คุณโบวี่ก็เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีงานประจำทำ แต่จากความชอบในเรื่องความหอมตั้งแต่เรียนปี 2 ที่วันหนึ่งได้เดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งแล้วได้กลิ่นความหอมจากผู้หญิงคนนั้น คุณโบวี่รู้สึกถึงเสน่ห์ดึงดูดจากกลิ่นหอมแล้วรู้สึกชอบจึงเริ่มศึกษาเรื่องของความหอม เริ่มซื้อน้ำหอมมาใช้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

เชื่อว่าโลกนี้ไม่มีใครไม่ชอบกลิ่นหอม ความหอมคือกลิ่นที่ทำให้ใจเบิกบาน ความหอมบางกลิ่นมีเสน่ห์ดึงดูด บางกลิ่นให้ความรู้สึกน่าค้นหา บางกลิ่นทำให้จิตใจสงบ นี่คือเสน่ห์ของความหอม

หากพูดถึงความหอม ทุก ๆคนมักจะพุ่งเป้าไปที่น้ำหอม ซึ่งน้ำหอมเป็นสิ่งที่คนมักจะซื้อหามาใช้เป็นลำดับแรก ๆ น้ำหอมมีด้วยกันหลายราคา หลายเกรด และซื้อหาได้หลากหลายสถานที่ หากจะมีใครสักคนทำ “น้ำหอม”ออกมาขาย ใครคนนั้นคงต้องพยายามทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยความที่น้ำหอมในท้องตลาดมีมากมายหลากหลายแบรนด์อยู่แล้ว แต่ถ้าหากใครสักคนจะคิดแปลกและแหวกแนว ทำน้ำหอมให้เป็นมากกว่าน้ำหอมและมีเรื่องราวที่น่าสนใจแล้วล่ะก็ ผลิตภัณฑ์นั้นคงมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ โลชั่นน้ำหอม GRASSE’ ผลิตภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวด้วยตัวเองกันครับ

ความพิถีพิถันให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดสู่การเป็นที่มาของ GRASSE’

แบรนด์ GRASSE’ โลชั่นน้ำหอมมีที่มามาจาก “คุณโบวี่ ศรัญญา สากุล” ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาทำแบรนด์โลชั่นน้ำหอม คุณโบวี่ก็เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีงานประจำทำ แต่จากความชอบในเรื่องความหอมตั้งแต่เรียนปี 2 ที่วันหนึ่งได้เดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งแล้วได้กลิ่นความหอมจากผู้หญิงคนนั้น คุณโบวี่รู้สึกถึงเสน่ห์ดึงดูดจากกลิ่นหอมแล้วรู้สึกชอบจึงเริ่มศึกษาเรื่องของความหอม เริ่มซื้อน้ำหอมมาใช้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจโลชั่นน้ำหอม คุณโบวี่เล่าว่า เมื่อใครก็ตามพูดถึงความหอม หลาย ๆคนมักจะนึกถึงประเทศฝรั่งเศส และคำว่ากราซก็คือชื่อเมือง ๆ หนึ่งในประเทศฝรั่งเศสที่คุณโบวี่นำมาใช้เป็นชื่อแบรนด์ โดยได้เพิ่มคำว่า “เซ่” ลงไปเพื่อเพิ่มความเป็นฝรั่งเศสมากขึ้นเป็นที่มาของชื่อ GRASSE’

ไม่เว้นแม้กระทั่งสีของกล่อง สีม่วงอมชมพูนั้นเป็นสีของดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้นี้จะขึ้นอยู่รอบ ๆเมืองกราซ และเป็นสีที่คุณโบวี่ชอบ จึงกลายมาเป็นสีของกล่องใส่โลชั่นน้ำหอมแบรนด์ GRASSE’

12 กลิ่นหอม 12 คาแรกเตอร์กับ 12 ราศี สำหรับรูปแบบการใช้ชีวิต 3 สไตล์

สำหรับกลิ่นหอมของโลชั่นน้ำหอม คุณโบวี่เลือกกลิ่นหอมที่โดดเด่นมากที่สุด 12 แบบจากกลิ่นหอมหลายสิบกลิ่น กลิ่นหอมทั้ง 12 แบบนี้มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ คุณโบวี่จึงเลือกให้แต่ละกลิ่นเป็นตัวแทนคาแรกเตอร์ของสาว ๆ 12 แบบ ซึ่งก็ไปเหมือนกับคาแรกเตอร์ของสาว ๆในแต่ละราศีพอดี นี่คือที่มาของโลชั่นน้ำหอม 12 กลิ่น 12 ราศี ที่นำเอาเรื่องราวความเชื่อในเรื่องราศีมาสร้างเป็น story ให้สินค้ามีความน่าสนใจ ถือเป็นลูกเล่นที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้า

12 กลิ่น 12 ราศี ยังไม่พอ คุณโบวี่แบ่งได้เป็น 3 สไตล์รูปแบบการใช้ชีวิตในแต่ละจังหวะเวลา ได้แก่ กลิ่นหอมแนวเซ็กซี่ กลิ่นหอมแนวสปอร์ต และกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกถึงความโรแมนติก ทำให้เราสามารถใช้โลชั่นน้ำหอมได้ตามกิจกรรมในแต่ละวันได้ วันไหนอยากออกไปเที่ยวปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็อาจจะใช้โลชั่นน้ำหอมกินแนวเซ็กซี่ ส่วนวันไหนจะออกเดตกับหนุ่มก็จัดโลชั่นน้ำหอม Grasse’ แนวโรแมนติก

ความหอมที่มีสไตล์ มาพร้อมกับคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี

โลชั่นน้ำหอม GRASSE’ มีจุดเด่นที่ความหอมเพราะคุณโบวี่ใส่ใจในแต่ละกลิ่นที่ต้องมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน กว่าจะได้กลิ่นที่ใช้ในผลิตภัณฑ์คุณโบวี่ต้องทำการดม ทำการทดสอบ และเลือกแต่ละกลิ่นออกมาด้วยตนเอง เพราะหัวน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีความเข้มที่แตกต่างกัน จนได้มาเป็นน้ำหอม 12 กลิ่น 12 คาแรกเตอร์ ตรงตามคอนเซปที่วางไว้

เพราะคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนลูกค้าจึงสามารถเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับตนเอง เหมาะสมกับทุก ๆโอกาส ความหอมจึงเป็นจุดขายที่ทำให้แบรนด์นี้ติดตลาดในปัจจุบัน

นอกเหนือจากความหอมหรือเรื่องของกลิ่น สิ่งที่คุณโบวี่ให้ความสำคัญมากพอ ๆกันคือเรื่องของคุณภาพ เพราะในโลชั่นน้ำหอม GRASSE’ คุณโบวี่เลือกสารประกอบที่ช่วยบำรุงผิวผสมเข้าไปในผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นสาหร่ายแดง ดอกกระบองเพชรและโปรตีนจากถั่ว ซึ่งทั้ง 3 ก็ล้วนมีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาผิวและมีสารชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็น sunblock ได้ด้วย

ขณะที่เนื้อครีมเองก็มีความเนียน ละเอียดนุ่มนวล ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมไว ขณะทาจะรู้สึกได้ถึงไอความหอมที่ไม่ฉุนจนเกินไป เรียกได้ว่าคุณโบวี่ใส่ใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ทุกรายละเอียดตั้งแต่ความหอม คุณสมบัติการบำรุงผิวไปจนถึงเนื้อครีมเลยทีเดียว

ครองใจลูกค้าด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ และการบริการที่ประทับใจ

สิ่งที่ทำให้ GRASSE’ ประสบความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่เรื่องราวที่ถูกผูกขึ้นมา หรือความหวือหวาเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าสิ่งใดที่ดังขึ้นจากเรื่องเหล่านี้ มันจะอยู่ไม่นาน หากแต่ความสำเร็จในทุกวันนี้ของ GRASSE’ อยู่ที่ตัวของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เป็นหลัก

เมื่อสินค้าใช้แล้วดี จึงเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก พลังการบอกต่อคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้ใช้จริงหลายคนก็ผันตัวไปเป็นดีลเลอร์และแม่ทีมขายสินค้ารายใหญ่ เพราะพวกเขาเหล่านั้นใช้แล้วชอบ ใช้แล้วรักในสินค้า ใช้แล้วมั่นใจในคุณภาพ เมื่อกลายมาเป็นตัวแทนขายจึงมีความเข้าใจและอธิบายสินค้าได้อย่างถูกต้อง ยิ่งทำให้สินค้ากระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลดีกลับสู่ตัวแบรนด์เอง

ขณะเดียวกันคุณโบวี่ก็ไม่ลืมที่จะดูแลตัวแทนทุก ๆคน เพราะตัวแทนทุกคนคือคนที่ใช้สินค้าและรักในสินค้า คุณโบวี่จึงดูแลทุกคนเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ดูแลเหมือนเป็นหุ้นส่วน เป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจ มีปาร์ตี้ ให้ความรู้ อัปเดตสินค้า เพราะวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและการดูแลกันที่ดีทำให้ดีลเลอร์เกิดความมั่นใจ เชื่อใจและพร้อมจะเติบโตไปพร้อม ๆกับแบรนด์

นอกจากนี้ GRASSE’ ยังทำให้เห็นว่าของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปด้วยราคา 299 บาทในขนาด 200 ml. ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพ เรียกได้ว่าคุณภาพเกินราคาจริง ๆ

เคล็ดลับความสำเร็จสู่การเป็นธุรกิจเงินล้าน จากคุณ โบวี่ โลชั่นน้ำหอม GRASSE’

1.เริ่มต้นด้วยการทำสิ่งที่รัก สิ่งที่เราชอบ

หาความชอบนั้นให้เจอ แล้วเริ่มต้นพัฒนาความชอบนั้นและทำมันด้วยความรัก เมื่อใดที่เริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆด้วยความรัก เราจะทำมันอย่างมีความสุข อะไรก็ตามที่เราทำด้วยความรักและสนใจจริง ๆ เราจะอยู่กับมันได้นานอย่างไม่รู้สึกเบื่อ และพร้อมจะทำมันให้ดีขึ้นเรื่อย ๆในทุก ๆวัน

2. พิถีพิถัน คัดสรรให้ดีที่สุด

ศึกษาสิ่งที่รักและชอบให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ จากนั้นต้องเริ่มต้นทำมันด้วยความพิถีพิถัน จงคัดสรรและใส่ใจทำมันออกมาให้ดีที่สุดในทุก ๆกระบวนการ  เมื่อใดที่เราทำสิ่งต่าง ๆออกมาด้วยความรัก ความใส่ใจ สิ่งที่ทำมันจะออกมาดี จากนั้นเราต้องทำให้ตัวเองรู้สึกชอบและประทับใจในสินค้าของตัวเองเสียก่อน จึงจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกเช่นเดียวกับเราได้ ถ้าทำได้เช่นนี้รับรองได้เลยว่าธุรกิจที่เรากำลังสร้างมันจะไปต่อได้อย่างแน่นอน

3. เสียงจากลูกค้าคือพรจากสวรรค์สำหรับธุรกิจ

เมื่อสินค้าออกสู่ตลาด ส่งตรงถึงผู้บริโภค ผู้บริโภคก็ต้องชอบสินค้าของเราด้วย สินค้าหรือธุรกิจนั้นจึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้สิ่งที่เราต้องดูต่อไปคือ feedback ต่าง ๆ จากลูกค้าเพื่อดูว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด สิ่งไหนที่ไม่ดีก็ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ออกำมาดี ในขณะที่สิ่งไหนที่ดีแล้วก็ต้องรักษาคุณภาพให้คงไว้ หรือให้มันดีขึ้นไปอีก เพราะเสียงที่ดีที่สุดก็คือเสียงของลูกค้านั่นเอง

4. สินค้าที่น่าสนใจจะต้องมีเรื่องราวหรือ story ที่น่าสนใจด้วย

จึงจะทำให้สินค้านั้นถูกพูดถึง เพราะเรื่องราวที่น่าสนใจจะเป็นประตูด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของเรา ดังเช่นที่ GRASSE’ สร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ของตนเองไม่ว่าจะเป็น การตั้งชื่อแบรนด์อันแสดงถึงความเป็นฝรั่งเศสที่ใคร ๆก็มักจะนึกถึงเมื่อพูดถึงความหอม, packaging สีสันของหีบห่อที่เกี่ยวโยงเชื่อมต่อกับชื่อแบรนด์, และเรื่องราวที่โดดเด่นที่สุดคือคาแรกเตอร์ของกลิ่นแต่ละกลิ่นที่เอาไปผสมกับความเชื่อในเรื่องราศี สิ่งเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใดที่เราสร้าง story ให้กับธุรกิจได้ ธุรกิจของเราก็มีโอกาสไปต่อได้

นี่คือเรื่องราวของ GRASSE’ โลชั่นน้ำหอมที่มีสโลแกนว่าเป็นราชินีแห่งความหอม สิ่งที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่าผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติอย่างไร หรือมีกี่ชนิด หากแต่ความน่าสนใจกลับอยู่ที่ผู้หญิงคนหนึ่งในฐานะของนักธุรกิจที่มีมุมมองในเรื่องของการทำธุรกิจ การสร้างผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ การทำการตลาดว่ามีวิธีการคิดที่แยบคายและผสานสิ่งต่าง ๆขึ้นมาจนกลายจึงแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากได้อย่างไร เชื่อว่าไอเดียการทำธุรกิจเช่นนี้น่าจะจุดประกายให้กับผู้ประกอบการได้นำไปพัฒนาปรับปรุงแบรนด์ ปรับปรุงสินค้าของตนเองให้ดียิ่ง ๆขึ้นไป

เพราะการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้แนวคิดมันมาจากประสบการณ์จริงเป็นพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จที่นำเอาไปใช้ได้ทันที

ขอบคุณ คุณ โบวี่ ศรัญญา สากุล CEO GRASSE’
Tel.090-063-3686 Line ID :@grasse