อะไรคือ “คุณค่าในตัวเอง” แล้วมีผลกับเรื่อง “ธุรกิจอย่างไร”

ผมจะบอกความลับสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่สามารถทำธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดให้ท่านรับรู้

แต่ก่อนที่เราจะคุยกันในประเด็นนี้ ผมอยากให้ทุกท่านลองตอบคำถามผมสัก สองสามประเด็นครับ

ท่าน “กลัว” ที่จะ “ขาย” ไหม ?

ท่าน “อาย” ที่จะ “บอก” ว่าตัวเองมีเทือกเขา เหล่ากอ อย่างไรไหม ?

ท่าน “คิดว่า” ถ้าท่านติดทั้ง 2 อย่างที่ว่ามาท่านจะทำ “ธุรกิจ” สำเร็จไหม ?

ถ้าคำตอบข้อแรก ปรากฏว่าท่าน “กลัว” แล้วละก็ ผมทำนายได้เลยครับ ธุรกิจท่านไม่เกิด แม้เกิดก็ไม่โตครับ ไม่นานต้องแห้งเฉา ห่อเหี่ยว เจ๊งไปไม่เป็นท่าอย่างแน่นอนครับ ผมกล้าท้าพิสูจน์

สำหรับเรื่องความ “อาย” ถ้าท่าเป็นพวกเหนียม ๆ ท่าน “อด” อย่างแน่นอน คงเคยได้ยินคำว่า “ด้านได้ อายอด” ใช่ไหมครับ นั่นหละครับ ยิ่งท่าน “อาย” ที่จะบอกเล่าความเป็นมาตัวเอง ด้วยแล้ว ยิ่งลำบาก

สำหรับคำถามที่ 3 ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ทุกท่านตอบคล้าย ๆ กันว่าคงทำธุรกิจ “ไม่สำเร็จ”

ทุกท่าน “รู้” แต่ทุกท่าน “ไม่ทำ” แปลกดีนะครับ

วันนี้ผมจะพาทุกท่านมา ปรับเปลี่ยนมุมคิด เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง มันไม่ได้มีผลแค่เรื่องธุรกิจนะครับ หากท่านทำงานประจำมันก็มีผลกับเรื่องตำแหน่งงานและเงินเดือนด้วย เริ่มกันเลย

7 ขั้นตอน สร้างคุณค่า ต่อยอดธุรกิจ

ขั้นตอนที่ 1 : เริ่มคิดว่าเรา “เป็นมืออาชีพ” เราคือ “กูรู”  ในเรื่องนั้น ๆ

ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจนะครับ หรือ ลังเลว่า เอ้ !! เราเป็นกูรูหรอ เราเก่งหรอ เรา เรา เรา …..

ตัดข้อกังวลนี้ไปได้เลยครับ ช่างซ่อมกระเป๋ายังเป็นกูรูเรื่องซิปแตกได้เลยครับ

บางคนก็มีสูตรลับเป็นเทพด้านการเจียวไข่ !! ไม่บ้าหละครับ

ในสิ่งที่เราทำแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นประโยชน์กับคนอื่น เราก็เป็นกูรูเรื่องนั้นได้ครับ

เราทำอาชีพอะไร เราทำธุรกิจอะไร เราต้องเป็น “มืออาชีพ” ในธุรกิจนั้น ๆ

ทำตัวเองให้เป็น “แบรนด์” สำหรับเรื่องนั้นครับ

ถามว่าทำไมต้องทำ ?

ก็ต้องบอกว่าถ้าคุณไปซื้อสินค้า หรือ บริการอะไรก็แล้วแต่ คุณจะซื้อจาก มือสมัครเล่น หรือ มืออาชีพ ครับ

นั่นหละครับ คือคำตอบว่าทำไมคุณต้องทำ

ขั้นตอนที่ 2 : ในอาชีพเราเป็นมืออาชีพ แล้วโลกออนไลน์เราเป็นอะไร

เราอยู่ในยุคที่โลกดิจิตอลมันซ้อนทับกับโลกความเป็นจริงครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องเดียวกัน

จะพูดคุยกับเพื่อนก็ไม่ต้องพบเห็นตัวเป็น ๆ ออนไลน์ เห็นหน้าเห็นตากัน

ทุกอย่างมัน “ใกล้ชิด” จนเราแทบแยกไม่ออกว่า “นี่ชีวิตจริง” หรือ “แค่ออนไลน์”

ความจริงเราคือมืออาชีพ เราคือกูรู บนโลกออนไลน์เราก็ต้องเป็น “กูรู”

จะมามัวเป็นพวก พร่ำเพ้อ ขี้หลี เมายา ด่าแม่เจ๊ก เจ้าชู้ไก่แจ้ ไร้เดียงสา หน่อมแหน้ม ฯ ไม่ได้ครับ

โลกออนกราวด์เป็นอย่างไร โลกออนไลน์ก็ต้องเป็นอย่างนั้น

หลายคนกังวล มันดัดจริตไปหรือเปล่า….

ผมก็บอกว่า “ถ้าดัดให้ จริต มันดี” ก็ควรต้องทำ

สำรวจดูนะครับ ภาพลักษณ์เราในหน้า Facebook,Line,IG,Youtube เราเป็นอย่างไร

เฟสบุ๊ค สื่อออนไลน์ คือ นามบัตร
ที่เราต้องการบอกให้โลกรู้ว่าเราเป็นใคร

หลายคนยอดขายหายเพราะ
นามบัตรที่นำเสนออกมานะครับ

จำไว้นะครับเรากำลังจะเป็น “คนต้นแบบ”

ดังนั้นความเป็น “แบรนด์” ของเรา “สำคัญมาก”

ขั้นตอนที่ 3 : ต้องมีเว็บไซต์ หรือ แฟนเพจหลัก สำหรับแบ่งปันเรื่องราว

การสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง คือการ แบ่งปัน “ความรู้” ส่งมอบ “ความชำนาญ” ที่เรามี

ส่งต่อให้กับผู้คนอย่าง “มืออาชีพ”

เครื่องมือสำคัญคือคุณต้องมีเว็บ หรือ หน้าแฟนเพจหลักที่เป็นเรื่องของเรา

เพราะนี่เรากำลังสร้าง Domain ความเชื่อให้กับผู้คน

เรากำลังพัฒนา ตัวตนให้คนรู้จัก

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีชื่อ website เป็นของเราเอง

เว็บไซต์เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ สำหรับสื่อสังคมออนไลน์ Social Media ที่จะได้วิ่งมาหา

ได้เวลาที่จะต้องไปจดโดเมน เว็บไซต์ เป็นชื่อของตัวเราเองแล้วครับ

ขั้นตอนที่ 4 : เตรียมข้อมูลทุกอย่างคุณให้พร้อม

เนื้อหา ความรู้ต่าง ๆ ต้องนำออกมาเรียงกันไว้ครับ วางแผนในการที่จะนำเสนอ

เราจะให้ผู้อ่าน รู้จักเราในรูปแบบไหน ส่วนนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคิดนะครับ

ใช่ว่าจะนำเรื่องอะไรมาเสนอ มาบอก มาคุยก็ได้

ต้องโฟกัสในเรื่องในประเด็นที่เราต้องเป็น “กูรู”

ไม่อย่างนั้นเว็บไซต์เราก็จะกลายเป็นเหมือนเว็บวาไรตี้ทั่วไป

ต้องจำเพาะ เจาะจงกันเลยทีเดียว

สำหรับรูปแบบ สำนวน ประเภทสื่อ ขึ้นอยู่กับความภาพลักษณ์ที่เราต้องการสร้างนะครับ

จะเคร่งเครียด หรือ มีหยิกเล็กหยิกน้อย หรือจะเอาฮา สนุก ท้องแข็ง หรือจะเศร้าจนน้ำตาไหล ก็อยู่ที่เราออกแบบครับ

ขั้นตอนที่ 5 มุ่งมั่น ต่อเนื่องที่จะแบ่งปัน

เป็นนักฟุตบอลต้องวิ่งให้ได้ 90 นาทีเป็นอย่างต่ำ ถ้าต้องต่อเวลาไป 120 นาทีก็ต้องสู้ไหว

การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องทำให้นักกีฬาแข็งแกร่ง เล่นได้จบเกมส์

สำหรับการที่เราจะส่งมอบ “ความรู้” ที่เรามี เพื่อสร้าง “คุณค่า” ในตัวเราเอง

ก็ต้องอาศัยเวลาการทำงานอย่างต่อเนื่องครับ

แรก ๆ เราอาจจะโดนกระแสสังคมเสียดสี ต่อต้านบ้าง

หากเรามั่นใจก็อย่าไปท้อครับ มีตัวอย่างที่ผมเห็นมากมายทีเดียวเลยครับ

พยายามที่จะสร้างสิ่งดี ๆ บทความดี ๆ แรก ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครสนับสนุน

แต่การที่ยืนหยัด ต่อเนื่องที่จะทำ ผ่านไป 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี

ตอนนี้ผู้คนเหล่านั้นก็ยังคงส่งมอบความรู้ ประสบการณ์ดี ๆ ต่อสังคม

และเช่นกันครับ ผู้คนที่ได้รับ ก็ตอบกลับยกย่อง “คุณค่า” กลับมาให้กับผู้คนเหล่านั้น

“คุณค่า” มาพร้อมกับ “แฟนคลับ” ที่พร้อมสนับสนุนพวกเขาในทุก ๆ ด้านเลยทีเดียว

ขั้นตอนที่ 6 สร้างเครือข่าย เชื่อมโยง แบรนด์ หรือ บุคคลอื่น

เขาว่ากันว่า เมื่อเรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ลงมือทำที่มากพอ จะทำให้เราได้มีโอกาสเจอคนที่เก่งมากยิ่งขึ้น

มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ขอเพียงเรากล้าที่จะก้าวออกไปหาเขา

ผู้คนเหล่านั้นพร้อมที่จะต้อนรับ และให้ความรู้ แนะนำให้เราก้าวขึ้นบันไดไปอีกขั้น

เราอยู่คนเดียวไม่ได้ มีแฟนคลับเพียงเราไม่ได้ แต่ต้องช่วยกันสร้างครับ

จับมือเติบโตไปด้วยกัน เหมือนดั่งเช่น เว็บ Taokaemai ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เดินคนเดียว

ผมมีพันธมิตร ที่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมกันแชร์ข้อมูล

มีคนเก่ง ๆ มากมายที่พร้อมที่จะเข้ามาให้ความร่วมมือ

ขอเพียงเรา “สร้างคุณค่าที่มากพอ” แล้วจักรวาลจะจัดสรร คนมาช่วยเหลือเราครับ

ขั้นตอนที่ 7 : ใช้ทุกศาสตร์ บูรณาการทุกอย่างเข้าด้วยกัน

ไม่มีหลักทฤษฎีอะไรใช้ได้เพียงแค่ลำพัง ทุกอย่างต้องมีตัวแปร มีสมการต่าง ๆ

เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เราต้องการ

การสร้างคุณค่าในตัวเอง ก็เช่นกัน

การสร้างแฟนคลับก็เช่นกัน

การทำแบรนด์ดิ้งตัวเราเองก็เช่นกัน

โปรดใช้ทั้ง หลักการ และ เหตุผล

รวมถึง ศิลปะ การนำเสนอ พูดคุย สื่อภาพ สี เสียง มาเป็นองค์ประกอบ

อย่ายึดเพียงออนไลน์

อย่าทำเพียงออฟไลน์

แต่จงลงมือทำทุกอย่างให้สอดประสานกันครับ

ทั้ง 7 ขั้นตอน เป็นแนวทางให้พวกเราลองนำไปลงมือทำเพื่อ “สร้างคุณค่าในตัวเอง”

เมื่อตัวเรามี “คุณค่า” คนอื่นเขาก็จะให้ “ราคา” กับเราเองครับ

ถึงตอนนั้น “ธุรกิจ” เราก็ขยับไปกับ “คุณค่า” ที่เรามี

“ยอดขาย” ก็จะเติบโตตาม “ราคา” ที่ “แฟนคลับ” มอบให้ครับ