสและช่องทาง เริ่มได้ใช้วิชาความรู้ทางด้านบริหารที่เรียนมา SWOT ตัวเอง SWOT ธุรกิจ ทำให้ตอนนี้ผมเริ่มทำอีกธุรกิจควบคู่กันไป สิ่งที่ทำนี้เกี่ยวพันกับที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น

** ผมเพิ่งจะค้นพบตัวเองจริงๆก็คราวนี้แหละ**

ด้วยความที่เราชอบที่จะประดิษฐ์อะไรต่อมิอะไรมาใช้เอง ชอบทำงานศิลปะ บวกกับความรู้ทางคอมพิวเตอร์ดีไซน์ เทคนิคการดึงดูดสายตา และวิชาการตลาด ที่ได้ร่ำเรียนและสั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่ต้น จนกลายมาเป็นธุระกิจ งานแกะสลัก และงานตัด ด้วยลำแสงเลเซอร์
ถ้าถามว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่หรือเปล่า ตอบว่าในโลกอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ถือว่าเก่าแล้ว แต่ในโลกของอุตสาหกรรมครัวเรือน นับว่าใหม่สุดๆ อาจถึงขั้นเป็นเจ้าแรกในจังหวัด ก็ว่าได้ครับ

ตอนนี้ผลิตผลงานออกมาบ้างแล้ว เช่น โคมไฟอคริลิคเรืองแสงสลักรูปเหมือน ป้ายเรืองแสงชื่อร้าน บ้านเลขที่ กรอบทะเบียนรถเรืองแสง และอื่นๆ อีกนิดหน่อย เพราะเพิ่งจะเริ่มต้นได้แค่เดือนเดียวเองครับ แต่ผลตอบแทนปาเข้าไปครึ่งแสนแล้วในเดือนแรก ต้องพัฒนากันต่อไปครับ..

สนใจชมผลงานได้ที่ เฟสบุคส่วนตัวครับ https://www.facebook.com/baijak.nk

จะมีผลงานแปลกใหหม่ออกมาให้ชมกันเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาส จะมาเล่าถึงเทคนิค และกลยุทธ ในการทำธุระกิจงานเลเซอร์ ในครั้งต่อไปนะครับ.

เถ้าแก่ใหม่ :อยากฝากอะไรกับคนที่เริ่มทำธุรกิจ
คุณนนท์ : ทำธุระกิจอะไรก็ตาม อย่าใช้เงินนำ ต้องใช้ใจนำ ทำตามที่ถนัด ที่รัก ที่ชอบ ที่ทำแล้วไม่เบื่อ ทำแล้วอยากทำมันอีกซ้ำๆ ฟันธงเลยว่าผลงานจะออกมาดีมีคุณภาพคับแก้ว ลัวเงินจะตามมาครับ

เถ้าแก่ใหม่ :.ข้อคิดในการดำเนินชีวิต และฝากอะไรกับคนที่ทำงานประจำแล้วต้องการมีธุรกิจส่วนตัว
คุณนนท์ :ให้งานประจำเป็นงานเลี้ยงชีพ ให้งานอดิเรก หรือธุระกิจส่วนตัวเป็นงานเลี้ยงใจ เมื่อไหร่งานเลี้ยงใจเริ่มทำรายได้มากกว่างานเลี้ยงชีพ ก็ลาออกมาทำงานเลี้ยงใจ แล้วได้เงินเลี้ยงชีพที่มากกว่ากันเถอะครับ….

ขอบคุณครับ
ชานนท์ แก้วมี (ใบจาก เมืองนคร)
โทร. 0810862344
e-mail [email protected]

ขอบคุณเถ้าแก่นนท์ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ ให้กับพวกเราฟัง…ชีวิตมันไม่ยากครับ ธุรกิจมันก็ไม่ยาก แค่เริ่มทำ ล้มบ้าง เจ๊งบ้าง ดีบ้างเป็นธรรมดา ไม่โดนกับตัวมันไม่เจ็บปวดหรอกครับ ยิ่งเจ็บมากเจ็บจนชินมันจะทำให้เรายิ่งแกร่งครับ

ไม่ต้องลังเลครับ !! ไม่ว่าตอนนี้คิดจะทำอะไร ทำเลยครับ ลุยมันไปก่อน เจอปัญหาตามเก็บตามแก้ เป็นประสบการณ์
การค้นหาไม่ใช่ อยู่เฉย ๆ แล้วจะเจอ เถ้าแก่นนท์ กว่าจะเจอว่าตัวเองชอบศิลปะ ก็ต้องผ่านมาหลายธุรกิจ

ผมเชื่ออย่างหนึ่งครับว่า ทุกอย่างเราต้องลงมือทำก่อน จึงจะเจอว่านี่ใช่ของเราหรือเปล่า ฟังคำพูดคนอื่น อ่านประสบการณ์คนอื่น ก็แค่รู้ แต่เรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง เราจะแกร่ง