เจ้าของธุรกิจระวังโดนหลอก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งความมิจฉาชีพ ปลอมโลโก้ อ้างชื่อผู้บริหาร หลอกลวงผู้ทำธุรกิจ

กรณีมีมิจฉาชีพใช้ชื่อกรมฯ แอบอ้างติดต่อขอข้อมูลส่วนบุคคลจากประชาชนหรือขอตรวจสอบธุรกิจเรื่องต่างๆ โดยที่ประชาชนไม่ได้ติดต่อกรมฯ มาก่อน หรือเสนอเงินให้ความช่วยเหลือธุรกิจ เรื่องนี้ทำลายความเชื่อมั่นงานบริการกรมฯ อย่างมาก พร้อมสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน กรมฯ จึงต้องออกโรงเตือนหากประชาชนได้รับการติดต่อในลักษณะนี้ให้สงสัยว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะฟิชชิง (Phishing) ที่จะมาหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลไป ต้องมีสติทุกครั้งก่อนกดลิ้งค์ หรือเปิดรับไฟล์ที่ไม่แน่ใจ ป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดขึ้น

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

กรมพัฒฯ ขึ้นโรงพัก แจ้งความเอาผิดมิจฉาชีพปลอมไลน์ แอบอ้างเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลอกลวงผู้ประกอบธุรกิจ ให้ตรวจสอบและกรอกข้อมูล เตือนอย่าหลงเชื่อ เหตุไม่มีนโยบายติดต่อหาใครก่อน โดยที่ไม่ได้สอบถามข้อมูลมา เพื่อป้องกันความเสียหายหรือสูญเสียทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ที่ผ่ามา นายธีระศักดิ์ สีนา ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เดินทางไปยังสน.รัตนาธิเบศร์ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพ ที่ปลอมแปลง Line Official Account โดยใช้ตรา DBD ซึ่งเป็นโลโก้ของกรมฯ แล้วทำการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารระดับสูงของกรมฯ จากนั้นได้ทำการทักหาผู้ประกอบการให้อัปเดตข้อมูลนิติบุคคล หากหลงเชื่อ ก็จะเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง ให้กรอกและอัปเดตข้อมูล ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเสียหายหรือสูญเสียทรัพย์สิน

นายธีระศักดิ์กล่าวว่า รูปแบบที่มิจฉาชีพทำ คือ ไปหาข้อมูลนิติบุคคลแต่ละบริษัท ซึ่งปกติข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคล สามารถตรวจสอบและค้นหาได้ตามช่องทางปกติอยู่แล้ว แต่มิจฉาชีพ นำไปใช้เพื่อการหลอกลวง โดยแจ้งกับผู้ประกอบการว่าข้อมูลที่จดทะเบียนไว้ถูกต้องหรือไม่ มีอะไรอัปเดตหรือไม่ โดยเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการแอบอ้างชื่อของผู้บริหารกรมฯ เช่น อ้างเป็นผู้อำนวยการกองต่าง ๆ ซึ่งชื่อผู้บริหาร ปกติก็ตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมฯ อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเปิดรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่มั่นใจ และรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพ สามารถสังเกตจากถ้าได้รับอีเมลควรเป็นชื่อที่รู้จักหรือติดต่อไว้เท่านั้น หากระบุให้คลิ๊กลิงค์หรือเปิดไฟล์ต้องแน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติ เมื่อนำเมาส์ไปชี้ที่ลิงค์ URL จะต้องมี URL ที่ตรงกันกับหน่วยงานที่ติดต่อเท่านั้น อีกทั้ง การเข้าใช้งานในเว็บไซต์ควรพิมพ์ URL โดยตรงจะปลอดภัยกว่าการเข้าใช้งานผ่านลิ้งค์