เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ ถอด 4 บทเรียนชีวิตและการลงทุน 0 สู่ร้อยล้าน

คนเราไม่ได้เกิดมาบนความสมบูรณ์แบบ หลายคนที่เกิดมาพร้อมกับจุดอ่อนในชีวิตบางอย่างในวัยเด็ก แต่ทว่าสุดท้ายจุดอ่อนนั้นกลับไม่ใช่ปัญหาสำคัญเลยและกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขาสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ในทุกวันนี้ ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้นี้นังเป็นอีกนิยามหนึ่งของนักลงทุนมากความสามารถที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้อย่างคุณทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือเซียนมี่ โดยเราจะมาถอดบทเรียนความสำเร็จกันว่าเหตุใดชีวิตที่มีจุดอ่อนในวัยเด็กจะกลับมามั่งคั่งร่ำรวยเช่นในปัจจุบัน

เมื่อชีวิตเลือกเกิดไม่ได้

คุณทิวา ชินธาดาพงศ์หรือเซียนมี่ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางโดยคุณพ่อเป็นพนักงานบริษัทในขณะที่คุณแม่ทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว

ในวัยเด็กเซียนมี่เป็นคนที่เรียนไม่เก่งเอาเสียเลยและมักจะสอบตกอยู่เป็นประจำจนเป็นที่กังวลของคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก แต่แม้เขาจะสอบตกเขาก็ยังมีอาม่าที่คอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอและมีความเชื่อว่าหลายคนนี้จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยได้ในอนาคต มีคำสอนหนึ่งของอาม่าที่เซียนมี่จดจำได้เป็นอย่างดีคือ“ดอกไม้แต่ละดอก ย่อมมีฤดูกาลที่จะเจริญงอกงามได้ แตกต่างกันออกไป”

ลาออกจากการเรียนและเริ่มต้นทำงาน

เมื่อหัวไม่ไหวสุดท้ายเซียนมี่จึงนัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพราะคิดว่าฝืนเรียนไปก็คงเรียนไม่ไหวอยู่ดีและจากการชักชวนของเพื่อนสนิททำให้เซียนมี่ตัดสินใจออกมาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นอาชีพแรกของเขา

เพราะว่าเซียนมี่ยังอายุน้อยมากทำให้การตัดสินใจลาออกมาขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นที่หนักใจของทั้งคุณพ่อและคุณแม่สุดท่ายคุณพ่อและคุณแม่จึงตัดสินใจส่งเขาไปเรียนที่ประเทศจีน เซียนมี่จึงมีโอกาสไปเรียนอยู่ที่นั่น 2 ปีครึ่ง

หลังจากเขากลับมาเขาเริ่มต้นทำงานหลากหลายอาชีพ ครึ่งหนึ่งเขาทำงานเป็นเซลล์ขายรถ เซียนมี่เริ่มมองอนาคตว่าหากเขายังทำงานอยู่แบบนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้าเขาจะต้องเลื่อนขึ้นเป็นผู้จัดการสาขากินเงินเดือน 5 หมื่นแต่ชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่ชีวิตที่เขาต้องการ

เริ่มต้นทำธุรกิจ

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจออกมาทำธุรกิจของตนเอง แต่ด้วยวิกฤตเศรษฐกิจทำให้กิจการของเขาย่ำแย่จนต้องปิดกิจการและเหลือเงินเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น

ในตอนนั้นเหมือนชีวิตเคว้งคว้างอย่างหนักจนทำให้เซียนมี่หันไปเล่นพนันบอลจนเงินหมด สุดท้ายเมื่อได้สติเซียนมี่จึงปรึกษากับภรรยาและตัดสินใจยืมเงินญาติเพื่อทำธุรกิจระบายสีตุ๊กตาซึ่งเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับเขา และจากการคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าที่ค่อนข้างแม่นยำทำให้เซียนมี่ตัดสินใจเปิดร้านเกมส์โดยไม่ฟังคำทักท้วงของผู้ใหญ่และก็กลายเป็นว่าสิ่งที่เขาคิดไว้ถูกเพราะธุรกิจร้านเกมส์ทำให้เขามีเงินเก็บถึง 10 ล้านบาท

จุดเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญ

ในปี 2551 เขาได้มีโอกาสฟังสัมมนาเล็ก ๆ ของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เซียนหุ้น VI ซึ่งกลายเป็นว่าสัมมนาในครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาที่ทำให้เขาให้ความสนใจการลงทุนในตลาดหุ้น

เซียนมี่ตัดสินใจกลับมาศึกษาการลงทุนในหุ้นอย่างหนัก แต่ด้วยช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากวิกฤตซับไพร์ม ทำให้เซียนมี่เองขาดทุนอย่างหนักเช่นกันจนเกือบจะถอดใจ แต่ก็ได้เขาเตือนจากดร.นิเวศน์ที่ออกมาเตือนนักลงทุนในช่วงนั้นเหตุการณ์ในไทยไม่ได้น่ากลัวและแม้แต่ตัว ดร.นิเวศน์เองก็ยังยอมลงทุนด้วยบัญชีมาร์จินทั้ง ๆ ที่ลงทุนด้วยเงินสดมาตลอด คำเตือนนี้เองที่ทำให้เซียนมี่ยังคงตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นอยู่เช่นเดิมด้วยเนที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งนั้น ซึ่งเหตุการณ์ซับไพร์มนี้เองที่ทำให้เซียนมี่ได้หุ้นคุณภาพดีราคาถูกมาไว้ในมือมากมายและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่เขาในที่สุด

ลงทุนด้วยการตั้งเป้าหมายคือนิยามการลงทุนของเซียนมี่

เซียนมี่เป็นคนที่ตั้งเป้าหมายในการลงทุนเสมอ เขามักจะตั้งเป้าหมายการลงทุนถาพใหญ่เอาไว้ที่ 26% ต่อปีและใช้วิธีการแตกย่อยเป้าหมายนั้นให้เล็กลงเป็นรายเดือนไปจนครบหนึ่งปีและวางแผนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้น

เขามักจะค้นหาจ้อมูลของบริษัทที่ต้องการลงทุนด้วยการเข้าฟัง OPP DAY เพื่อเข้าถึงข้อมูลธุรกิจและมุมมองของผู้บริหารและวางแผนการลงทุนหมุนไปเรื่อย ๆ ตามไตรมาส แต่แม้เขาจะเป็นนักลงทุนสาย VI ก็จริง แต่เมื่อใดที่เขาเห็นว่าธุรกิจที่เขาลงทุนมีปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไปเขาก็จะขายหุ้นตัวนั้นทันทีและคอยมองหาโอกาสกลับเข้าซื้อในช่วงที่ราคาหุ้นถูกลงเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานนั้นทำให้เขาเป็นคนที่เข้าซื้อหุ้นได้ถูกที่ถูกเวลาเสมอ

เซียนมี่มักจะมองหุ้นเหมือนชีวิตที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเขาจะติดตามสถานการณ์ของหุ้นตัวที่เขาสนใจอยู่เสมอด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้าซื้อหุ้นในจังหวะที่เหมาะสมอยู่เสมอและพัฒนาพอร์ตการลงทุนจนเติบโตเช่นในปัจจุบัน

บทเรียนแนวคิดการลงทุนของ เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์

1.ความขยันและความอดทนคือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

เคล็ดลับความสำเร็จแรกของเซียนมี่ก็คือความขยัน อดทน แม้อาจจะเคยมีชีวิตที่ผิดพลาดไปบ้างแต่ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นทำงาน ผันตัวเองเป็นเจ้าของกิจการจนนำไปสู่การเป็นเซียนหุ้นนั้น เขามีทั้งความขยันและความอดทนที่จะลงมือทำงานและศึกษาหาความรู้มาโดยตลอด แม้ในวันนี้ที่เขาประสบความสำเร็จแล้วเขาก็ยังคงไม่หยุด ด้วยคุณสมบัตินี้เองจึงทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ในปัจจุบัน

2.วางเป้าหมายเป็นเข็มทิศและเดินหน้าสู่เป้าหมายอย่างไม่ลดละ

เป้าหมายคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเซียนมี่ เขามีแนวคิดในการกำหนดเป้าหมายและการจัดการให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมายที่เป็นภาพใหญ่ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายย่อยและวิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น ๆ ด้วยเป้าหมายและแนวทางการเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ชัดเจนนี้เองจึงทำให้เซียนมี่ประสบความสำเร็จจนทำให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้อย่างมั่นคง

3.เป็นคนหนึ่งที่มองสถานการณ์ขาด ทักษะนี้มีตั้งแต่ในสมัยที่ทำธุรกิจ

เซี่ยนมี่เป็นคนหนึ่งที่มองสถานการณ์ขาดโดยตั้งแต่สมัยที่เขาลงทุนทำธุรกิจ เขาตัดสินใจเปิดร้านเกมทั้งๆที่มีผู้ห้ามปราม แล้วสุดท้ายการตัดสินใจของเขาก็ถูกต้อง จนเมื่อเขาเข้าสู่แวดวงการลงทุน การมองสถานการณ์ขาดก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จของเขาเช่นกัน เพราะเขามักจะเลือกลงทุนหุ้นถูกที่ถูกเวลาเสมอ จากการทำงานหนักและการวิเคราะห์หุ้นของเขา ทำให้มูลค่าพอร์ตของเขาเติบโตขึ้น จาก 0 บาทสูตรหลักร้อยล้านบาทเช่นในทุกวันนี้

4.ไม่ยึดติดกับหุ้นที่ตนเองถือ หากพื้นฐานเปลี่ยนก็พร้อมที่จะบอกลา

เซียนมี่เป็นคนนึงที่ไม่ยึดติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แม้ว่าหุ้นของเค้าจะมีพื้นฐานที่ดีก็ตาม แต่หากในวันหนึ่งหุ้นตัวนี้มีพื้นฐานที่เปลี่ยนไป เขาก็พร้อมจะบอกลาจากหุ้นตัวนั้นทันที แต่ก็ใช่ว่าเขาจะลาขาดเพราะเขามักจะเฝ้ามองหุ้นตัวนั้นเพื่อรอเวลาที่ราคาหุ้นจะเหมาะสมแล้วจึงกลับเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นใหม่อีกครั้ง ด้วยกลยุทธ์เช่นนี้จึงทำให้เซียนมี่เป็นคนที่มักจะเข้าซื้อหุ้นถูกที่ถูกเวลาเสมอ

เคล็ดลับความสำเร็จของเซียนมี่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่นักลงทุนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการลงทุนของตนเองได้โดยเฉพาะแนวทางการวางเป้าหมายและการปรับใช้จนนำไปสู่ความสำเร็จ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความอดทนและความขยันของเซียนมี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นำพาเขาสู่ความสำเร็จซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรจะสร้างให้เป็นนิสัยที่ดีเพื่อความสำเร็จในการลงทุนของตนเองเช่นกัน