การเป็นหนี้หลายคนไม่อยากเป็นแต่ “จำใจ” ที่ต้องเป็น หนี้หลายชนิดเป็นหนี้ที่ดีและมีหนี้หลายชนิดที่ไม่ดี บางคนเป็นหนี้มากจนแทบจะรับไม่ไหวทำให้เกิดปัญหา หนี้สินเกินตัว จน “จ่ายหนี้ไม่ไหว” ปัญหาที่คนในปัจจุบันเป็นกันมากขึ้น หลายคนหาวิธีแก้ไม่ได้ชีวิตครอบครัวพังทลายไปก็มี

สาเหตุของการเป็นหนี้

1.ความอยากได้โดยไม่จำเป็น

บางครั้งความต้องการของคนเราก็เป็นสิ่งที่รอไม่ได้หรือไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ เช่น ต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ทั้งที่ความเป็นจริง ของบางอย่างอาจจะยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน

2. หมุนเงินไม่ได้ทัน

การเป็นหนี้ลักษณะนี้มักเกิดจากการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดและไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ทันกำหนด เมื่อเงินที่คาดว่าจะได้รับไม่สัมพันธ์กับจำนวนเงินที่ต้องชำระ

3. ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้

ค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมีความแตกต่างกันแต่ เมื่อถึงเวลาที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ หลายคนจึงต้องกู้หนี้ยืมสินมาด้วยการกดเงินสดโดยตรงจากบัตรเครดิตและการกู้หนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยอัตราสูงทำให้สามารถชำระเงินได้จนเกิด รายจ่ายมากกว่ารายได้ขึ้น

4.ลงทุนสร้างธุรกิจ

หนี้เกิดจากการทำธุรกิจโดยหนี้ลักษณะนี้ก็ถือว่าเป็นหนี้ที่มีประโยชน์ เช่นเราลงทุน จ้างพนักงาน เช่าพื้นที่สำนักงาน ซื้อสินค้ามาขาย ทุนหมุนเวียน เป็น  แต่หนี้เหล่านี้เป็นหนี้ที่จะสร้างรายได้ให้เราในอนาคต

5. หนี้จากการค้ำประกันให้ผู้อื่น

หนี้ลักษณะนี้เกิดจากเราไปค้ำประกันเงินกู้ให้บุคคลอื่น แล้วถ้าผู้กู้เบี้ยวหนี้ไป คนที่จะรับเคราะห์ก็คือผู้ค้ำประกันนั่นเอง

6. หนี้ขอการพนัน ติดการพนันทั้งหลาย

เมื่อเล่นเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย ก็จะเป็นหนี้ที่ต้องรีบหาเงินมาจ่ายโดยเร็ว เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นได้ง่ายและมีโอกาสเป็นหนี้ได้มาก และมีโอกาสที่จะเป็นหนี้ที่เกินตัวได้ง่าย

7.ชีวิตที่ขาดการวางแผน

บางคนมักจะมองการใช้เงินของตัวเองในระยะสั้น ๆ แบบวันต่อวัน หรือไกลที่สุดก็ได้แค่เดือนนี้ โดยไม่คำนึงถึงเรื่องในอนาคต อย่างเช่น การมีครอบครัว การมีบุตร การซื้อบ้าน การซื้อรถ การศึกษา การเลี้ยงดูพ่อแม่ การดูแลสุขภาพ หรือการเกษียณอายุของตัวเอง เป็นต้น ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่ยกตัวอย่างมา กลับไม่มีเงินเพียงพอ อาจจะต้องกู้สินเชื่อเร่งด่วนที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูง นั้นคือการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น นั้นทำให้เกิดหนี้สินเกินตัว หนี้สินที่เพิ่มมากลับกลายภาระที่เพิ่มขึ้นมา

วิธีจัดการหนี้เก่าที่ดอกเบี้ยวิ่งตลอดเวลา

1. อย่ากู้เงินเพิ่ม

เมื่อเราเป็นหนี้ที่จ่ายไม่ไหวแล้ว ต้องไม่สร้างหนี้เพิ่ม โดยการประหยัดให้มากที่สุด ซื้อแต่สิ่งของจำเป็นจริงๆ ยังไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็น ขณะนี้ไม่สะดวกจ่าย แล้วหันมาพยายามจับจ่ายใช้สอยด้วยเงินสด ควรใช้จ่ายอย่างมีสติด้วย

2. วางแผนการใช้เงินอย่างถูกต้อง

การใช้เงินต้องมีการจดบันทึกอย่างละเอียด เพื่อให้รู้ถึงสถานะทางการเงินของตัวเอง โดยสรุปให้เห็นว่ารายรับรายจ่ายเราเป็นอย่างไร และอะไรคือรายรับรายจ่ายที่จำเป็น อะไรเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต้องตัดทิ้งออก เพื่อให้ได้รายรับเหลือมากที่สุดเพื่อชำระหนี้

3. จัดสรรหนี้

หนี้แต่ละชนิดต้องมีการจัดให้เป็นระเบียบ เป็นโดยเราอาจจะเลือกกับหนี้ก้อนใหญ่ ออกจากก้อนเล็ก และเลือกชำระที่ใส่วนที่มียอดหนี้มากที่สุดโดยอาจจะดูจากวงเงินกู้ และชำระในส่วนที่เป็นหนี้เยอะสุดเพื่อลดยอดเงินให้น้อยลง

4. การรีไฟแนนซ์

เมื่อเราใช้หนี้จนเงินไม่พอใช้ในชีวิตประจำวัน ลองเปลี่ยนเจ้าหนี้โดยรีไฟแนนซ์ไปยังเจ้าหนี้รายใหม่โดยอาจจะทำให้ยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้ให้นานขึ้น ทำให้ลดจำนวนเงินในการชำระลดลงแต่เพิ่มระยะเวลาในการผ่อนคืนเพิ่มขึ้น

5. หาแหล่งเงินกู้

เมื่อไม่มีทางเลือกในการใช้หนี้แล้ว ทางออกอีกทางที่สามารถช่วยได้คือ ต้องหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำการ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสวัสดิการพนักงาน สหกรณ์ บริษัทที่ทำงานอยู่ หรือถ้ามีประวัติทางการเงินดี ก็อาจจะหายืมจากเพื่อนหรือคนรู้จัก รวมไปถึงคนในครอบครัวก็เป็นอีกทางหนึ่ง

6. ปรับโครงสร้างหนี้

การปรับโครงสร้างหนี้ คือการทำสัญญาใหม่ที่จะรวมเงินต้น ดอกเบี้ย เบี้ยปรับทั้งหมด ค่าธรรมเนียมการติดตามหนี้ และมาปรับระยะเวลาหรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ ข้อดีก็คือช่วยยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป และคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่าหนี้แต่ละชนิดมี การคิดดอกเบี้ยก็อยู่ในอัตราที่ต่างกันอยู่ที่ชนิดของสินเชื่อ

7.ทำสัญญาประนีประนอม

ถ้าเราไม่สามารถชำระหนี้ตามปกติได้ เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องร้องต่อศาล หากท่านได้รับหมายศาล แนะนำให้เราไปศาลในกำหนดนัดแรก ซึ่งศาลจะให้เจ้าหนี้ลูกหนี้ได้เจรจาไกล่เกลี่ย โดยเราอาจจะเจรจาขอลดดอกเบี้ยและขอผ่อนชำระรายเดือน โดยจะมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ มากกกว่าการไม่ไปศาล

8.เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน

เอาของที่มีอยู่แปลงเป็นเงิน แล้วนำมาชำระหนี้ให้เร็ว เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ของเก่า พระเครื่อง เป็นต้น อาจจะขายหรือจำนำ  เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ได้

9.จ่ายวงเงินขึ้นต่ำ

การจ่ายเงินต้นขึ้นต่ำนั้นเป็นอีกวิธีทางหนึ่งนิยมกันแต่ไม่เป็นวิธีที่ดีนัก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ควรจ่ายขั้นต่ำ

10.เพิ่มรายได้ด้วยงานพิเศษ

หารายได้เพิ่มให้มากขึ้น เราก็สามารถวางแผนจัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยให้มีเงินเหลือไปชำระหนี้ได้อาจจะบางส่วนหรือทั้งหมด เมื่อมีรายเพิ่มมากขึ้นย่อมสามารถคลี่คลายปัญหาหนี้สินได้เร็วขึ้นเช่นกัน

11.ปล่อยยึดทรัพย์

ถ้าเราไม่สามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ทำหน้าที่ฟ้องเพื่อยึดทรัพย์ แต่การยึดทรัยพ์จะไม่ไม่สามารถจะยึดได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเครื่องใช้ในครัวเรือนที่จำเป็นในการดำรงชีวิต มูลค่ารวมกัน 50,000 บาทแรกห้ามเจ้าหนี้ยึด เช่น โต๊ะรับประทานอาหาร เก้าอี้ โทรทัศน์ เครื่องครัว แต่ถ้าเป็น  เครื่องประดับ สร้อย แหวน นาฬิกา สามารถยึดได้เป็นต้น

12.ยอมล้มละลาย

การถูกฟ้องล้มละลายนั้นเกิดได้ก็ต่อเมื่อศาลพิจารณาเห็นแล้วว่าเรามีหนี้สินล้นเกินตัว จนไม่สามารถชำระคืนได้ หลังจากที่เราถูกดำเนินการยึดทรัพย์สินไปแล้ว แต่มูลค่าก็ยังไม่พอจ่ายหนี้ และมีจำนวนหนี้เกินกว่า 1 ล้านบาท ทำให้เราจะถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายได้เลย เมื่อเป็นบุคคลล้มละลายนั่น ซึ่งต้องรอเวลาถึง 3 ปี ถึงจะเกินสถานะ วิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายที่ไม่แนะนำแต่ถ้าจำเป็นก็หลีเลี่ยงไม่ได้

13. เปลี่ยนเปลี่ยนตัวเอง

สิ่งทีสำคัญที่สุดคือ ตัวเราเอง เราต้องปรับเปลี่ยนนิสัยในการใช้จ่ายก่อนที่เรา จากใช้อย่างรอบคอบและไม่ใช้จ่ายโดยไม่คิด โดยวางแผนการเงินให้เป็นอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับชีวิตตัวเอง

14.เริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่าย

เราต้องใช้จ่ายเงินโดยต้องทำบัญชีรายรับรายจ่า โดยนำเงินที่ที่เหลือให้เก็บไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสะสมเงินเอาไปจ่าหนี้ได้กับเจ้าหนี้

การเป็นหนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หนี้สินที่เกินตัวนั้นถือว่าไม่เป็นเรื่องปกติแต่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายๆคน ปัญหานี้เกิดได้หลายสาเหตุดังที่กล่าวมาแล้ว ทางที่ดีที่สุดเราต้องวางแผนชีวิตทางการเงินให้ดี เพราะการเป็นหนี้สินที่เกินตัวจะส่งผลกระทบต่อตนเองมาก ยังไม่รวมถึงครอบครัวและคนรอบข้าง

ขอให้กำลังใจกับลูกหนี้ทุกคนให้สามารถผ่านไปได้มันอาจจะลำบากกว่าจะผ่านไปได้แต่ก็มีทางที่จะเกินสถานะของคำว่า “หนี้สินเกินตัว” ให้ได้ จงมีความหวังในการปลดหนี้สิน ทุกชีวิตมีวันพรุ่งนี้เสมอ