ทุกวันนี้ จบปริญญาตรี เริ่มต้นเงินเดือนที่ 15,000 บาท ฟังดูอาจจะเยอะสำหรับน้องๆที่เรียนจบใหม่ๆ แต่ในโลกของความเป็นจริง ค่าครองชีพ ไม่ได้แยกจ่ายตามประสบการณ์

เหมือนเงินเดือน ทุกคนต้องจ่ายเท่ากันหมด  กับข้าวจานละ 50 บาท  ผอ. ก็ต้องจ่าย 50  ลูกน้องก็ต้องจ่าย 50 คนตกงานก็ต้องจ่าย 50 เด็กจบใหม่ก็ต้องจ่าย 50 บาท เท่ากัน หมด นี่ยกตัวอย่างแค่อาหาร แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตเรายังมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอีกมากมาย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าดูแลพ่อแม่ ค่าเทอมลูก ค่าประกันชีวิต ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ไหนจะค่าซอง ค่างานเลี้ยง  โอ้ว!!!  แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้คนเงินเดือน 15,000 เป็นหนี้ได้ยังไง ค่าครองชีพขนาดนี้เงินเดือน 50,000 บาท ยังหนี้ท่วมหัวเลย

ทำไมเงินเดือน 15,000 เป็นหนี้บัตรเครดิต

ไปดูค่าครองชีพสมัยนี้กันค่ะ

รายรับ (เงินเดือน)           15,000  บาท

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ) =        1,000 บาท
  • ค่าเช่าห้องพัก =          3,500 บาท
  • ค่าเดินทางไปทำงาน =        2,500 บาท
  • ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 3 มื้อตลอดเดือน =        6,500 บาท
  • ค่าของใช้ภายในบ้าน ของใช้ส่วนตัว =        1,500 บาท
  • ค่าทำบุญ ค่าซอง ค่าของขวัญ งานเลี้ยง อื่นๆ =        1,500 บาท

นี่ยังไม่ได้แบ่งไว้สำหรับค่าประกัน  ค่าส่งให้แม่  ค่าเงินฉุกเฉิน  เงินเก็บ เงินลงทุนอะไรเลย

เหลือเงินติดกระเป๋า 500 บาท นี่คิดเรทปกติและเป็นแผนการใช้เงินค่อนข้างประหยัด ไม่มีค่าฟุ่มเฟือยอะไรเลย จ่ายเท่าที่จำเป็นทุกอย่างแล้ว ซึ่งในชีวิตจริง มันมีค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เราคาดไม่ถึงมากกว่านี้เสมอ

จึงเป็นสาเหตุทำให้คนที่เงินเดือน 15,000 เป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะบางครั้งมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเข้ามา  เช่น เกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ต้องซ่อมแซมสิ่งของ หรือจำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน  หรือคนทางบ้านเกิดจำเป็นต้องใช้เงินขึ้น แต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท  จึงต้องไปทำบัตรเครดิต เพื่อนำเงินมาหมุนใช้จ่ายยามจำเป็น

แต่ถ้าจำเป็นต้องสมัครบัตรเครดิตจริงๆ เราจะมีวิธีเลือกสมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มค่าและจ่ายดอกน้อยที่สุด

เงินเดือน 15,000 บาท สมัครบัตรเครดิตอะไรดี

สำหรับคนเงินเดือน 15,000 บาท  ที่ยังไม่เคยกู้ จะไม่มีประวัติการชำระเงิน  จึงทำให้สถาบันการเงินอนุมัติยากสักหน่อย   แต่ก็สามารถกู้ได้เช่นกัน ไปดูกันค่ะว่ามีบัตรเครดิตอะไรบ้าง

1 บัตรเครดิตซิตี้แบงก์รีวอร์ด

จุดเด่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร

คุณสมบัติ อายุ 20 ปี ขึ้นไป  มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท

2 บัตรเครดิตซิติแบงก์ แคชแบ็ก แพลตตินัม

จุดเด่นเป็นบัตรเครดิตที่คืนเงินทุกครั้งที่จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้ประหยัดทุกครั้งที่จ่าย  ยิ่งมีประวัติส่งดี ยิ่งได้คืน  ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่มีวินัยทางการเงิน

คุณสมบัติ  อายุ 20ปี ขึ้นไป   มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป

3 บัตรเคทีซี แคชแบ็ควีซ่าแพลทินัม

จุดเด่นรับเงินสูงสุด 8% ทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตร และกด และแบ่งจ่ายในอัตราดอกเบี้ย 0% ใน 10 เดือน ถ้าใครมีวินัยในการชำระแต่ละเดือน เหมือนกับมีคนให้เงินมาหมุน โดยไม่มีดอกเบี้ย

คุณสมบัติ อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ขึ้นไป

4 บัตรเครดิตอิออนคลาสสิค

จุดเด่น รับสิทธิ์ซื้ออาหารร้านดัง เช่น แมคโดนัลด์ พิซซ่า ฮัท ในราคาพิเศษ และได้รับสิทธิ์ชมภาพยนตร์ในราคาพิเศษ เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนในเมือง

คุณสมบัติ อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท มีอายุงาน 4 เดือนขึ้นไป มีที่อยู่หรือที่ทำงานอยู่ในที่ตั้งเขตให้บริการอิออน

 เอกสารเพิ่มเติมสำหรับสมัครบัตรเครดิต

1 สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรข้าราชการ

2 สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน

3 Statement ย้อนหลัง 3 เดือน

4 สำเนาหน้าบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน

เงินเดือน 15,000 ใช้จ่ายอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้

ถึงแม้ค่าครองชีพจะสูง แต่ถ้ารู้จักใช้จ่ายเงิน และมีวินัยทางการเงิน ก็จะทำให้เงินเดือน 15,000 พอใช้และมีเงินเก็บได้ ไปดูวิธีง่าย แต่ใช้ได้ผลดีเสมอกันค่ะ

1.จดรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน

เป็นหนทางรอด แม้แต่เศรษฐีเขาก็ใช้กัน เพราะไม่มีเศรษฐีคนไหน ที่ไม่มีสมุดรายรับ รายจ่าย เพราะข้อดีของการบันทึกรายรับ รายจ่าย จะทำให้เราเห็นการเคลื่อนไหวของเงิน ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป เพื่อจะได้ดูว่าในแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง อะไรที่จำเป็น อะไรที่ฟุ่มเฟือย เราก็สามารถตัดออกไปได้   ถ้าไม่จดรายรับ รายจ่าย เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าเราหมดเงินไปกับอะไร  เพราะตอนนใช้เงินส่วนมากจะมาจากความยาก และคิดว่ามันจำเป็นสำหรับตอนนี้  แต่พอทำสมุดรายรับรายจ่าย แล้วมาดู เราจะเห็นเลยว่า ไอ้ที่บอกว่าประหยัดสุดๆ แล้ว จริงเรายังมีค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยแอบซ่อนอยู่  สมุดรายรับ รายจ่าย จะพาเรารอดจากการเป็นหนี้ได้

2.วางแผนใช้จ่ายล่วงหน้า

การวางแผนใช้จ่ายเงินล่วงหน้า จะทำให้เรารู้ว่า อีก 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี เราจะต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ที่เป็นเงินก้อน เพราะถ้าเราไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า พอถึงเวลา เราจะเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายก็ไปเป็นหนี้บัตรเครดิต

การวางแผนใช้จ่ายล่วงหน้า เป็นการวางแผนสำหรับค่าใช้จ่าย ที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายประจำ ที่เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ที่เราสามารถรู้ล่วงหน้าได้ เช่น ค่าประกันชีวิต ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าเทอม ค่าเดินทางไปต่างจังหวัด ฯลฯ

ถ้าเราวางแผนไว้ จะให้เรารุ้ล่วงหน้าแล้วว่า เราจะต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อไปจ่ายค่าเทอม ค่าประกัน  จะทำให้พอถึงเดือนที่กำหนดไม่มีปัญหาทางการเงินอีก

3. อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์ หรือทรัพย์สินที่ต้องผ่อนระยะยาว

หลายคนเพิ่มเริ่มทำงาน พอมีสิทธิ์กู้ได้ก็จัดเต็ม ทำบัตรเครดิตหลายใบ กู้สินเชื่อธนาคาร มาซื้อรถ ซื้อสิ่งของต่างๆ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ มีสิทธิ์เข้าวังวนของการเป็นหนี้ซ้ำซาก คือ กู้บัตรใหม่ไปปิดบัตรเก่า จนในที่สุดไม่เงินใช้หนี้ ถูกฟ้อง และโดนบังคับคดี

หากคุณยังเพิ่งเริ่มต้นทำงาน แนะนำอย่างเพิ่งซื้อสินทรัพย์ที่ต้องผ่อนระยะยาว ทำงานเก็บเงิน ให้มีเงินออม เงินฝากฉุกเฉินมากพอถึงขนาดตกงานหนึ่งปีก็ยังมีเงินใช้จ่ายและอยู่ได้  เพราะการซื้อสิ่งเหล่านี้เราต้องผ่อนนาน ย่อมมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายอย่างอื่น เพราะการซื้อรถ เราไม่ได้ผ่อนเฉพาะงวดรถเท่านั้น ยังมีค่าน้ำมัน ค่าต่อภาษี ต่อประกันภัย ค่าตรวจสภาพรถ อื่นๆ อีกจิปาถะ หากเรายังไม่พร้อม ก็อย่างตามแฟชั่น เพราะแฟชันอวดรวย ทำให้คนเป็นหนี้มากนักต่อนักแล้ว

4.แบ่งเงินเก็บออม

การเก็บออมจำเป็นมากค่ะ  เพราะว่า นอกจากการมีวินัยในการใช้เงินแล้ว เราจำเป็นต้องแบ่งเงินบางส่วน ประมาณ 10% ของรายได้ มาเก็บเพื่อใช้เป็นทุนสำรองยามฉุกเฉิน หรือกันสำหรับลงทุนในอนาคต  หากเราไม่มีเงินออมเลย เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน เราจะลำบาก และต้องเข้าไปสู่วังวนของการเป็นหนี้อีกครั้ง  ดังนั้น ควรแบ่งเก็บออมก่อนนำเงินมาใช้ จะทำให้ชีวิตปลอดหนี้ได้

5.จ่ายเงินเพื่อลดค่าความเสียง

หมายถึง การทำประกันชีวิต การทำประกันภัยต่างๆ  เพราอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และการเกิดแต่ละครั้งก็สร้างความเสียหายยากที่จะประเมินค่าได้ ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินเก็บแต่ถ้านำเงินเก็บออกมาใช้โดยไม่มีผลงอกเงย มันก็น่าเสียดาย หากเรายอมจ่ายเงินสักเล็กน้อยต่อเดือนเพื่อเป็นค่าลดความเสี่ยงเหล่านี้ เมื่อยามเกิดเหตุ เราก็จะใช้เงินจากประกันเหล่านี้ได้ แทนที่เราจะเอาเงินเก็บออกมาใช้ หรือไปกู้ยืมเขามา

สำหรับคนเงินเดือน 15,000 บาท มีหลายสถาบันการเงินที่ให้สิทธิ์คนเงินเดือน 15,000 บาท ทำบัตรเครดิตได้ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีจุดเด่นต่างกัน การเลือกดูข้อมูลการสมัครบัตรเครดิตหลายแห่ง ก่อนสมัคร ก็จะส่งผลดี และสามารถใช้ประโยชน์จากบัตริเครดิตได้เต็มที่ และที่สำคัญคือวินัยในการผ่อนชำระ ต้องผ่อนชำระให้ตรงเวลา  เพราถ้าเราเลื่อนเมื่อไหร่ ดอกและค่าปรับตามมาแน่ๆ  ถึงแม้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์ แต่ถ้าใช้แบบไม่คิด ก็ทำให้เกิดปัญหาเป็นหนี้บัตรเครดิตซ้ำซากได้