กระแสการลงทุนกับเงินดิจิตอลหรือบิทคอยน์มาแรงจริงๆ นักลงทุนทั้งรายใหญ่รายย่อยให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดเงินดิจิตอลกันอย่างล้นหลาม สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกโบรกเกอร์ไหนดี วันนี้ เถ้าแก่ใหม่ ทำสรุปจุดแข็งของแต่ละโบรกเกอร์ที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายกับก.ล.ต. พร้อมกับแนะนำวิธีเลือกโบรกเกอร์มาฝากกัน
ลงทุน bitcoin ที่ไหนดี แนะนำวิธีโบรกเกอร์
- มือใหม่อย่างเราเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการใบอนุญาตจากก.ล.ต. (SEC)
- พิจารณา Volume ในการเทรด ถ้ามียอดสูงๆ ก็จะดี เพราะมีสภาพคล่อง คำสั่งซื้อขายจะจับคู่ได้เร็ว
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีเงินฝากต่ำ
- ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ จะทำให้เหลือกำไรมากขึ้น
- มีบริการ Live Chat 24 ชั่วโมง ให้บริการโดยคนไทย จะทำให้คุณมีทีมที่คอยช่วยแก้ปัญหา ไม่ เคว้งคว้าง
- ฝากเงินหรือถอนเงินได้สะดวกและรวดเร็ว ทำได้หลายช่องทาง จะได้เทรดสะดวก ไม่เสียเวลา
- มีเหรียญที่คุณสนใจ
- หากมีโปรโมชั่นหรือกิจกรรม ที่ให้โบนัส จะทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
- เลือกเว็บที่มีความเสถียร ไม่ล่มบ่อย จะได้ไม่เสียโอกาสในการทำกำไร หรือฝากถอน
- มีริวิวดีๆ จากนักลงทุน ก่อนเลือกโบรกเกอร์ให้หาข้อมูลแต่ละโบรกเกอร์ก่อนจากอินเตอร์เนท หรือ เพื่อนที่เทรดมาก่อน
ขอแนะนำให้เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจากทาง ก.ล.ต ให้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) อย่างเป็นทางการ
ลงทุน bitcoin ที่ไหนดี แนะนำ 5 ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
1.Satang Pro
ก่อตั้ง : ปี 2560
สัญชาติ : ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.12 – 0.20%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 18 บาท
สกุลเงิน : 35 สกุล
Satang Pro เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับ Binance เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโต จึงทำให้ Satang Pro กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ซื้อขายคริปโตที่ร้อนแรงมากๆ ในตอนนี้ นอกจากนั้น ยังได้รับมาตรฐาน ISO 27001 – Information Security Standard and ISO 27701 – Privacy Information Management System
จุดแข็ง Satang Pro
- เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับ Binance ทำให้ซื้อขาย Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ ได้ง่ายและ สะดวก
- ซื้อ Bitcoin ด้วยเงินบาท ง่ายและรวดเร็วมากๆ เหมาะสำหรับคนที่เทรดแบบ Arbitage เงินหมุนเข้า
หมุนออกได้อย่างรวดเร็ว
- รับ Passive Income เป็นดอกเบี้ยปันผลของ Zcoin ได้ด้วย โดยฝากเหรียญไว้ใน Satang Pro
- ถอนเงินแบบได้ง่ายไม่มีขั้นต่ำ โดยเงินจะเข้าบัญชีภายใน 5-10 นาที
- ได้รับค่าคอมมิชชั่น 30% เมื่อแนะนำผู้ใช้งาน
- พร้อมบริการลูกค้าผ่านทาง Online chat, email, โทรศัพท์ ซึ่งให้บริการตลอดเวลา
2. Bitkub
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.25%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 20-200 บาท
สกุลเงิน : 49 สกุล
โบรกเกอร์ไทยที่มาแรงสุดๆ ได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ในไทย เทรด Cryptocurrency ในแบบต่างๆ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทได้ ไม่ต้องแปลงสกุลเงินกลับไปกลับมาเสียเวลาและเสียส่วนต่าง บริการด้วยคนไทย ตอบสนองทุกความต้องการอย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง เทรดได้หลายเหรียญ สามารถเข้าถึงได้ทุกอุปกรณ์ ฝากถอนได้อย่างรวดเร็ว
จุดแข็ง Bitkub
- เว็บเทรดที่มี Volume ใหญ่มากๆ ในไทย มากกว่า 2,000 ล้านบาท
- ซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
- โอนเงินเข้าออกได้เร็วมากๆ ระดับวินาที
- ทุนจดทะเบียนถึง 290 ล้านบาท
- มีระบบการป้องกันการโจมตีจาก DDos โดยการ Encrypt ข้อมูลและเก็บเหรียญส่วนใหญ่ลง Offline Storage
- มีค่าแนะนำเพื่อนมาเทรด รับเงินคืนสูงสุด 20%
- ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ตอบคำถาม แก้ปัญหาด้วยความรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
3.Zipmex
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : สิงคโปร์
ค่าธรรมเนียมการเทรด : ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการถอน : 20 บาท
สกุลเงิน : 19 สกุล
โบรกเกอร์สัญชาติสิงคโปร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากทั้งก.ล.ต. ของไทย เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ ช่วยทำให้เราสามารถเทรดคริปโตได้ด้วยเงินบาท ปัจจุบันในกระดานเทรดมีมูลค่าสูงกว่าพันล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ในไทย
จุดแข็ง Zipmex
- มีสกุลเงินดิจิตอลให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น Bitcoin, Litecoin, Ethereum เป็นต้น
- เทรดได้ด้วยเงินบาท
- ทุนจดทะเบียน 52 ล้านบาท
- หากซื้อเหรียย ZMT ติดกระเป๋ากับ Zipmex จะได้ปันผลรายวัน เป็น Passive Income ที่ดึงดูดใจ นักลงทุนมากๆ
- ได้ดอกเบี้ยจากการซื้อเหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญคริปโตหลักอื่น ๆ ฝากไว้ ในกระเป๋า Zipmex
- บริการหลังการขายชั้นเยี่ยม บริการรายบุคคล ติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักลงทุน สะดวกมากขึ้น
- สามารถซื้อเหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญคริปโตหลักอื่น ๆ และฝากไว้ใน กระเป๋า Zipmex เพื่อกินดอกเบี้ยได้เช่นกัน
- ร่วมมือกับ BitGo ผู้ให้บริการรักษาสินทรัพย์ระดับโลก เพื่อให้สินทรัพย์ได้รับประกันความปลอดภัย วงเงินสูงสุด 100 ล้านดอลลาร์
4. Upbit
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : เกาหลีใต้ / ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.15 – 0.25%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 15 บาท
สกุลเงิน : 65 สกุล
Upbit Thailand เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง Upbit APAC Pte. Ltd. (Upbit ก่อตั้งโดย Dunamu Inc. ในปี 2560 ) และนักลงทุนชาวไทย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ปัจจุบัน Upbit เปิดให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย สำหรับในไทย Upbit เป็นน้องใหม่มาแรง ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการเชื่อมตลาดไทยเข้ากับตลาดเกาหลีทำให้นักลงทุนมีความคล่องตัวในการเทรดมากขึ้น
จุดแข็ง upbit
- แพลทฟอร์มมีความรวดเร็วและเสถียรมาก เทียบเคียงสถาบันการเงินชั้นนำของโลก
- เช็คราคาได้แบบ real-time
- มีความปลอดภัยสูง ด้วย BitGo Dual Wallet เทคโนโลยีที่ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน เงินดิจิทัลชั้น นำใช้กัน ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
- ซื้อ bitcoin ด้วยเงินบาทได้เลย สะดวกมากๆ
- มีเหรียญใหม่ๆ เพิ่มมา โดยเป็นเหรียญที่น่าสนใจในระดับโลก เช่น Polkadot, Cardano, Chainlink เป็นต้น
- เชื่อมตลาดเข้ากับตลาดเกาหลีใต้ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ ในเอเชีย ทำให้ได้เทรดกับตลาดระดับโลกแต่ยังได้รับความคุ้มครองจากการกำกับดูุแลในไทยอยู่
5. Z.com.Ex
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : ไทย / ญี่ปุ่น
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.25%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 20-200บาท
สกุลเงิน : 7 สกุล
Z.com.Ex น้องใหม่ล่าสุด เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อมการเทรดตลาดไทยกับตลาดโลกด้วยทุนจดทะเบียน 175 ล้านบาท ภายใต้ชื่อบริษัท จีเอ็มโอ-แซด.คอม คริปโตนอมิกซ์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ GMO Internet Group บริษัทไอทีและสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 5 แสนล้านบาท นักลงทุนมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าสามารถรองรับการซื้อขายได้อย่างไม่จำกัด
จุดแข็ง Z.com.Ex
- สภาพคล่องสูง มั่นคง เชื่อถือได้ โดยอยู่ในเครือบริษัทการเงินระดับโลก จึงมั่นใจมากว่าสามารถรองรับ การซื้อขายได้อย่างไม่จำกัด
- มีระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าสถาบันการเงินระดับสูง นักลงทุนจึงมั่นใจได้มากกว่า
- ฝากถอนเงินได้แบบ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง
- ตอบทุกคำถาม รองรับความต้องการของนักลงทุนด้วย Live Chat 24 ชั่วโมง
ปัจจุบันการลงทุนใน Cryptocurrencies เป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจมากๆ เนื่องจากทำกำไรให้นักลงทุนรุ่นบุกเบิกได้อย่างมหาศาล แต่ว่าการลงทุนในตลาดนี้ก็ยังใหม่สำหรับคนไทยมาก ก่อนทำการลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลให้มั่นใจ วางแผนการลงทุนให้ดี เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 โบรกเกอร์ และที่สำคัญมากๆ คือระวังเว็บหรือลิงค์เว็บปลอมที่เนียนเป็นเว็บ Official มาจะหลอกให้ลงทุน เลือกคลิกเว็บจากลิงค์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME