ในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันสิ่งที่ต้องคำนึงถึง Digital Transformation Strategy for SME หรือกลยุทธ์สำหรับการอยู่รอดในยุคดิจิทัล แล้วทำไมเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทำไมต้อง digital Transformation
Digital Transformation ไม่ได้หมายถึงแค่ Digital Marketing แต่หมายถึงองค์รวมในการยกระดับธุรกิจจากโหมดธุรกิจธรรมดาสู่โหมดการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ทำไมวันนี้ต้องมีการ transformation หากมองไปข้างหน้าในอนาคต 1 ปี หรือ 2 ปี หรือ 5 ปี หรือ 10 ปี ธุรกิจเราจะอยู่ตรงจุดไหนของโลกใบนี้ จะเป็นธุรกิจที่ร่วงโรยไป หรือเป็นธุรกิจที่อยู่รอด หรือจะอยู่ในสถานะที่ร่ำรวย เพราะการทำธุรกิจจะไม่คิดแค่พออยู่ได้ แต่ต้องคิดว่าในระยะยาวธุรกิจเราจะยังอยู่ได้ไหม
ธุรกิจมีรอบการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคเกษตร ยุคอุตสาหกรรม แต่ละยุคมีช่วงเวลาของธุรกิจ มาถึงวันนี้หากเราไม่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่โหมดดิจิทัล จะเกิดปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งมีตัวอย่างเป็นกรณีศึกษาในธุรกิจสาขาอาชีพต่าง ๆ
ทำไมธุรกิจต้องทำ Digital Transformation
1. ธุรกิจร้านอาหาร
– มีโอกาสร่วง ร้านข้าวแกงหรือร้านขนาดเล็กตั้งอยู่ข้างทาง ที่ไม่ใช้เครื่องมือหรือโหมดดิจิทัลเข้ามาช่วย จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้คนเข้าร้านประเภทนี้น้อยลงมาก
– อยู่รอด ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจอาหาร (Food Chain Restaurant) ที่อาจมีการใช้เรื่องราว story หรือใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดึงดูดลูกค้าที่อยู่บนโลกออนไลน์ให้ไปใช้บริการที่ร้าน เมื่อลูกค้าไปที่ร้านจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ร่วมประสบการณ์ อาจเป็นการสะสม การถ่ายรูป เป็นต้น ธุรกิจร้านอาหารประเภทนี้อาจจะอยู่รอดได้ใน 1 – 2 ปี
– แบบไหนที่รวย ร้านอาหารที่ใช้แพลตฟอร์มเข้ามาช่วย ที่ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้บนแพลตฟอร์ม แล้วมีการจัดส่ง delivery ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันไม่ต้องการออกไปซื้อของ ต้องการความสะดวกสบาย ถึงแม้ธุรกิจร้านอาหารประเภทนี้จะไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง เพียงมีแพลตฟอร์มก็สามารถรวยได้
2. ธุรกิจการผลิตโทรทัศน์
– ร่วงไปแล้ว โทรทัศน์รุ่นที่ใช้หลอด LED ในยุคปัจจุบันไม่มีผลิตแล้ว จบรอบในเรื่องเทคโนโลยีแบบหลอดไปแล้ว
– พออยู่รอด โทรทัศน์ที่ใช้การต่อสายเคเบิ้ล หรือสมาร์ททีวี ที่สามารถเลือกดูจากโทรศัพท์มือถือได้ เลือกหาช่วงเวลาในการรับชมได้
– ธุรกิจที่รวย โทรทัศน์หรือทีวีที่อยู่บนมือถือ อยู่บนโลกออนไลน์ เป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตขึ้นมาใหม่ เช่น Netflix เป็นต้น
3. ธุรกิจค้าขาย
– มีโอกาสร่วง ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม traditional ไม่มีเครื่องมือเข้ามาช่วย มีโอกาสร่วงสูงมาก กรณีตัวอย่างจากข่าวตลาดสำเพ็ง ตลาดเยาวราช หรือห้างสรรพสินค้าที่แทบจะไม่มีคนเดิน ด้วยยุคธุรกิจที่เปลี่ยนไป
– พออยู่รอด การขายของแบบใช้เทคโนโลยีผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น มีการไลฟ์สดขายสินค้า แบบนี้เป็นธุรกิจที่พออยู่รอด
– รวย ธุรกิจเจ้าของแพลตฟอร์ม เช่น เฟสบุ๊ค ติ๊กต๊อก ไลน์ หรือยูทูปต่าง ๆ การเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มรวยได้ เพราะมีผู้คนกลุ่มผู้บริโภคอยู่ในแพลตฟอร์ม ที่สามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์หรือข้อมูลต่าง ๆ
หากวันนี้ยังทำธุรกิจแบบดั้งเดิม เทคโนโลยีเก่า มีโอกาสร่วงแน่นอน หรืออาจจะอยู่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าต้องการจะรวยต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันจะทำให้ธุรกิจรวยได้นานแค่ไหน ในอนาคตอาจมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา เช่น อาจไม่ต้องใช้มือถือหรือหยิบจับโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกต่อไป อาจฝังอยู่ในมือในแขนหรือในเนื้อตัวของเราก็เป็นได้ เทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนเคลื่อนไป แล้วธุรกิจเราเลือกที่จะร่วง จะรอด หรือเลือกที่จะรวย
ดังนั้น ต้องดูว่าทุกวันนี้ธุรกิจเราอยู่ในโหมดไหน เราได้ใช้เทคโนโลยีหรือดิจิทัลอะไรเข้ามาช่วย เพื่อจะให้ร้านเราอยู่รอดได้ก่อน แล้วจึงค่อยวางแผนการพัฒนาต่อไปว่าเทคโนโลยีอะไรที่เข้ามาทำให้ธุรกิจเรารวยได้
ดิจิทัลคล้ายกับคลื่นสึนามิ ที่เข้ามาทำลายล้างทุกอย่าง โดยไม่สนว่าธุรกิจเราเป็นธุรกิจอะไร หากเป็นธุรกิจแบบดั้งเดิม Traditional business และไม่ยอมเปลี่ยนแปลง จะถูกทำลายโดย Digital Tsunami ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมายในหลายประเภทธุรกิจ
4. มหาวิทยาลัย
ภายใน 5 ปี เตรียมตัวเจ๊ง ช่วงเวลาของการเรียนสั้นกว่าการเรียนรู้จากโลกภายนอก นักศึกษาสามารถค้นหาข้อมูลออนไลน์ได้ เรียนผ่านออนไลน์ข้ามประเทศได้ วิชาชีพมีลักษณะเจาะจงมากขึ้น มีการนำความรู้ในหลากหลายศาสตร์มาประกอบการทำธุรกิจ ประกอบการใช้ชีวิตได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายคณะหลายมหาวิทยาลัยที่มีคนเรียนน้อย เริ่มปิดตัวลง เพราะการเรียนในปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่ใบปริญญาอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีผลที่ต้องใช้บ้างในการทำงานเบื้องต้น แต่การใช้ชีวิตในการทำธุรกิจนั้น การศึกษาเรียนรู้อยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัยแทบทั้งสิ้น เห็นหลายตัวอย่างที่จบปริญญาโท หรือปริญญาเอก แต่มาทำงานเป็นคนขับรถแกร็บส่งของ เพื่อที่จะมีอาชีพให้เอาตัวรอดได้ในยุคปัจจุบัน
ธุรกิจเราก็เช่นกันจะทำอย่างไรให้มันอยู่รอด ทำอย่างไรให้เราสู้กับเรื่องของดิจิทัลได้ อย่าชะล่าใจว่าธุรกิจเราไม่มีผลกระทบ
5. หุ่นยนต์ AI แทนที่คน
ในโลกอนาคตต่อไป ผู้คนก็จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ต่าง ๆ AI เข้ามาทำงานแทนเรา ดังตัวอย่าง
-- อาชีพผู้ประกาศข่าวหรือผู้รายงานข่าว มีมนุษย์หุ่นยนต์ สร้างมาจากเทคโนโลยีดิจิทัล สามารถรายงานข่าวได้เหมือนคน อาชีพนักรายงานข่าวในอนาคตก็อาจสูญหายไป
– ผู้พิพากษาต่างประเทศ มีที่มาจาก AI แล้ว ซึ่งเป็นอาชีพเกี่ยวกับการตีความข้อกฎหมายต่าง ๆ พิจารณาในชั้นศาล เมื่อใช้ AI ที่มีการประมวลผลที่รวดเร็วกว่าคน มีความแม่นยำและเที่ยงตรงสูงกว่า ไม่มีความอคติส่วนตัว จึงจะมาแทนที่คนในที่สุด
– พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ร้านอาหารในอนาคต อาจไม่มีคนเสิร์ฟแล้ว มีหุ่นยนต์ช่วยเสิร์ฟแทน
– โรงงาน ซึ่งมีการใช้หุ่นยนต์มานานแล้ว แต่จะมีความฉลาดมากยิ่งขึ้น เข้าไปช่วยเรื่องของ Big data และเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้มากมาย
6. เทคโนโลยีในการขนส่ง
อาชีพขนส่งในอนาคตอาจไม่มีคนขับรถ ในต่างประเทศมีการบริการส่งของด้วย Drone สามารถส่งของได้เป็นร้อยกิโลกรัม ส่งของได้รวดเร็ว และประหยัด เกิดจากการใช้เทคโนโลยีทั้งสิ้น อาชีพที่ท่านทำมีโอกาสที่จะโดนเทคโนโลยีดิจิทัลทำลายล้างอย่างแน่นอน
ทำไมธุรกิจต้องทำ Digital Transformation ให้ตอบตัวเองให้ได้ว่าธุรกิจของเราในอีก 1 ปี 2 ปี 3 ปี หรือในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หากยังตอบไม่ได้เตรียมตัวร่วงได้เลยครับ
บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัว
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME