ผมเชื่อว่า SMEs ได้ไอเดียในการทำคอนเทนต์แบบธรรมชาติขึ้นมามากเลย และเชื่อว่าหลาย ๆ คนจะนำไปปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ของตนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและเหมาะสมกับช่องทางที่มีอยู่

Mark Masters ชื่อนี้อาจจะใหม่สำหรับใครบางคน เขาเป็นใครเดี๋ยวเราจะได้รู้กันครับ… มาร์ก มาสเตอร์ส เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดิไอดีกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการทำตลาดโดยใช้คอนเทนต์  ตัวเขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าธุรกิจจำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ที่ดีขึ้น เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนและยึดมั่นในหลักการที่น่าสนใจ

มาร์ก เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อการทำตลาดโดยใช้คอนเทนต์ให้นักการตลาดและนักธุรกิจฟังตามงานประชุมทางด้านธุรกิจ เขาจะใช้แนวทางการเล่าเรื่องให้ฟังก่อนเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ฟัง ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่ามาร์ก มาสเตอร์สมีความโดดเด่นในการทำ Content และแน่นอนว่าต้องแตกต่างอย่างเป็นธรรมชาติด้วย… ชักอยากรู้แนวคิดของมาร์ก ซะแล้วสิ! ถ้าอย่างนั้นเรามาติดตามใน 15 สิ่งที่ SMEs ควรทำ Content แบบธรรมชาติ จาก Mark Masters กันเลยครับ

1.นำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการ

ธุรกิจต้องเริ่มนำเสนอแง่มุมที่มีประโยชน์ น่าสนใจ และสนุกสนานที่อยู่ในตัวเองให้ลูกค้ารับรู้ให้ได้ แล้วจะทำยังไงดีนะ? วิธีการที่มาร์ก บอกก็คือต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการของลูกค้า เพื่อกระตุ้นให้คนเกิดความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมนั่นเอง

2.มีความต่อเนื่องในการนำเสนอคอนเทนต์

เรื่องราวที่คุณบอกเล่าในธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะกลายมาเป็นข้อได้เปรียบที่แข็งแกร่งในการแข่งขัน  เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าตกลงใจจะซื้อสินค้าหรือบริการ เขาจะมีธงในใจอยู่แล้วว่าจะเลือกเจ้าไหน  นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้จัก ชอบและไว้ใจธุรกิจที่นำวิธีการทำตลาดโดยนำคอนเทนต์มาใช้นั่นเอง

3.เชื่อมโยงกับลูกค้าด้วยคอนเทนต์

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ธุรกิจต่างสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ มาร์กบอกเลยว่าวิธีนี้เป็นการพยายามขายของที่ผิด  อาจส่งผลให้ลูกค้าไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมไปกับคุณยาวเลยก็ว่าได้ คุณไม่ต้องทำเช่นนั้นเลย คุณสามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้เพียงแค่คุณรักษาความสดใหม่ ความท้าทายและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียนรู้และตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าของคุณด้วยคอนเทนต์

4.บอกเล่าเรื่องราวตัวเองด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ

มาร์กให้แนวทางว่า คนที่บอกเล่าเรื่องราวตัวเองด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ  จะกลายมาเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นที่ต้องการได้อย่างน่าภาคภูมิ ผู้คนจะหลั่งไหลมาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากประสบการณ์การผจญภัยและการตัดสินใจของคุณ  ถ้าคุณสามารถบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงและเข้าถึงได้ คุณก็จะอยู่ในฐานะที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือได้เช่นกัน

5.คุณสมบัติที่ควรมีถ้าอยากโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

มาร์กได้เน้นว่าถ้าคุณมีเป้าหมายในทางธุรกิจที่อยากจะโดดเด่นกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น คุณก็ต้องมีความมั่นใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีประวัติความสำเร็จที่ผ่านมา แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความรับผิดชอบต่อลูกค้า เราต้องรู้ตัวของเราเองว่าเรามีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน เมื่อรู้แล้วก็ปรับโฟกัสพลังงานไปทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่นและแสดงความคิดเห็นที่เรามี

6.การทำธุรกิจเปรียบเหมือนการเดินทาง

คำพูดของมาร์กที่มีคุณค่าต่อการใคร่ครวญนั่นก็คือ ถ้าอยากให้ลูกค้าเลือกเรา เราก็ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่ต่อเนื่องยาวนานที่เราต้องก้าวผ่านและไม่กลัวความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เรามีเป้าหมายที่ต้องเรียนรู้ และแบ่งปันประสบการณ์ที่จะช่วยทำให้เราเติบโต เราต้องแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของเรานั้นแข็งแกร่ง

7.ทำให้โลกดิจิทัลมีความเป็นมนุษย์

เป็นความจริงสำหรับข้อดีของเทคโนโลยีคือช่วยทำลายอุปสรรคและสิ่งกีดขวางอันเป็นหนทางเข้าสู่ตลาด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงได้เลย นั่นก็คือตัวตนของเราในฐานะคน ๆ หนึ่ง การส่งข้อความต้นฉบับที่ส่งให้ทุกคนเหมือน ๆ กันและการส่งข้อความอัตโนมัติเป็นสิ่งที่กีดกั้นไม่ให้คนอื่นมองเห็นและรับรู้เกี่ยวกับเรา การทำเช่นนั้นยังทำให้เรานำเสนอในด้านที่น่าสนใจในตัวเราไม่ได้อีกด้วย

8.เพิ่มความเป็นมนุษย์ให้มากขึ้น

ต้องยอมรับว่าการสื่อสารได้พาเรามาสู่โลกที่เต็มไปด้วยคำเชิญที่เชื่อมต่อกันมากมาย ถ้าคุณทำธุรกิจคุณจะต้องหาเสียงของตัวเองให้เจอและเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้มากขึ้น รวมถึงการรักษาปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและผู้รับสารที่ไว้ใจเรา ซึ่งช่องทางอินเตอร์เน็ตเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการทำธุรกิจในแง่ของการสร้างความสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสาร คุณต้องใช้มันในการช่วยให้คุณกลายเป็นผู้นำในตลาดของคุณให้จงได้

9.สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

เราต้องสร้างความโดดเด่นและวางตัวเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจ เราต้องกลายเป็นบุคคลหรือแบรนด์ที่คนอื่นยินดีจะรับฟัง ยิ่งคุณสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้มากเท่าไร กลุ่มผู้รับสารหรือลูกค้าของคุณก็จะมีมากขึ้น ถ้าคุณอยากให้ลูกค้ามองว่าคุณเก่งกว่าคู่แข่ง คุณจะต้องทำให้ลูกค้ามองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้นำ เป็นผู้ทรงอิทธิพล คนสำคัญ ถ้าทำได้ก็สามารถเข้าถึงตลาดได้

10.คิดถึงข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ

ถ้าอยากให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ให้คุณหาวิธีแก้ไขปัญหาให้คนอื่น คุณสามารถเสนอหนทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าได้โดยคิดถึงข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ แต่ถ้าคุณจะสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ขึ้นมาให้สำเร็จ คุณต้องมองเห็นปัญหาที่คนอื่นยังแก้ไม่สำเร็จให้ได้ก่อน ไม่มีลูกค้าคนไหนอยากให้เราขายสินค้าแบบโต้ง ๆ หรอก พวกเขาอยากให้มีคนมาตอบสนองต่อความคาดหวัง ความจำเป็นและความต้องการ

11.อารมณ์ความรู้สึกของลูกค้า

มาร์กให้แนวคิดว่าถ้าคุณสามารถมองสิ่งต่าง ๆ ผ่านสายตาคนอื่นได้ มุมมองและวิธีคิดของคุณก็จะเปลี่ยนไปด้วย สิ่งสำคัญสิ่งเดียวคือการเสนอผลประโยชน์ทางด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ลูกค้าควรจะได้รับ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการนำเสนอคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์

12.โฟกัสไปที่ความต้องการของลูกค้า

มาร์กเชื่อว่าเราทุกคนต่างก็อยากมีชีวิตที่มีความสุขขึ้น สุขภาพดีขึ้น และเป็นชีวิตที่ดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นแทนที่เราจะมุ่งมั่นแต่ขายของอย่างเดียว เราจะต้องโฟกัสไปที่ความต้องการของลูกค้า ถ้าเริ่มเปลี่ยนจุดโฟกัสได้เราก็จะสามารถไปสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าและทำให้ลูกค้ารักแบรนด์ของเราได้

13.ยืนหยัดเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

คุณต้องตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นที่หนึ่งเหนือคู่แข่งให้ได้ ซึ่งคุณต้องยืนหยัดเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คนอื่นเชื่อมั่นนั่นเอง เมื่อใดที่คุณทำได้ คุณก็จะกลายเป็นแหล่งที่ทุกคนเชื่อถือและไว้ใจ เมื่อคนอื่นเชื่อมั่นและให้คุณค่าที่เหมือนคุณ คุณจะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

14.ปรับคอนเท้นต์ให้เข้ากับสื่อรูปแบบต่าง ๆ

มาร์กแนะนำว่าคุณต้องปรับคอนเทนต์ที่จะสื่อสารให้เข้ากับช่องทางต่าง ๆ ที่ลูกค้าใช้กันอยู่ ธุรกิจจำนวนมากพลาดตรงที่ใช้คอนเทนต์เดียวกันมาพูดซ้ำผ่านทุก ๆ ช่องทาง พวกเขาไม่ได้ปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับผู้รับสารหรือให้เหมาะสมกับระเบียบปฏิบัติของช่องทางที่ใช้นั้นเลย

15.คอนเทนต์ที่ผ่านการคิดการเขียนเป็นคอนเทนต์ที่โดดเด่น

คุณรู้หรือไม่ว่าคอนเทนต์ที่ผ่านการบรรจงเขียน ครุ่นคิด และกำหนดเป้าหมายมาเป็นอย่างดียังโดดเด่นที่สุดอยู่เสมอ แทนที่จะสร้างคอนเทนต์เหมือนคนอื่นที่เน้นแต่เรื่องผลิตภัณฑ์และความสำเร็จของตัวเอง คุณต้องมุ่งมั่นเดินหน้าให้ความรู้และบอกลูกค้าให้รู้ว่าวิธีแก้ปัญหาแบบไหนมีข้อดีอย่างไรบ้าง แล้วจึงค่อยวางตัวเป็นผู้เสนอวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้น

ได้เห็นแนวทางการทำคอนเท้นต์ของ Mark Masters แล้ว ผมเชื่อว่า SMEs ได้ไอเดียในการทำคอนเทนต์แบบธรรมชาติขึ้นมามากเลย และเชื่อว่าหลาย ๆ คนจะนำไปปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ของตนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและเหมาะสมกับช่องทางที่มีอยู่ รวมถึงการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ ผมเชื่อว่าจะสามารถเชื่อมต่อกับผู้รับสารหรือลูกค้าของเราได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมครับ