Google คือ search engine ยักษ์ใหญ่ที่ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 เหนือคู่แข่ง รายอื่น ๆมานานกว่า 2 ทศวรรษ ด้วยระบบการค้นหาที่แม่นยำและรวดเร็วจากฐานข้อมูลที่ Google รวบรวมเอาไว้และบริการเสริมอื่น ๆที่ถูกพัฒนามาตลอดภายใต้ขุมกำลังและมันสมองของ Larry Page และ Sergey Brin 2 ผู้ก่อตั้งที่ผลักดันจนทำให้ Google กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคไอทีโดยมีทรัพย์สินรวมกว่า 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐและกลายเป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจในวงการไอทีในปัจจุบันครับ แต่แล้วในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ทาง 2 ผู้ก่อตั้งทั้ง Larry Page และ Sergey Brin ได้ทำในสิ่งที่ช็อกวงการโดยประกาศถึงการก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำขององค์กรที่มีผู้นิยมใช้งานมากเป็นอันดับ 1 ของโลกนี้ ซึ่งก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงทิศทางในอนาคตของ Google นับจากนี้ว่าจะเป็นเช่นไร แต่ก่อนจะถึงวันนั้นเรามาร่วมย้อนอดีตของ Google นับจากวันที่ก่อตั้งจนถึงวันนี้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเพื่อเป็นการรำลึกถึงผลงานที่ผ่านมาของ 2 คู่ซี้อย่าง Larry Page และ Sergey Brin ครับ

ต้นแบบ Startup จากโรงรถ สู่อาณาจักรระบบค้นหาที่ใหญ่สุดในโลกปัจจุบัน

จุดกำเนิดของ Google เริ่มต้นในปี 1996 เมื่อ 2 นักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย Stanford อย่าง Larry Page และ Sergey Brin มีความคิดที่จะปฏิวัติวงการของเครื่องมือที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูลแบบใหม่ (Search engine) ภายใต้ชื่อ BackRub” โดยนำเทคโนโลยี PageRank” ซึ่งจะทำการจัดอันดับหน้าเว็บตามจำนวนหน้าเว็บอื่น ๆ และเชื่อมโยงกลับไปที่พวกเขาโดยสำนักงานแห่งแรกก็คือห้องพักภายใน Stanford นั่นเองและต่อมาชื่อ BackRub ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น Googol และท้ายที่สุดก็กลายมาเป็น Google ดังที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ตัวแรกถูกสร้างขึ้นโดยการนำตัวต่อ Lego มาใช้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบโดยเซิร์ฟเวอร์นี้ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัย Stanford และชื่อโดเมน Google.com ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 1997

ด้วยความที่ Google ใช้แบนด์วิธของสแตนฟอร์ดมากเกินไปจึงทำให้แผนกไอทีของสแตนฟอร์ดต้องตัด Google ออกจากระบบของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้ Page และ Brin ต้องทำการย้ายออฟฟิศใหม่และทั้ง 2 ก็ได้เลือกโรงรถของ Susan Wojcicki ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นพนักงานของ Google และหัวหน้าของแผนก Youtube ในอนาคตมาเป็นออฟฟิศ

ระดมทุนครั้งแรก 100,000 $ สู่อาณาจักร แสนล้านดอลล่า

ในช่วงเวลาเดียวกับที่พวกเขาย้ายเข้ามาในโรงรถ Brin และ Page ได้รับเงินลงทุน $ 100,000 จาก Andy Bechtolsheim ผู้ก่อตั้ง Sun Microsystems จากการระดมทุนนี้ Google จึงได้ทำการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 1998

หากเราสังเกตดี ๆจะพบว่าหน้าแรกของ Google นั้นไม่มีอะไรที่สร้างความจดจำหรือความประทับใจได้เลยเพราะทั้ง Page และ Brin ไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำหน้าเว็บไซต์แต่กระนั้นพวกเขาเลือกที่จะให้ความสนใจในการพัฒนาระบบการทำงานของ Google ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ Google มักจะทำเสมอเมื่อถึงเทศกาลสำคัญ ๆต่าง ๆก็คือการทำ Google Doodle โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1998 เป็นการแสดงความเคารพต่อ Burning Man ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีในทะเลทรายเนวาดา

ต่อมาในปี Brin และ Page ได้รับ Craig Silverstein นักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย Stanford เข้ามาเป็นพนักงานคนแรกของ Google

Goolge เกือบที่จะถูกซื้อกิจการในปี 1999 โดย Excite ซึ่งเป็น search engine ชั้นนำในเวลานั้นด้วยเงินสด 750,000 เหรียญสหรัฐแต่การเจรจาดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จและท้ายที่สุด Page และ Brin ก็ยังคงบริหาร Google ต่อไปและในเดือนมีนาคมปี 1999 Google ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในสำนักงานแห่งแรกที่ 165 University Avenue ใน Palo Alto ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเดียวกันกับบริษัท เช่น PayPal และ Logitech และไม่นานหลังจากนั้น Google ก็ระดมทุนรอบแรกเป็นจำนวนกว่า 25 ล้านดอลลาร์จาก Kleiner Perkins Caufield, Byers และ Sequoia Capital

เริ่มสร้างรายได้จาก Google ด้วยการเปิดตัว Google Adwords

ในช่วงปลายปี 2000 Google เปิดตัว Google AdWords ซึ่งเป็นบริการที่ทำให้ธุรกิจต่าง ๆสามารถซื้อโฆษณาที่มีคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนได้ ความนิยมของ Google เพิ่มสูงขึ้นจนสามารถสร้างรายได้เข้าบริษัทได้อย่างมั่นคงและสามารถเอาชนะเหล่าบรรดา start-up ดอทคอมหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแวดวงไอทีอื่น ๆมากมาย ในช่วงเวลานี้เองที่ Google ได้คิดปรัชญาขององค์กรขึ้นมาและกลายเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน ปรัชญาที่ว่านี้ก็คือ “Don’t be evil.”

            ในปี 2001 Brin และ Page ได้เลือกให้  Eric Schmidt มาเป็น CEO คนแรกของบริษัทเพื่อช่วยบริหารองค์กรในภาพรวมซึ่งทำให้ทั้ง Brin และ Page สามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีของ Google ได้อย่างเป็นอิสระ

ในปี 2003 Google ได้ขอเช่า Googleplex จาก Silicon Graphics International เพื่อนำมาใช้เป็นสำนักงานใหญ่และในปี 2006 Google จึงขอซื้อ Googleplex ทั้งหมดเพื่อตั้งเป็นสำนักงานถาวรจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ Google ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายแรกที่ให้บริการอาหารฟรีแก่พนักงานของตนเอง

เปิดบริการเพิ่ม เสริมทัพด้วยการซื้อกิจการ Startup ดาวรุ่งมาสร้างนวัตกรรมดิจิทัล

ในวันที่ 1 เมษายน 2004 Google ได้ประกาศเปิดตัว Gmail ซึ่งเป็นบริการอีเมลของทาง Google และหลังจากนั้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2004 Google ได้ทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรกในตลาดหุ้นในราคา 85 ดอลลาร์ต่อหุ้นซึ่งในปัจจุบันหุ้นของ Google มีมูลค่าสูงถึง  1,314 ดอลลาร์ต่อหุ้นต่อมา Google ได้ทำการซื้อเทคโนโลยี Keyhole รุ่นใหม่, Where2 และ ZipDash ซึ่งถูกนำมาใช้ในการพัฒนา Google Maps ในปัจจุบัน

ในปี 2005 Google ซื้อกิจการ Start-up รายหนึ่งที่สร้างระบบปฏิบัติการสำหรับกล้องดิจิทัลที่เรียกว่า Android ซึ่งถูกพัฒนาโดย Andy Rubin และเข้าซื้อกิจการของ YouTube ซึ่งเป็นเว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นโดยพนักงานอดีต PayPal เป็นจำนวนถึง 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีเดียวกันนี้เอง Google เปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกใน The Dalles รัฐโอเรกอนบนฝั่งแม่น้ำโคลัมเบีย

ในปี 2008 HTC Dream ได้ตีตลาดสมาร์ทโฟนโดยเป็นสมาร์ทโฟน Android เครื่องแรกในวันนี้ Google Android เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกขณะเดียวกัน Google ยังเปิดตัว Google Chrome ขึ้นมาเป็นเว็บบราวน์เซอร์ของตนเอง

ในปี 2011 Eric Schmidt ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Google แต่เขายังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารที่คอยให้คำแนะนำแก่ Brin และ Page โดย Page ได้ขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Google

รวมศูนย์อำนาจ เปิดตัว Alphabet

ในเดือนตุลาคม 2015 Google ทำให้โลกต้องตกใจโดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรซึ่งทำให้ Google กลายเป็นบริษัทลูกของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่แห่งใหม่ โดย Page เข้ารับตำแหน่ง CEO และ Brin ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท Alphabet ทำให้ Sundar Pichai อดีตหัวหน้าแผนกของ Google Chrome ได้รับการแต่งตั้งเป็น CEO คนใหม่ของ Google ในที่สุด

เผชิญวิกฤต ปัญหาภายใน

ใช่ว่าการดำเนินการของ Google ในช่วงที่ผ่านมาจะไม่มีอุปสรรค โดยนับแต่การเข้ามาเป็น CEO Pichai ต้องรับมือกับบททดสอบต่าง ๆนับตั้งแต่การที่ Google ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการกระจายข้อมูลผิด ๆในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในปี 2016 เช่นการวิพากษ์วิจารณ์อัลกอริทึมของ YouTube ว่ามีส่วนในทฤษฎีการสมคบคิด

ในปี 2018 Google ต้องเผชิญความขัดแย้งภายในองค์กรในเรื่องของ Project Maven ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโดรนโดยใช้เทคโนโลยีของ Google ในด้านการทหารกับทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ รวมไปถึง Project Dragonfly ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบ Search engine ที่เป็นความลับสุดยอดระหว่างทาง Google กับทางรัฐบาลจีนโดยทั้ง 2 โครงการนี้ได้รับการต่อต้านจากพนักงานของ Google  เป็นอย่างมากและรวมไปถึงการรวมตัวประท้วงของพนักงานของ Google ทั่วโลกเพื่อประท้วงการประพฤติมิชอบทางเพศของผู้บริหารอย่าง Andy Rubin ผู้พัฒนาระบบ Android ของ Google

ในเดือนพฤศจิกายน 2018 Pichai ต้องไปให้การเป็นพยานต่อหน้าคณะกรรมการตุลาการในข้อกล่าวหาที่ว่าผลการค้นหาของ Google นั้นมีอคติ ซึ่ง Pichai ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ก้าวลงจากตำแหน่งของผู้ร่วมก่อตั้ง สู่บริบทใหม่ที่จะเดินต่อไปในปี 2020

ในเดือนธันวาคม 2019 Brin และ Page ประกาศว่าพวกเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งที่บริษัทแม่ของ Google แต่พวกเขายังคงเป็นสมาชิกของคณะกรรมการของ Alphabet และยังคงมีส่วนในการกำหนดทิศทางของบริษัท โดย Pichai จะรับตำแหน่ง CEO ของทั้ง Google และ Alphabet

กว่า 2 ทศวรรษภายใต้การบริหารดูแลของ Brin และ Page ทำให้ Google มีเอกลักษณ์ รูปแบบและทิศทางที่ชัดเจนมาตลอด จึงเป็นภาระต่อของผู้นำคนต่อไปอย่าง Pichai ว่าจะนำพาองค์กรแห่งนี้ให้เป็นไปในทิศทางใด จะคงเอกลักษณ์รูปแบบเดิมหรือปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีภาพลักษณ์ใหม่หรือไม่ ทั้งหมดนี้ “เวลา” จะเป็นเครื่องพิสูจน์ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ